ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 53 ยอตัวลง วิงวอนชีวิตหมาของเอ็งซะ

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 53 ออนไลน์
จ้าวตงโทรศัพท์โดยทันทีรวมทั้งพูดเสียงดัง “พี่เจ็ดในช่วงเวลานี้ฉันอยู่ที่โรงหมอชุมชน พี่พาคนมาสักสามสี่คนมาตรงนี้หน่อย ฉันต้องการฆ่าเด็กอันธพาลคนหนึ่ง!”
เย่เฉินมิได้โทรศัพท์ แต่ว่าส่งข้อความถึงหงห้าโดยตรง “มาที่โรงหมอชุมชนหน มีคนปรารถนาฆ่าฉัน”
ท่านหงห้ารีบโทรกลับมาโดยทันทีแล้วก็พูดโพล่งถามออกมา “คุณเย่ สุนัขตัวไหนกันมันไม่หลอกลวงมองรึยังไง?”
เย่เฉินพูดเสียงค่อยๆ“หยุดพูดไม่มีประโยชน์ รีบมา”
ท่านหงห้าบอกในทันที “คุณเย่เชื่อใจเหอะ ฉันจะรีบไป!”
แรงวตงมองเห็นเย่เฉินโทรศัพท์กับใครซักคนอยู่ก็ยิ้มเยาะออกมา “เป็นอะไรไป เอ็งก็โทรเรียกคนมาด้วยถ้าอย่างนั้นหรอ?”
เย่เฉินยิ้มเย็นแล้วก็กล่าวว่า “บอกแล้วยังไง ว่าจะก่อให้พวกมึงตายอย่างน่าเศร้าน่ะ!”
แรงวตงเสมือนได้ยินเรื่องขำขันก็เยาะเย้ย “มึงเป็นบ้าหรือไม่ ในจินหลิงผู้ที่จะสามารถทำให้ฉันตายอย่างสลดได้ แม่มันยังมิได้คลอดออกมาเลย!”
หวังเต้าลุกนมานะที่จะลุกขึ้นยืนนั่งบนเตียงในโรงหมอรวมทั้งบอกอย่างใจจดใจจ่อ “เย่เฉิน นายรีบไปเร็ว อย่าไปมีเรื่องมีราวกับเพศชายคนนี้เลย นายไม่สามารถที่จะทำอะไรกับเขาได้
เย่เฉินเดินไปพบเขาแล้วดันเขากลับไปนอนบนเตียงรวมทั้งพูดเสียงเบาๆว่า “นอนลงเถิด”
หวังเต้าลุกนกล่าวอปิ้งร้อนใจ “นายไม่ทราบสิ่งที่ทำให้เกิดแรงวตงคนนี้ดี เครือญาติของเขามีอำนาจมากมายในจินหลิง…”
เย่เฉินปอกส้มแล้วยัดเข้าปากพลางบอกว่า “ผู้ที่ฉันไม่สามารถที่จะยุ่งได้ เขายังไม่กำเนิด!”
หลิวลี่ลี่หัวเราะแล้วก็กล่าวว่า “แม่เจ้า คุณนี่คุยโวได้จริงๆนั่นแหละ คุณทราบไหมว่าพี่แรงวตงที่บ้านเขาดำเนินการอะไร”
เย่เฉินตอบกลับว่า “ฉันไม่เคยทราบหรอกว่าครอบครัวของเขาทำอะไร ฉันทราบเพียงแค่ว่าเขาควรเป็นคนไม่สมประกอบไปทั้งชีวิต!”
บอกจบเขาก็กล่าวอีกว่า “อ๋ออีกอย่าง คุณเองก็ด้วย!”
บริเวณใบหน้าของหลิวลี่ลี่ก็ขรึมลงโดยทันที “ดี ในเมื่อเอ็งรนหาที่ตาย ถ้าอย่างนั้นมึงก็รอคอยความตายเสียเถิด!”
เย่เฉินถามหวังเต้าระอุนในเวลานั้น “เรื่องที่คุณถูกทำร้าย คุณหลิวเย่วเซินบิดาของหลิวลี่ลี่เข้าใจหรือยัง?”
“เข้าใจดีแล้ว”
หวังเต้าลุกนบอกว่า “ฉันโทรศัพท์หาเขาแล้ว”
เย่เฉินผงกศีรษะและก็ถามต่อ “เขากล่าวว่าอะไรบ้าง?”
หวังเต้าลุกนมองโกรธอบอวลรวมทั้งบอกว่า “เขาพูดว่าคือเรื่องของคนวัยหนุ่มสาว เขาไม่สามารถที่จะยุ่งได้ ความหมายของเขาก็คือไม่อยากให้ฉันไปพบกับเขา!”
เย่เฉินถามอีกว่า “แล้วเรื่องที่คุณลงทุนไป 100,000 หยวน ที่ห้องอาหาร คุณได้ขอเขาไหม?”
“ขอแล้ว!” หวังเต้าปะทุนแสดงออกถึงความหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็กัดฟันกล่าว “คนแก่โน่นกล่าวว่าเงิน 100,000 หยวน ของฉันมิได้ใช้ลงทุนในห้องอาหาร แม้กระนั้นเป็นการได้รับเกียรติยศให้เป็นลูกเขยในอนาคต เขายังบอกอีกว่าฉันไม่มีคุณลักษณะที่จะกลับไป และก็จะไม่คืนเงินให้ฉัน!”
“กล้าดีอย่างไร!” เย่เฉินตวาดเสียงเย็น “ไม่ฉงนใจเลยที่มีลูกสาวต่ำๆแบบนี้ ที่จริงก็เป็นคนบัดซบนี่เอง!”
“เย่เฉินนายกำลังกล่าวเรื่องอะไร?” หลิวลี่ลี่โกรธขึ้นมาโดยทันทีรวมทั้งพูดโพล่งออกมาว่า “กล้าดุด่าบิดาฉัน ฉันมีความคิดว่าอาจไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?”
เพียงพอกล่าวจบคุณก็เขย่าแขนของแรงวตงอย่างเร่งเร้าพลางฟ้องว่า “พี่ตงเขากล้าดุบิดาฉัน พี่จำเป็นต้องตีเขานะ!”
แรงวตงเป็นเพียงแต่เพลย์บอย ความสูงก็ไม่จัดว่าสูงมากมาย แล้วก็รูปร่างของเขาเข้าขั้นปกติ เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าเย่เฉินเขาตัวเตี้ยลงครึ่งเดียว
รูปร่างของเย่เฉินนั้นดีเลิศ ถ้าเกิดเขาสู้กับเย่เฉินมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะชนะเย่เฉิน นอกเหนือจากนั้นเย่เฉินเรียนมวยหวิงชุนจากบิดาของเขาอีกด้วย เมื่อในระหว่างที่เขายังเป็นเด็ก ภายหลังที่บิดาและก็แม่ของเขาจากไป เขาก็ไม่เคยยกเลิกสำหรับในการฝึกหัดที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า บางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุว่าวิธีการชกมวยที่เย่เฉินศึกษามาตั้งแต่เด็ก เขาเลยผิดรังควานในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
โดยเหตุนี้ถ้าเกิดเขาจะเอาการจริงๆนับประสาอะไรกับแรงวตง ถึงแม้ว่าจะเป็นแรงวตงสักห้าคน แม้กระนั้นก็ไม่ใช่คู่แข่งของเย่เฉินหรอก
ในใจของแรงวตงรู้ว่าหากเขาสู้ในตอนนี้ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านเขาจะทำอะไรมิได้รวมทั้งบางทีอาจเป็นเขาที่ถูกทำร้ายแทน ด้วยเหตุนั้นเขาก็เลยประสานมือของหลิวลี่ลี่และก็เอ่ยปลอบใจ “สุดที่รัก ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจ พี่เจ็ดกำลังพาคนมาตรงนี้! เมื่อพี่เจ็ดมาถึง พวกเราค่อยสังหารเขา!”
เย่เฉินส่งข้อความถึงผู้จัดการเฉินจื๋อข่ายของอพาร์เม้นท์พ่อยจินฮ่านกง “แรงวตงเป็นคนไหนในจินหลิง?”
เฉินจื๋อข่ายรีบตอบกลับในทันที “เครือญาติทำธุรกิจ โดยมากเป็นผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับหชูรวมทั้งการประมูลจำนอง มีอำนาจราวนั้น เขามาหาเรื่องกับท่านหรอขอรับ?”
“อือ” เย่เฉินตอบกลับด้วยใจความ “ฉันเรียกหงห้าให้มาตรงนี้แล้ว อีกอย่างนายช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
เฉินจื๋อข่ายรีบบอก “นายน้อยบอกมาได้เลยครับผม!”
เย่เฉินพูดว่า “ฉันอยากที่จะให้คุณพาบิดาของแรงวตงมาที่โรงหมอชุมชน รวมทั้งเพื่อนเก่าในจินหลิงที่มีส่วนร่วมสำหรับการประเมินวัตถุโบราณ ชื่อคุณหลิวเยว่เซิน ให้พาพวกเขามาหาฉันด้วย”
เฉินจื๋อข่ายบอกต่อในทันที “ได้ขอรับนายน้อย ผมจะพาพวกเขาไปพบท่านด้วยตัวเองเลยขอรับ!”
เย่เฉินบอก “นายไม่จำเป็นที่จะต้องออกหน้าเอง เพียงแค่ส่งคนไปทำแทน ฉันไม่อยากที่จะให้ผู้อื่นทราบว่าพวกเรารู้จักกัน”
“ได้ครับผมนายน้อย! ถ้าแบบนั้นให้ผมนำคนไปอบรมสั่งสอนไอ้เดนสองคนโน่นดีไหมนะครับ”
เย่เฉินกล่าว “จับมันไว้ก่อน แล้วผูกตัวเอาตัวพวกมันมา”
“ได้นะครับนายน้อย! ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับนายน้อยขอรับ สักครู่ผมจะออกคำสั่งไป!”
เย่เฉินมองไปที่แรงวตงรวมทั้งหลิวลี่ลี่และก็กล่าวอย่างเย็นชา “กล่าวกันว่าเป็นความไม่ถูกของบิดาที่ไม่อบรมสั่งสอนลูกชาย ฉันจะให้บิดาของพวกแกมาหาฉันในตอนหลัง แล้วก็เสวนาเกี่ยวกับแนวทางที่พวกเขาจำเป็นต้องสอนพวกเอ็งทั้งคู่คนด้วยตัวเอง!”
แรงวตงกล่าวด้วยบริเวณใบหน้าดำทะมึนว่า “ไอ้เด็กอันธพาล ฉันเสนอแนะให้นะว่าถ้าหากมึงยังไม่หยุด ไม่เช่นนั้นเมื่อคนของฉันมาถึง เอ็งบางครั้งอาจจะถูกตายจริงๆ!”
เย่เฉินตวาดกลับเสียงดัง “รีบเรียกคนของเอ็งให้รีบมา ฉันรอคอยเกือบจะไม่ไหวแล้ว”
แรงวตงกำลังจะอ้าปากดุด่าเย่เฉิน ในตอนนั้นประตูของห้องเช่าถูกเปิดออก โดยชายที่หน้าเสมือนขโมยก็พุ่งเข้ามากับคนอีกเจ็ดถึงแปดคนอย่างหยาบ
เมื่อแรงวตงมองเห็นพวกเขา เขาก็ชี้ไปที่เย่เฉินในทันทีและก็กล่าวว่า “พี่เจ็ด เป็นไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ ช่วยฉันฆ่ามันด้วย!”
พี่เจ็ดย่นคิ้วรวมทั้งบอกอย่างเย็นชา “เป็นมึงที่มายุ่งกับน้องชายของฉัน?”
เย่เฉินยิ้มเบาๆพลางก้มศีรษะตอบกลับว่า “เพราะเหตุไรถ้าอย่างนั้นหรอ? มึงต้องการออกสตาร์ทแทนเขาหรอ?”
พี่เจ็ดดูเขาอย่างสงสัย เจ้าเด็กนี่ไม่คุ้นหน้า ไม่เคยพบเขามาก่อนและไม่ทราบเนื้อหาที่ไปที่มา แต่ว่าเพราะเหตุไรเขาถึงไม่กลัวตนเองเลย
เขาก็เลยถามกลับอย่างยังคลุมเคลือว่า “เจ้าชายหนุ่ม มึงไปอยู่ไหนมา”
เย่เฉินกล่าวว่า “ฉันก็อยู่บ้านน่ะสิ”
แรงวตงรีบกล่าวเสริม “พี่เจ็ดเจ้าเด็กนี่เป็นเขยแต่งเข้า มันเป็นไอ้แมงดา”
ข้างหลังบอกจบเขาก็กระซิบกระซาบข้างหูอีกรอบ “เจ้าเด็กนี่ มันไร้คนรอเกื้อหนุน พี่ฆ่าความรู้ยได้โดยไม่ต้องวิตกกังวล ฉันจะสู้หน้าไว้เองถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้น”
“แมงดา?” พี่เจ็ดยิ้มและก็บอกว่า “ได้ ฉันจะหยุดเสียงนกเสียงกาของมันเอง ดูซิว่ามันยังจะมีหน้าไปเกาะเพศหญิงรับประทานอีกไหม!”
ไม่คอยให้เย่เฉินได้พูดโต้ตอบ เขาก็กวักมือเรียกผู้ที่อยู่ด้านหลังเขาเข้ามาในทันที “เวรเอ๊ย ฆ่ามันซะ!”
แรงวตงดูไปที่เย่เฉินรวมทั้งเยาะเย้ย “ไอ้แซ่เย่ แกมีคำบัญชาเสียไหม?”
เย่เฉินไม่สนใจเขา ตามองไปที่พี่เจ็ดแล้วก็พูดเสียงค่อยๆ“ยอตัวลงซะ แล้วฉันจะเว้นชีวิตลูกสุนัขอย่างมึง”
พี่เจ็ดตกตะลึง เขาทำเป็นแคะหูแล้วย่นคิ้วถามคำถามว่า “เมื่อกี้นี้มึงบอกว่ายังไงนะ บอกอีกครั้งสิ ฉันคำสัญญาเลยว่ามึงรอดไม่พ้นคืนวันนี้แน่!”
เวลานี้เองก็มีเสียงตะคอกดังมาจากนอกประตู “น้องเจ็ดคุณเย่บอกให้เอ็งยอตัวลงยังไง ไอ้นี่เอ็งหูหนวกรึยังไง?”
สีหน้าท่าทางของพี่เจ็ดก็ตกตะลึง เพราะอะไรท่านหงห้ามาอยู่ตรงนี้ล่ะ!
