ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 42 คุณผู้ชายเย่ ผมไม่ถูกไปแล้ว

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 42 ออนไลน์
หวังเถิงเฟยไม่รู้จักว่าเหตุผลเป็นอย่างไร โดยเหตุนี้ก็เลยรู้สึกกระสับกระส่ายในใจ ช่วงนี้ผู้เรียนผู้คนจำนวนมากต่างก็จ้องเขา เขาทำเป็นเพียงแค่กัดฟันกรอด แล้วติดต่อหาบุคคลอื่น
เขาโทรไปพบผู้ที่รับผิดชอบสำนักตำรวจสันติบาลระดับเขตอีกรอบ
คนนี้ก็รู้จักกับบิดาของเขาอยู่ไม่น้อย
เพียงพอโทรติด หวังเถิงเหยก็กล่าวขึ้นในทันที : “ผู้อำนวยการเฉิน นี่ผมเอง หวังเถิงเฟย ผมเผชิญปัญหาที่เขตเริ่มต้นเกี่ยวกับ……”
หวังเถิงเฟยเล่าทั้งผองให้เขาฟัง
อีกฝั่งนั้นบอกขึ้นอย่างขวยเขิน : “เถิงเฟย พวกนั้นเป็นคนของเปียวจื่อ เขาเป็นคนของท่านหงห้า ทางที่ดีอย่าไม่ยุ่งกับประเด็นนี้เลยคะ”
หวังเถิงเฟยถามขึ้น : “คุณจะไม่ช่วยเลยหรอ?”
อีกฝั่งเลยตอบว่า : “ตำแหน่งของท่านหงห้านั้น คุณเองก็คงจะรู้จักดีนะ”
หวังเถิงเฟยเองก็รู้สึกหวั่นหวาดน้อย พลางบอกขึ้น: “แล้วคุณสามารถช่วยบอกเพื่อไว้หน้ากับเขาบ้างได้หรือไม่?”
อีกฝั่งยิ้มแห้งพลางบอกขึ้น : “อันนี้ผมช่วยไม่ได้จริงๆขออภัยด้วยนะ”
หวังเถิงเฟยกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ผู้อำนวยการเฉิน ผมคิดออกว่าคุณต้องการให้กรุ๊ปบริษัทบริจาครถยนต์ตำรวจให้ท่านไม่ใช่หรอ? หรือคุณไม่ต้องการได้แล้ว?”
อีกฝั่งตอบกลับมาทันหน อย่างไม่เกรงใจ : “หวังเถิงเฟย บิดาของคุณถูกไล่ออกแล้ว คุณไม่ทราบหรอ?”
“ไล่ออก!? เรื่องเกิดขึ้นตอนไหน?”
“ครึ่งชั่วโมงก่อน!”
และก็เขาก็บอกขึ้นอีก : “คุณคิดให้ดีก่อนค่อยกล่าวจะดีมากยิ่งกว่านะ”
บอกจบ เขาก็ตัดสายโดยทันที!
ชายหน้าบากหันไปมองดูเขาที่ดูท่าทีอึ้งๆพลางเยาะเย้ย : “เพราะอะไร? หาไม่ได้หรอ?”
หวังเถิงเหยกำลังจะบอกขึ้น โดยที่ไม่คิดว่าชายหน้าบากจะตบเข้าที่เข้าทางบริเวณใบหน้าตนเอง กระทั่งเขาถึงกับเซล้มทับโต๊ะเก้าอี้ล้มเป็นหน้ากอง!
ทุกๆอย่างพังทลายลงทลาย!
สีหน้าท่าทางทุกคนต่างขาวซีด แม้กระนั้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาขวางเขาไว้
“เอ็งกล้าตบฉันหรอ?”
หวังเถิงเฟยจับหน้าตนเอง บริเวณใบหน้าที่ขาวใสของเขาแสดงความโกรธขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันตบเอ็งแล้วมันเพราะอะไร?”
ชายหน้าบากหัวเราะออกมาอย่างหนำใจ และถีบเข้าที่เข้าทางท้องของหวังเถิงเฟย จนถึงเขาล้มไปกองที่พื้น ฉับพลันขึ้นไปคร่อมแล้วทำร้ายอย่างมาก!
หวังรนหาที่เฟยถูกตีจนกระทั่งร้องอวดคร่ำครวญ แต่ในเวลาแบบนี้นั้น ไม่มีผู้ใดที่สามารถจะช่วยเขาได้เลย
ผ่านไปไม่นาน เขาถูกตีราวกับหมูราวกับสุนัข มีเลือดอาบเต็มใบหน้า ดูแล้วน่ากลัวอย่างยิ่ง
เขาถูกตีกระทั่งหัวหด ทั้งยังร้องไห้อีกทั้งขอชีวิต : “พี่ พี่ ผมไม่ถูกไปแล้ว! อย่าตีผมเลยจ๊า!”
“ไม่ถูกไปแล้วถ้าเช่นนั้นหรอ?” ชายหน้าบากสบถแล้วบอกขึ้น : “ไม่ถูกแล้วหลังจากนั้นก็เพียงพอหรอ? อย่ามาหลอกลวงกับฉัน ฉันไม่ตีมึงให้ตาย ถัดไปจะมีหน้าอยู่ได้อย่างไร?”
พูดเฉไฉร็จ เขาก็หันไปบอกกับบุคคลอื่น : “แม่ง ตีมันให้ตาย!”
คนทั้งยังกรุ๊ปต่างรุมเข้าไป รวมทั้งรุมเตะหวังเถิงเฟยในทันที!
บางบุคคลก็ใช้กระบอกเหล็กฟาดลงไปที่ตัวเขา ในขณะนี้เหตุการณ์นั้นมองน่าอเนจอนาถใจมากมาย
เพียงพอมีความเห็นว่าหวังเถิงเฟยถูกตีจวนตายแล้ว ชายหน้าบากก็เดินมาด้านหน้าของหวังเต้าปะทุน แล้วพูดเสียงขู่ : “เพื่อนพ้องของมึงโดนไป ตอนต้นมีเพียงแค่สองขา แต่ว่าในช่วงเวลานี้เปลี่ยนเป็นสี่ขาแล้ว! หากว่ามึงไม่รับปากละก็ เอ็งก็จะเป็นอย่างนั้น!”
หวังเต้าลุกนกระวนกระวายดวงใจในทันที แม้กระนั้น พอเพียงบอกว่าอยากได้ส่วนแบ่งจำนวนหนึ่งในสี่ของตนเอง โน่นก็พอๆกับว่าตนเองจำเป็นต้องดำเนินการให้เขาแบบนั้นไม่ใช่หรอ?
ด้วยเหตุดังกล่าวเขาก็เลยบอกขึ้นด้วยความองอาจ : “ถ้าเกิดจะให้ฉันเป็นแบบงั้น ถ้าเช่นนั้นเอ็งไม่สู้ฆ่าฉันเหอะ!”
ชายหน้าบากย่นคิ้ว แล้วกล่าวเสียงดังยากเย็นแสนเข็ญ : “ได้! ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยเหลือให้!”
บอกจบ เขาก็ดึงมีดปลายแหลมออกมาจากกระเป๋า
ทุกคนต่างตกอกตกใจกระทั่งนิ่งไป นักเรียนผู้หญิงต่างพากันกรีดขึ้น
เย่เฉินมีความเห็นว่าปลายมีดกำลังจะฟันลงที่มือของหวังเต้าปะทุน เขาก็เลยกล่าวขึ้นโดยทันที : “ทิ้งมีดโน่นซะ!”
ชายหน้าบากหันมาอย่างโกรธ พลางสบถด้วยคำประณาม : “คนใดกันยังต้องการจะรนหาที่ตายอีก?”
พอเพียงหันไปมองเห็นเย่เฉิน สายตาของเขาก็ดูเหมือนกับว่ากำลังไตร่ตรองครุ่นคิด ต่อไปก็เปลี่ยนเป็นกลัว มีเสียงของตกลงที่พื้น แล้วเขาก็ทันทีย่อเข่าลง!
และก็ตอนทุกคนยังไม่ทันรู้สึกตัวนั้น ชายหน้าบากก็ได้ทิ้งมีดปลายแหลมเล่มนั้นแล้ว แล้วทุกคนต่างก็ก้มตัวเคารพเขา พลางบอกขึ้นด้วยเสียงสำนึกผิด : “ขออภัยด้วยนะครับคุณผู้ชายเย่! ผมมีตาแม้กระนั้นไม่มีแวว มองไม่เห็นว่าคุณอยู่ตรงนี้!”
เย่เฉินหยุดชะงักไปเล็กน้อย พลางหันไปดูชายหน้าบาก : “เอ็งรู้จักฉันหรอ?”
ชายหน้าบากก้มศีรษะอย่างรวดเร็วและก็กล่าวขึ้น : “คุณผู้ชายเย่ ผมเป็นลูกน้องของพี่เปียว เคยได้เห็นคุณที่เทียนเซียงฝู่……”
เย่เฉินรู้เรื่องทุกสิ่งในทันที
ที่จริงก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
วันนั้นผู้ที่มาหาเรื่องหวังเหวินเฟยกับเซียวไห่หลงก็คือลูกน้องของท่านหงห้า ที่ชื่อเปียวจื่อรวมทั้งคนนี้ก็เป็นลูกน้องของเปียวจื่อ
มิน่าเล่า พอเพียงแลเห็นเขาแล้วถึงกับกลัวเลยโดยทันที
ขนาดหงห้ามองมองเห็นเขายังหัวเข่าอ่อนเลย ประสาอะไรกับลูกน้องของหงห้า……
เพื่อนพ้องในห้องต่างพากันอึ้งอัศจรรย์ใจไปหมด! หลิวลี่ลี่เองก็นิ่งเสมือนตนเองอยู่ในฝัน
ทุกคนต่างไม่รู้เรื่อง ว่าเพราะอะไรกรุ๊ปอันธพาลทารุณโหดร้ายอย่างนี้ ที่ขนาดหวังเถิงเฟยยังถูกตี จะมายอตัวให้กับคนอย่างเย่เฉิน! แถมยังมีท่าทางว่ากลัวเขามากมายด้วย?
เซียวยกหรันเองก็มองดูอย่างงงงวยๆพลางถามขึ้น : “นี่มันเรื่องอะไร? นายรู้จักเขาหรอ?”
เย่เฉินกลัวว่าคุณจะเข้าจิตใจไม่ถูกว่าเขาไปมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ ก็เลยรีบกล่าวขึ้น: “ฉันไม่เคยทราบพวกมัน!”
ชายหน้าบากมองเห็นแบบนั้น ก็เลยรีบบอกขึ้น : “ไม่ทราบไม่เคยรู้! ฉันไม่เคยรู้คุณผู้ชายเย่ คุณผู้ชายเย่ก็ไม่เคยทราบฉันด้วย ฉันเพียงแค่ได้ยินเกียรติศักดิ์ของคุณผู้ชายเย่แค่นั้น แล้วก็นับถือ……”
การยกยอคนอย่างนี้มันช่าง……
ยกย่องเย่เฉินหรอ?
ทุกคนเกือบจะเชื่อว่ากับสิ่งที่มองเห็น ราวกับว่าเป็นภาพจินตนาการ!
ชายหน้าบากรีบหันไปกล่าวกับหวังเต้าลุกนในทันที : “คุณเป็นเพื่อนของคุณผู้ชายเย่ ถ้าเช่นนั้นภายหลังจากนี้ตรงนี้ผมจะเป็นคนดูแล แต่ว่าไม่เก็บค่าดูแลจากพวกท่าน! หากมีเรื่องมีราวอะไร ผมจะช่วยเหลือให้ความยุติธรรมกับคุณเอง!”
เพียงพอเขาบอกออกมาอย่างนั้น ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านทุกคนต่างพากันอึ้ง!
หลิวลี่ลี่เองก็ตะลึงงันจนกระทั่งแทบร้องไห้
ฟ้าดินนี่ก็ตามแปรไปจนกระทั่งน่าตกใจมากมาย!
เป็นเพราะเหตุว่าบารมีของเย่เฉิน คุณถึงไม่ต้องเสียส่วนแบ่ง 40% ให้เขา และก็ที่สำคัญ ชายคนนี้เพื่อไม่ให้แตกแยกขัดแย้งกับเย่เฉิน ยังยอมมาปกป้องร้านค้าให้โดยไม่คิดเงินอีก!
รวมทั้งคราวนี้คุณก็เพลิดเพลินใจสำหรับการทำธุรกิจแล้ว!
เย่เฉินช่างเป็นผู้มีบุญคุณจริงๆ!
หวังเต้าระอุนรู้สึกตื้นตันอย่างยิ่ง พลางบอกขึ้น : “เย่เฉิน หัวข้อนี้จำต้องขอบคุณมากนายมากมายๆเลยจ้ะ”
เย่เฉินยิ้มๆ: “ยังจะมาขอบคุณมากเพราะเหตุใดกัน นายก็เกรงอกเกรงใจเหลือเกินแล้ว”
ชายหน้าบากหันไปมองเห็นหวังเถิงเฟยที่ถูกตีเกือบตาย ก็โดยพลันกล่าวขึ้นอย่างกลัว : “ขออภัยด้วยขอรับคุณผู้ชายเย่ ผมจัดแจงเพื่อนพ้องคุณ……”
เย่เฉินกล่าวเสียงดังปกติ : “ช่างเถิด เขาไม่ใช่เพื่อนฝูงฉัน เพียงแค่คนรู้จักกันแค่นั้น แล้วหลังจากนั้นก็มิได้มีความเชื่อมโยงอะไรมากมายด้วย”
พูดเชือนแชร็จ แล้วเขาก็กล่าวต่อ : “พวกนายพาเขาไปส่งโรงหมอเหอะ ประเดี๋ยวจะมีปัญหาสำหรับการเปิดร้าน”
ชายหน้าบากก้มศีรษะรับ : “ถ้าอย่างนั้นเราจะพาเขาไปส่งโรงหมอเวลานี้! คุณผู้ชายเย่สนุกสนานต่อเลย เราไม่ก่อกวนแล้ว!”
บอกจบเขาก็เรียกลูกน้องมา พลังหามหวังเถิงเฟยออกไปอย่างเร่งร้อน
สายตาที่ทุกคนหันมาจ้องเย่เฉินนั้น จากที่ดูถูกดูแคลนเขาก็เปลี่ยนเป็นตะลึงงัน จากตะลึงงันก็แปลงเป็นยกย่อง
ไม่มีผู้ใดรู้ดีว่า เพราะเหตุใดเขาถึงมีอำนาจมากมายขนาดนี้
ผู้ที่เกาะภรรยาอย่างเขา เหมือนว่าแปรไปเป็นคนละคน!
ในงานกินเลี้ยง ทุกคนต่างเข้ามาคุยกับเย่เฉิน แล้วก็หนึ่งในนั้นก็รวมทั้งหลิวลี่ลี่ ผู้ที่ลบหลู่ดูหมิ่นเขาคนแรกๆเลย
ในช่วงเวลานี้หลิวลี่ลี่ได้ให้ความยำเกรงกับเย่เฉินมากขึ้น พลางขอบคุณมากอย่าง แล้วยังเสนอการกินฟรีตลอดในร้านค้าให้เขาอีก
แม้กระนั้นเขากลับมิได้พอใจประเด็นนี้ สิ่งที่เขาทำลงไปในวันนี้นั้น ได้ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างลึกลับ!
ทุกคนต่างต้องการทราบ ว่าผู้ที่เกาะภรรยาอย่างเขานั้น มีฐานะอะไรกันแน่?
