ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 58 ดีนะที่มีนาย

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 58 ออนไลน์
“แน่ๆ นายเพียงแค่รับผิดชอบกล่าว”
ท่าฉียิ้มสุขุม แล้วก็บอกขึ้น “ฉันก็อยากทราบเช่นกัน พวกฉ้อฉลอย่างพวกนาย ธรรมดาหลอกคนกันอย่างไร”
เย่เฉินยักไหล่ แล้วบอก “ทีแรกๆผมก็ไม่ต้องการที่จะอยากเผยโฉมการคดโกงของพวกท่าน แต่ว่าพวกท่านขอมา ผมก็ไม่ทราบจะไม่ยอมรับยังไง”
“ฉ้อโกง นายจะกล่าวว่า เราตาไม่ถึงถ้าเช่นนั้นหรือ?”
กัวหมิงที่ธรรมดาอยู่เฉยไม่ไหวติง อยู่ๆก็หัวเราะแล้วก็บอกขึ้น
เย่เฉินมองไปครู่เดียว ยิ้มอย่างใจเย็นและก็บอกขึ้น “ในตรงนี้คุณนั่นแหละที่ทึ่มที่สุด……”
“มึง ต้องการตายหรือ!” กัวหมิงโกรธเป็นอย่างมาก
เย่เฉินไม่สนใจ เขากล่าวต่อ “หชูอย่างไรก็คือหชู ยังนับว่าพวกฉ้อฉลอย่างพวกท่านยังมีจิตสำนึก”
เขากล่าวต่อ “แม้กระนั้นหชูชิ้นนี้ไม่ใช่หชูเซว่ซือในยุควงศ์สกุลโจว และก็ยังมิได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยม ก็แค่หชูเหลืองเกรดเอชิ้นหนึ่งเพียงแค่นั้น ผิวไม่เลว รวมทั้งยังราคาแพง แต่ว่าราคาท้องตลาดแพงสุดก็แค่ห้าแสน”
“ถ่ม นายไม่เห็นสีแดงของหชูชิ้นนี้หรือ?” ท่านฉีกล่าวรวมทั้งดุขึ้น
เย่เฉินบอกต่อ “สีแดง ก็เป็นเนื่องจากว่าการกัดเซาะของแร่แมงกานีสที่มีสาร subanganate คุณคงจะไม่คิดว่ามันเปียกแฉะไปด้วยเลือดของผู้ดีหรอกใช่ไหม?”
“แล้วความรู้สึกว่าอุ่นๆที่เรารู้สึกได้ละ?” ฉินกางย่นคิ้วและก็รีบถามขึ้น
เย่เฉินสั่นหัวรวมทั้งบอก “สิ่งนี้ยิ่งใช้แนวทางน้อยกว่าอีก มีต้นเหตุที่เกิดจากต้นหญ้าของแอฟริกา นำรากของมันมาบดรวมทั้งละลายน้ำ นำหชูชิ้นนี้ลงไปแช่ตรงเวลาราวครึ่งปี ท้ายที่สุดก็ได้ผลสรุปนี้ออกมา อันที่จริงแล้วไม่ใช่ความรู้สึกอุ่นหรอก แต่ว่าเป็นอาการจิตหลอนประเภทหนึ่งเพียงเท่านั้น……..ต้องการปรับแต่งไม่ต้องการเลย นำไฟมาเผาหชูชิ้นนี้ก็ได้แล้ว”
“นี่เอ็ง! กล้าพูดพล่ามได้อย่างไร!” เจ้าอ้วนกล่าว รวมทั้งยืนขึ้นตบโต๊ะ
หลี่ไท่หลายหน้าดำคร่ำคร่าเครียด มองดูไปที่เจ้าอ้วน แล้วบอก “เอาหชูออกมาเผามองไหมล่ะ?”
เจ้าอ้วนเหงื่อไหลไคลย้อยไปท่วมตัว กล่าวขึ้น “เผาอะไรกัน เอ็งตั้งอกตั้งใจหลอกคนชัดๆพวกท่านอย่าไปฟังมันพูดจาเรื่อยเปื่อยและไร้สาระ”
ฉินกางใช้นิ้วเคาะโต๊ะ กล่าวขึ้น “ถ้าเกิดผ่านไฟ แล้วคุณลักษณะยังดังเดิม ฉันจะซื้อในทันที แต่ว่าถ้าเกิดไม่เหลือคุณลักษณะ นายทราบนะว่าจะกำเนิดอะไรขึ้น……เราเชื้อสายฉินถึงขณะนี้จะมีเรื่องมีราวเกิดขึ้น แต่ว่าใช่ว่าจะยอมคนอื่นๆมากมายดหัวได้อย่างง่ายดาย!”
ซ่งหวาดหวั่นถิงผงกศีรษะและก็บอก “หากสิ่งที่คุณผู้ชายเย่กล่าวไม่เป็นความจริง เอาไปผ่านไฟก็ไม่เป็นอะไร หชูเผาไปก็ไม่กำเนิดความย่ำแย่ แม้กระนั้นหากสิ่งที่คุณผู้ชายเย่กล่าวถูกละก็ นายจะต้องรับผิดชอบเรื่องในวันนี้”
เจ้าอ้วนนิ่งไปรวมทั้งเหงื่อแตกจนถึงท่วม
ทั้งยังสามเครือญาตินี้ เขาไม่อาจจะจะทำผิดต่อเครือญาติใดเครือญาติหนึ่งได้เลย
งานในวันนี้ เป็นเนื่องจากว่าท่านฉีอยากได้หลอกเงินจากซ่งหวาดหวั่นถิง ต่อไปค่อยแบ่งส่วนแบ่งกัน
คาดไม่ถึงว่าจะมีคนชื่อเย่เฉินเข้ามากัดกัน ทั้งยังยังเผยกลยุทธ์ทั้งปวงอีก
อันที่จริงแล้วก่อนหน้าที่ผ่านมาเย่เฉินมิได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหชู
แม้กระนั้นเป็นเนื่องจากว่าแบบเรียนเก้าเสวียนเทียนจิง ทำให้เขาเพียงพอมองออกว่าหชูชิ้นนี้มีปัญหา
รวมทั้งไม่รู้เรื่องว่าเพราะอะไร ในช่วงเวลาที่มองเห็นหชูชิ้นนี้ คำตอบพวกนั้นก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา
แม้กระนั้นดูแล้ว การตรวจทานหชูน่าจะเป็นเคล็ดวิธีส่วนใดส่วนหนึ่งที่อยู่ในแบบเรียนเก้าเสวียนเทียนจิง
เมื่อมีความเห็นว่าเจ้าอ้วนไม่ยินยอมกล่าว เย่เฉินก็ยิ้มอย่างใจเย็นแล้วก็กล่าวขึ้น “เพราะเหตุใด?กลัวแล้ว?ไม่กล้ารับคำท้าทายแล้ว?”
เจ้าอ้วนหน้าซีด แม้กระนั้นก็ปิดปากเงียบออกมาว่าจะยอมนำหชูไปเผาไฟหรือเปล่า
เวลานี้เย่เฉินบอกออกมาอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าอ้วน เอ็งมีความคิดว่าถ้าเกิดเอ็งไม่บอกออกมาแล้วมึงจะรอดหรอ มึงจะต้องรู้ดีว่านี่เป็นจินหลิง! คนพวกนั้นที่ถูกพวกเอ็งหลอกมา คนไหนกันแน่บ้างที่มิได้มาจากเครือญาติมั่งมีหรือมีอำนาจ เพียงแค่ชี้นิ้วหมายหัวก็ทำให้เอ็งเป็นผีไม่มีหลุมฝังศพอยู่ที่จินหลิงนี่ได้แล้ว ฉันเสนอแนะนะ ให้เอ็งรีบบอกความเป็นจริงมาซะดียิ่งกว่า ไม่อย่างนั้นก็อาจไม่มีผู้ใดที่สามารถช่วยมึงได้! ”
ซ่งหวาดหวั่นถิงรู้ว่าเย่เฉินกำลังใช้หลักจิตวิทยาสำหรับการให้กลัว คุณก็รีบผสมโรงเขาโดยทันที โดยกล่าวด้วยบริเวณใบหน้าเครียดว่า “เครือญาติซ่งของพวกเราในจินหลิงนับว่าเป็นเชื้อสายใหญ่ถ้าหากมีคนใดกล้าดีที่จะมาหลอก พวกเราก็คงจะจำเป็นต้องให้บทเรียนที่ฝังลึกกับมันพลาดท่า ถ้าเกิดเรายอมใจอ่อน มันก็คงจะมีผลกระทบต่อเกียรติศักดิ์ตระกูล! ”
เจ้าอ้วนผวาอึ้ง!
เขารู้ว่าตำแหน่งของเชื้อสายซ่งนั้นสูงศักดิ์แค่ไหน ถ้าหากซ่งหวั่นหวาดถิงขุ่นเคืองจริงๆเขาคงจะจำต้องได้แปลงเป็นศพในจินหลิงแน่!
ด้วยเหตุดังกล่าวเขาตระหนกและก็รีบตวาดใส่ท่านฉีอย่างหดหู่ว่า “ท่านฉีช่วยผมด้วย! นี่ไม่ใช่เรื่องของผมผู้เดียว!”
สีหน้าท่าทางของท่านฉีแปรไปทันทีทันใด พร้อมขู่คำรามอย่างขุ่นเคือง “เอ็ง… มึงกำลังกล่าวถึงเรื่องอะไร มึงพูดปดเชื้อสายซ่งของพวกเรา แล้วมึงยังจะมากล่าวโทษให้ฉันอีก ฉันจะฆ่ามึง!”
จากนั้นท่านฉีก็จับกริชออกมาจากกระเป๋าของเขา ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านแสงสะท้อนวาบในดวงตารวมทั้งพุ่งเข้าไปที่ชายอ้วนในทันทีทันใด
ชายอ้วนตาโพลงรวมทั้งตะคอกแช่ง “แม่เอ็งเถิด เอ็งนี่เปลี่ยนหน้าเร็วซะจริง เอ็งบอกข้าเอง การพิจารณาวัตถุโบราณเชื้อสายซ่งจำเป็นต้องอาศัยแก ตราบเท่าที่เอ็งบอกว่าได้ สิ่งนี้จะขายได้แน่ๆ แกรังแกฉัน!”
ซ่งหวาดหวั่นถิหาองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาแล้วบอกกับเย่เฉิน “คุณผู้ชายเย่พบเรื่องน่าหัวเราะเข้าเเล้ว ดีที่วันนี้คุณอยู่ตรงนี้ ในช่วงเวลานี้พวกเราออกมาจากตรงนี้ก่อนเถิด คนกลุ่มนี้ ครอบครัวของพวกเราจะส่งคนมาจัดแจง”
เย่เฉินผงกศีรษะนิดหน่อยและก็พูดว่า “เอาละ ถ้าเช่นนั้นสลับกันเถิด”
ต่อจากนั้นทั้งคู่ก็ลุกขึ้นยืนจัดเตรียมออกไป
เมื่อมีความคิดเห็นว่าซ่งหวาดหวั่นถิงกำลังจะจากไป ท่านฉีก็ตกอกตกใจ เขาไม่สนใจที่จะฆ่าชายอ้วนปิดปาก เขายอตัวลงบนพื้นรวมทั้งบอกว่า “หนูน้อย เว้นชีวิตฉันเหอะ เห็นแก่ผลงานที่ฉันทำเพื่อเครือญาติซ่งมาตลอด เพียงแค่ยกโทษฉัน เพียงแค่คราวนี้เพียงแค่นั้น… ”
ซ่งหวาดหวั่นถิงไม่กล่าวอะไร หลี่ไท่หลายก็ยืนขึ้นรวมทั้งยิ้มเย็น “คุณลุงนี่มันรนหาที่ตายจริงๆกล้าที่จะหลอกฉัน หลอกนายจ้างของมึง หลอกทีเดียวตั้งสองสามพันล้าน มึงรู้สึกว่าเชื้อสายซ่งจะปลดปล่อยเอ็งไว้หรอ? ”
ท่านฉีหน้าซีดและก็ทรุดนั่งลงบนพื้น
“รวมทั้งถึงเชื้อสายซ่งจะปลดปล่อยเอ็ง แม้กระนั้นฉันหลี่ไท่หลายจะไม่ปลดปล่อยเอ็งอย่างไม่ต้องสงสัย!” หลี่หลายกล่าว
ท่านฉีร้องไห้ฟูมฟายรวมทั้งยุบลงอย่างสมบูรณ์
เมื่อมองเห็นแบบนั้นซ่งหวาดหวั่นถิงก็ได้แม้กระนั้นสั่นศีรษะน้อยแล้วบอกกับเย่เฉิน “ฉันขออภัยคุณผู้ชายเย่ เชื้อสายซ่งวางใจคนผิด ทำให้ท่านมองเห็นเรื่องขำขันเข้าแล้ว”
เย่เฉินบอกอย่างเยือกเย็นว่า “พวกคนคิดคดมันมีอยู่ทุกๆที่ หนูน้อยซ่งไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวอย่างนั้นหรอก”
เดี๋ยวนี้หลี่ไท่หลายจากเมืองไห่พากัวหมิงและก็ ฉินกั่งจากเชื้อสายจินหลิงฉินออกมาครั้งละคน
เมื่อหลี่ไท่หลายมองเห็นเย้เฉิน ก็รีบรุดไปจับมือเย่เฉินพร้อมบอกว่า “คุณครูเย่วันนี้เจ้าจำต้องขอบคุณมากคุณมากมาย ไม่อย่างนั้นเครือญาติหลี่บางบุคคลน่าจะถูกเจ้าหมาตัวนั้นหลอก!”
กัวหมิงที่อยู่ด้านข้างเขาก็กล่าวด้วยความขายขี้หน้า “ปรมาจารย์เย่เป็นวีรบุรุษจริงๆเมื่อครู่คนวัยแก่ๆไม่สามารถที่จะมองเห็นบทความที่พวกมันทำไว้บนหินหชูได้ น่าละอาย น่าละอาย!”
ฉินกั่งยังนับถือขอบพระคุณแล้วบอกว่า “คุณผู้ชายเย่ขอบพระคุณคุณจริงๆในวันนี้ มิเช่นนั้นเราทั้งยังสามเชื้อสายคงจะแย่งประมูลของที่เป็นของปลอมกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การสูญเสีย แต่ว่าถ้าเกิดเรื่องหลุดออกไปคงมีคนหัวเราะจนกระทั่งฟันหล่น! ”
เย่เฉินยิ้มบางส่วนรวมทั้งบอกอย่างแผ่วเบา “ทุกคนไม่ต้องเกรงอกเกรงใจ แรกเริ่มผมได้รับเชิญชวนจากหนูน้อยซ่งให้มาตรงนี้เพื่อสำรวจความถูกต้องชัดเจนของสิ่งต่างๆฉะนั้นนี่ก็เลยเป็นหน้าที่ของผมเองด้วย”
ภายหลังที่ทุกคนแยกย้ายเย่เฉินก็เข้าไปในรถยนต์พร้อมด้วยซ่งหวั่นหวาดถิง
เดี๋ยวนี้มีแม้กระนั้นความเงียบในลานข้างหลังเขา
แม้กระนั้นเย่เฉินสามารถมองเห็นได้ว่าเมื่อทุกคนก้าวเท้าออกไปจากสถานที่ ก็มีคนชุดสีดำสองสามคนเดินเข้าไปอย่างเร็ว
ดูราวกับว่าท่านฉีและก็ชายอ้วนจะรอดยากแล้วโอกาสนี้!
