บัญชามังกรเดือด - ตอนที่ 833
ร่างทั้งสองมีใบหน้าที่เปลี่ยนไปทั้งหมด และร่างกายก็ขาดวิ่นจนแทบไม่เหลือชิ้นดี บนหน้าอกถูกกระแทกด้วยหิน มีคนหนึ่งที่มีไฝเม็ดหนึ่งตรงหน้าอก
ส่วนอีกคนหนึ่ง กลับเกลี้ยงเกลา ไม่มีอะไรอยู่เลย
ซากศพที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองร่างนี้ จี้ซิงยังคงนิ่งขรึม เดิมทีเขาคิดว่า เหล่าหลางเชื่อในตัวเองแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่า เขาจะทำอย่างนี้ออกมาอย่างคาดไม่ถึง เพื่อทดสอบตัวเอง
ถ้าเกิดว่าตัวเองเลือกผิด เช่นนั้นก็จะพิสูจน์ตัวเองว่าสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้ไม่น่าเชื่อถือ
เรื่องที่เขาเคยนอนด้วยกันกับฉินเทียนมาก่อน ที่จริงแล้วมันเป็นคำพูดที่เขาโกหกขึ้นมาเท่านั้น ข้าไม่ได้เป็นผู้หญิงของเขาเสียหน่อย แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขามีหรือไม่มีไผ
มีเพียงสิ่งน้อยนิดที่เขาสามารถยืนยันได้ ว่าศพทั้งสองนี้ ต่างก็ไม่ใช่ศพของฉินเทียน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีหลักฐาน แต่ทว่ามองเพียงพริบตาเดียว เขาก็รู้ได้แล้ว
นั่นเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งอย่างหนึ่ง
“นายน้อยจี้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
“หรือว่า แม้แต่คุณก็จำไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
จี้ซิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ความเสียหายเลวร้ายมากเกินไป ไฝเพียงเม็ดเดียว เป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถสรุปออกมาได้ ถึงแม้ว่าฉันจะเคยนอรด้วยกันกับฉินเทียน แต่พวกคุณคงไม่คิดว่า ชายหนุ่มสองคนอย่างพวกเรา จะถอดเสื้อผ้านอนกันหรอกใช่หรือไม่?”
ภาพที่อยู่ตรงหน้านั้นงดงามเกินไปนั้น เพียงแค่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทำให้คนกลัวจนตัวสั่นได้แล้ว
ผู้เฒ่ากล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “พูดเช่นนี้ แปลว่าคุณไม่มีทางแยะแยะได้อย่างนั้นหรือ?”
จี้ซิงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “บอกฉันมาสิ พวกคุณฆ่าเขาอย่างไร”
“และอีกศพหนึ่งนั้นเป็นใครกัน?”
เหล่าหลางถอนหายใจ “พวกเขาถูกล่าโดยคนของเรา พอจนตรอกก็ตัดสินใจกระโดดจากหน้าผาเพื่อฆ่าตัวตาย ซากศพเลยมีสภาพเช่นนี้แหละ”
“โธ่เอ้ย เดิมก็คิดว่า ด้วยความช่วยเหลือของนายน้อยจี้ จะสามารถแยกได้ว่าคนไหนคือฉินเทียน”
“เรื่องนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ ฉินเทียนได้ตายไปแล้ว!”
“ฮ่า ๆๆๆ เจ้าหัวขโมยฉินเทียน แกมาสร้างความอับอายขายหน้าให้กับภรรยาที่รักของฉัน และยังอยากจะครอบครองทรัพย์สินฉันอีก ไม่คาดคิดเลยว่าแกก็มีวันนี้ได้เหมือนกัน!”
“ฉันเคยบอกว่าจะสับร่างกายของแกเป็นชิ้น ๆ ในที่สุดตอนนี้ก็ทำให้มันเรื่องจริงได้แล้ว!”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น จี้ซิงก็พุ่งตรงไปหาบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งทันที
บอดี้การ์ดคนนั้นร้องอุทานด้วยความตกใจ และยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง มืดที่เอวของเขา ก็ไปอยู่ในมือของจี้ซิงเรียบร้อยแล้ว
“ระวัง!” เมื่อเหล่าหลางเห็นว่าจี้ซิงคว้ามีดไว้ได้ ยังคิดว่าเขาต้องการที่จะสู้กลับ จึงถอยหลังอย่างรีบร้อนด้วยความตกใจ บอดี้การ์ดโดยรอบเตรียมที่จะพุ่งเข้าไปล้อมจี้ซิง
ได้ยินเพียงแค่เสียงร้องตะโกนของจี้ซิง และเมื่อเขาสะบัดมือ มีดผีเล่มนั้นก็เปล่งประกายสว่างวาบขึ้น
สับครั้งที่หนึ่ง สับครั้งที่สอง สับครั้งที่สาม…
นึกไม่ถึงเลยว่าเขาลงมือเพียงแค่หนึ่งครั้ง ก็สับลงไปถึงเจ็ดครั้งติดต่อกัน
มีแสงเย็นวูบวาบและใบมีดก็สับลงไปบนร่างทั้งสองที่อยู่บนพื้น มันเป็นเหมือนกับเนื้อที่อยู่บนเขียงอย่างไรอย่างนั้น
เพียงชั่วพริบตาเดียว ซากศพที่เดิมทีก็ขาดวิ่นมากอยู่แล้วก็ถูกทำให้กลายเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน
“เจ้าหัวขโมยฉินเทียน ข้าจะสับแกให้เป็นเนื้อบดไปเลย!”
เขาได้ระบายความโกรธออกมา ราวกับสับใส้ของเกี๊ยวอย่างไรอย่างนั้น การสับแต่ละทีนั้นเป็นไปอย่างสะเปะสะปะ สงสารก็แต่ศพทั้งสองร่างนั้น เดิมทีก็น่าเวทนาจนทนดูไม่ได้อยู่แล้ว แต่ทว่าตอนนี้ เกือบที่จะกลายไปเป็นใส้ของเกี๊ยวไปแล้วจริง ๆ
หยดเลือดและเศษเนื้อปลิ้วว่อน และยังมีอีกมากที่เปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าของจี้ซิง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ เมื่อมองดูแล้วก็เป็นเหมือนปีศาจนรกอย่างไรอย่างนั้น
ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างก็พากันตกตะลึงไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนเริ่มอาเจียนออกมา พวกเขาตัวโค้งงอ และรู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนอย่างสิ้นหวัง
เหล่าหลางก็รู้สึกหัวใจเหมือนถูกบีบรัดขึ้น และท้องไส้เริ่มปั่นป่วน โชคยังดีที่เขายังไม่ได้กินอาหารเช้า มิฉะนั้นเขาคงอดที่จะอาเจียนออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน
“บอกฉันมา ท่านไหนเป็นฮีโร่ผู้ที่สังหารฉินเทียน? จี้ซิงคนนี้ต้องการที่จะขอบคุณเขา! ”
“ตระกูลจี้ของฉันไม่มีสิ่งอื่นใด มีก็เพียงแต่เงินที่มากมาย ฉันต้องการที่จะมอบเงินให้เขาหนึ่งร้อยล้าน!”
จี้ซิงร้องตะโหนอย่างตื่นเต้น
คนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องถัดไป ได้เห็นฉากนี้ผ่านจอมอนิเตอร์ และตี้กังที่เป็นผู้นำของขุนพลนรกทั้งสิบสอง ในที่สุดก็ทนต่แไปไม่ไหวอีกแล้ว
พวกเขาเผยสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมา
ตี้กังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบกล่าวว่า “ท่านเจ้าบ้าน ผมรู้สึกว่านายน้อยจี้คนนี้ไม่เหมือนกับกำลังโกหกเลย”
“การเฆี่ยนตีมันก็โหดเหี้ยมมากพออยู่แล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะสับมันจนกลายเป็นเนื้อสับไปได้ นี่สามารถอธิบายได้ว่าเขาเกลียดชังฉินเทียนมากจริง ๆ”
“พวกเราอยากที่จะออกไปเจอเขาหน่อยไหม?”
หยางชังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตี้กัง นายต้องการเงินหนึ่งร้อยล้านนั่นอย่างนั้นหรือ?”
ใบหน้าของตี้กังแดงก่ำ “ทั้งหมดขึ้นอยู่กับท่านเจ้าบ้าน พวกเราพี่น้องไม่กล้ามีความลับ!”
หยางชังหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น
“ตี้กัง ที่พวกนายล้อมจับฉินเทียนและฉินชวนในครั้งนี้ มันได้สร้างเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอันโดดเด่น ถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินของนายน้อยจี้ ฉันก็จะตกรางวัลให้พวกนายอย่างหนักอยู่แล้ว”
“นอกจากที่นายน้อยจี้ให้แล้วหนึ่งร้อยแล้ว ฉันจะเพิ่มให้อีกหนึ่งร้อยล้าน ทุกคนเอาไปแบ่งกันเถอะ”
“ขอบคุณมากครับท่านเจ้าบ้าน” ตี้กังเป็นผู้นำคนทั้งหมด คุกเข่าลงอย่างตื่นเต้น
นั่นมันคืนเงินสองร้อยล้านหยวนเชียวนะ นอกจากเงินค่าทำขวัญบางส่วนที่ให้กับคนที่ตายไปแล้ว ยังเหลือให้ทุกคนอีก ได้อย่างน้อยคนละสิบล้านหยวน
ซึ่งมันเป็นลาภลอยก้อนใหญ่เลยทีเดียว
“ไปเถอะ!”
“ไปพบกบนายน้อยจี้ผู้มีเงินเยอะคนนี้กันดีกว่า หากไม่มีปัญหาแล้วละก็ นี่คือหุ้นส่วนคนสำคัญที่เรากำลังมองหาอยู่พอดีเลย!”
หยางชังเป็นผู้นำคนทั้งหมดไป และเดินเข้าไปอย่างตื่นเต้น
“ท่านเจ้าบ้าน!”ผู้เฒ่าหหลางรีบร้อนเดินมาข้างหน้า แล้วกระซิบกล่าวว่า “ท่านคิดว่า ต้องการที่จะตรวจสอบอีกสักหน่อยหรือไม่?”
ด้วยการแสดงออกของจี้ซิง เขายังคงรู้สึกไม่ค่อยวางใจอยู่เล็กน้อย
“เหล่าหลาง คิดจะทำงานใหญ่ ไม่อาจใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยเกินไปได้ นอกจากนี้ ฉันยังเคยเชื่อใจนายน้อยจี้ด้วย”
หยางชังโบกมือไปมา
ผู้ฒ่าหลางยังคิดที่จะพูดอะไรสักอย่าง แต่ทว่าเมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยการแสดงออกของจี้ซิง ที่จริงแล้วก็ไม่แสดงความน่าสงสัยออกมา ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับ
“ได้สับศัตรูจนกลายเป็นเนื้อสับได้ สมควรแล้วที่นายน้ายจี้จะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”
“ช่างเป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสของทุกคนจริง ๆ”
“เด็ก ๆ มารินเหล้าให้นายน้อยจี้สักหน่อย เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน”
หยางชังเดินไปข้างหน้า แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนว่าดวงตาของจี้ซิงจะเป็นสีแดงก่ำ เขากับมีดไว้แน่น แล้วกัดฟันกล่าวว่า “คุณคือใคร?”
เหล่าหลางรีบร้อนกล่าวว่า “นายน้อยจี้ ท่านนี้คือเจ้าตระกูลของตระกูลหยางของพวกเราเอง”
เขาผงะไปครู่หนึ่ง แล้วกระซิบกระซาบอีกว่า “และก็เป็นเจ้าของฐานทัพนั้นอีกด้วย”
“เพียงแต่ว่าตอนนี้ฉินเทียนก็ตายไปแล้ว ท่านคงไม่จำเป็นต้องใช้ทัพหมาป่าของพวกเราเพิ่มความแข็งแกร่งแล้วใช่หรือไม่?”
สีหน้าของจี้ซิงนิ่งขรึม ดวงตาของเขากวาดไปช้า ๆ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ใครเป็นคนที่บีบให้ฉินเทียนต้องตาย?”
ตี้กังรีบร้อนก้าวไปข้างหน้า แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “นายน้อยจี้ เมื่อครู่ที่ท่านได้ทำการฟาดฟันติดต่อกันถึงเจ็ดครั้ง มันช่างทำให้คนได้รู้สึกเปิดหูเปิดตาครั้งใหญ่จริง ๆ!”
“และเป็นโชคดีของผมและเหล่าพี่น้องของผม ที่ได้ปิดล้อมฉินเทียนไปบนหน้าผาสูงชัน และบีบบังคับให้เขาต้องกระโดดลงจากหน้าผาครับ”
จี้ซิงพยักหน้าเล็กน้อย ในเวลานี้ ก็มีคนรับใช้คนหนึ่งยกเหยือกไวน์ขนาดใหญ่ขึ้นมา เขารับไปแล้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่ ความร้อนของเหล้ากำลังแผดเผา และเลือดก็สำลังถูกเผาผลาญอยู่
สายตาของจี้ซิง ที่เหมือนกับมีดที่อาบไปด้วยเลือด มันยิ่งดูโหดเหี้ยมและเปล่งประกายมากขึ้น
“เป็นพี่น้อง ก็มาดื่มกับฉันเถอะ!”
เขาตะโกนออกมาเสียงดังก้อง จากนั้นก็ส่งเหยือกไวน์ให้กับตี้กัง
ตี้กังลังเลอยู่เล็กน้อย
จี้ซิงร้องจะโกนอีกครั้งว่า “ดื่มเหล้าของฉันไปแล้ว ก็ต้องรับเงินของฉันไปด้วย”
“หนึ่งร้อยล้านหยวน เมื่อแบ่งกันแล้วก็ไม่น้อยเท่าไรนัก พวกนายจะต้องรับมันไปจากฉัน!”
ตี้กังกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “เรื่องเงินนั้นไม่สำคัญว่าจะมีหรือไม่ ได้มาพบนายน้อยจี้ที่เป็นลูกผู้ชายตัวจริงเช่นนี้ ทำให้เข้าใจอย่างท่องแท้เลยทีเดียว!”
เขาดื่มไวน์ไปอึกใหญ่ และส่งหยอกไวน์ให้กับคนด้านข้าง
พวกเขาทั้งหมดดื่มไวน์กันอย่างตื่นเต้น ที่ดื่มไปตอนนี้ไม่ใช่ไวน์ แต่เป็นเงินสิบล้านต่างหาก
จี้ซิงโค้งคำนับให้กับหยางชัง แล้วกล่าวอย่างแสดงความเคารพว่า “มาสร้างปัญหาให้กับท่านเจ้าบ้านหยางเสียแล้ว ตอนนี้ผมจะกลับแล้ว และให้คนเตรียมเงินหนึ่งร้อยล้านหยวน จากนั้นจะนำมามอบให้กับพี่น้องเหล่านี้”
“ว่าแต่ สามารถคืนโทรศัพท์ของผมมาให้ได้หรือยังครับ?”
หยางชังกล่าวด้วยร้อยยิ้มว่า “นายน้อยจี้ เงินหนื่งร้อยล้านเป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น”
“หรือว่าคุณจะเป็นเหมือนที่พ่อบ้านของฉันได้พูดไปแล้ว เมื่อฉินเทียนตายไปแล้ว คุณก็ไม่ต้องการทัพหมาป่าแล้วอย่างนั้นหรือ?”
จี้ซิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “คุณแน่ใจว่าจะข้ายให้ฉันอย่างนั้นหรือ?”
หยางชังพยักหน้าแล้วกระซิบว่า “ฉันอยากที่จะร่วมมืดกับนายน้อยจี้ เพื่อมาทำเรื่องใหญ่ไปด้วยกัน ไม่ทราบว่านายน้อยจี้คิดเห็นอย่างไรบ้าง?”