Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1116 ท้าทายทั้งต่อสู้
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1116 ท้าทายทั้งต่อสู้

อ่านนิยาย บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ บทที่ 1116 แปลไทย
บนทางขึ้นเขาตะปุ่มตะป่ำ เด็กหนุ่มชุดแดงแปดคนเดินเปิดทางอยู่ข้างหน้า ข้างหลังเป็นคานหามทรัพย์สมบัติข้างหลังหนึ่ง
หนุ่มน้อยชุดแดงแปดคนมีรูปลักษณ์นาๆประการ แต่ว่ากลิ่นล้วนกำแหงจนถึงผิดธรรมดา ดุจดังยักษ์ที่พึ่งจะเดินออกมาจากเทือกเขาศพสมุทรเลือด เข้าสู่มั่นคง ตะกายขึ้นไปบนเหมือนกับเดินบนที่ราบ
คานหามโภคทรัพย์เขยื้อนไปด้านหน้าอย่างทรงประสิทธิภาพ รัศมีเทวดานน่าตื่นตะลึงงันไหววูบ มีแสงสว่างสวยงามหลั่งไหลแยกห้วงอากาศทุกๆที่ที่ผ่าน มองน่าตื่นเต้นอย่างแปลก
เพียงไม่กี่อึดใจแค่นั้น คนพวกนี้ก็มาถึงรอบๆไหล่เขา
เหล่าครูฝึกปราณที่อยู่ไหล่เขาต่างสูดหายใจหนาวเยือก หนุ่มน้อยชุดแดงแปดคนนั้น กลิ่นที่แผ่ขยายออกมาจากแต่ละคนล้วนกล้าหาญถึงที่สุด บีบคั้นจนกระทั่งหลายๆคนหลายใจตรากตรำ
แต่ว่าที่น่าละลานตาที่สุดก็คือคานหามทรัพย์สินข้างหลังนั้น เปรียบเหมือนหลอมจากเหล็กเทวดาเจ็ดสี แสงสว่างนิลหมุนวน ถึงกับทำให้พลังมหามรรคบนเทือกเขาพุ่งกระจัดกระจาย ไม่บางทีอาจขวางกั้นไว้ได้
นี่เป็นโภคทรัพย์ที่หายากยิ่งชิ้นหนึ่ง บนนั้นสลักภาพร้อยอสุรกายบรรพกาลไว้ ยิ่งมีภาพหมื่นวิญญาณบูชาฟ้าดิน
พร้อมๆกับที่คานหามทรัพย์สินข้างหลังนี้มาถึง ห้วงอากาศรอบๆใกล้เคียงล้วนปริแตกออก ปรากฏเป็นรอยแยกใหญ่สีดำรอยแล้วรอยเล่า เหตุการณ์สถานะการณ์น่าหวาดหวั่น
ภาพนี้ทรงอำนาจเกินความจำเป็นแล้ว คล้ายผู้กุมอำนาจยิ่งใหญ่คับฟ้าคนหนึ่งมาเยี่ยม ทำให้ครูฝึกปราณที่อยู่รอบๆนั้นไม่น้อยต่างใจสั่น สีหน้าท่าทางเปลี่ยน
แม้กระทั้งพวกฉีชงโต้วก็ดวงตาหดรัด สีหน้าท่าทางหนัก
‘คานหามทรัพย์สินพรวนทองคำ! นี่เป็นยานพาหนะของจินเซี่ยวหมิง บุตรหลานเผ่างูพระราชาทอง!’ มีคนจำฐานะของอีกข้างได้ สื่อจิตเตือนทุกคน
ขณะเดียวกันนั้นพวกฉีชงโต้วก็หน้าเปลี่ยนสีไปอีก จินเซี่ยวหมิง เป็นตัวประหลาดสมัยโบราณผู้หนึ่ง! ตอนนี้เป็นที่รู้จักยิ่งนัก ก่อคลื่นลมไม่ทราบมากแค่ไหน
เห็นได้ชัดว่าภายหลังข่าวสารเรื่องงานประชุมพันกระแสนี้กระจัดกระจายออกไป ก็เย้ายวนใจให้อสูรกายสมัยโบราณมาเยี่ยม และไม่ได้มาดีเสียด้วย!
ตามความเคลื่อนไหวของฟ้าดิน เรื่องจริงแล้วตอนก่อนหน้าที่ผ่านมานี้ขอเพียงแค่มีบางสถานที่จัดงานประชุมผู้กล้าแกร่งรุ่นเยาว์ ก็จะมีอสูรกายสมัยโบราณมาท้าถึงที่
รวมทั้งโดยเหตุนี้ ผู้มีความรู้สะดุดตารุ่นเยาว์ในสี่ดินแดนแข็งแกร่งก็เลยถูกอสูรกายสมัยโบราณกำราบ ถูกดูถูกไม่เคยรู้มากแค่ไหน
บอกอย่างไม่เกินเลยได้ว่า ในตอนนี้ผู้กล้าช่วงปัจจุบันแทบจะต่อต้านไว้มิได้ เกือบถูกตัวประหลาดสมัยโบราณข่มจนกระทั่งเชิดหน้าไม่ขึ้น
และก็เดี๋ยวนี้จินเซี่ยวหมิงขึ้นรถคานหามทรัพย์สินลูกพรวนทองคำ พร้อมพาพลรบชุดแดงแปดคนขึ้นไปบนมาด้วย ย่อมมิได้มาคุยเปลี่ยนมรรคแน่ๆ
“ขอถามคำถามว่าทุกคนมาด้วยเรื่องใด” มีคนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ถามเสียงต่ำ มองสงสัยระวังแล้วก็หวาดกลัวหาใดเปรียบเทียบ
“ได้ยินว่างานรวมกันใหญ่พันกระแสนี้จัดขึ้นโดยหมีเหิงเจิน แต่ว่าขณะนี้ดูแล้วกลับน่าผิดหวัง ก็มองไม่เห็นพิเศษอะไร เป็นเพียงแต่งานรวมกลุ่มของพวกอ่อนหัดแค่นั้น”
เสียงเฉยเมยเย็นเยียบเสียงหนึ่งดังขึ้นจากคานหามโภคทรัพย์ ตัวคานหามทรัพย์สมบัติถูกม่านบังไว้ ไม่อาจมองทะลุถึงรูปลักษณ์ของผู้เป็นนายที่อยู่ด้านในนั้น
เดี๋ยวเดียวบรรยากาศในที่นั้นก็เงียบสงบลง ไม่ต้องเอ่ยถามก็รู้ว่าแขกมิได้มาดี แต่ว่าตั้งมั่นมาหาเรื่อง
หลายท่านสีหน้าท่าทางอึมครึมลง หลินสวินก็งงงวยอยู่บ้าง นี่ก็คือท่าทางของตัวประหลาดสมัยโบราณหรือ บ้าเลือดเสียจริง
“หมีเหิงเจินล่ะ ให้เขาออกมาเจอเราหน”
ในคานหามทรัพย์สิน เสียงเย็นชาเยียบเย็นดังขึ้นอีกที
“เวลานี้ลูกศิษย์พี่หมีไม่อยู่ ถ้าเกิดเพื่อนยุทธ์ไม่มีเรื่องอื่นก็ขอให้จากไป งานรวมกันครั้งนี้ไม่ต้อนรับบุคคลภายนอก”
ฉีชงโต้วสูดหายใจลึก พูดไล่แขก
“ใช่ เราไม่ต้อนรับพวกเจ้า ชวนออกไปเถิด!”
คนอื่นๆพากันพูด สีหน้าท่าทางกลัวหาใดเปรียบเทียบ แล้วก็แบ่งอย่างไม่ปกปิด
“หนวกหู!”
ขณะเดียวกันนั้นเสียงเรียงเฉยเมยเย็นเยียบนั้นตะโกนขึ้น เสียงราวอสุนีบาตแผ่กระจายกระเทือนเลื่อนลั่น ไม่เพียงแต่กดทับเสียงในที่นั้นไว้ ยังเป็นเหตุให้ครูฝึกปราณไม่น้อยหูอื้อ เลือดลมผันแปรไปอีกทั้งร่าง
“เพราะเหตุไร พวกเจ้ายังกล้ารังควานกันหรือ”
ฉีชงโต้วสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม
“รังควานหรือ ไม่นี่ เราเพียงแค่มาทดลองว่าเจ้าพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้แกร่งอย่างพวกเจ้าจะมีน้ำยาขนาดไหน!”
ในคานหามทรัพย์สมบัติคนผู้นั้นกล่าว
เสียงพูดพึ่งจะเงียบลง หนุ่มน้อยชุดแดงแปดคนก็ยืนขึ้น ดวงตาราวคมกระบี่ปัดกวาดดูทั่วทุกสารทิศ แผ่กลิ่นพิฆาตน่าหวาดหวั่นออกมา
“เราก็มิได้มารังมึงพวกเจ้า พวกเจ้าต้องเลือกคนออกมาแข่งขันกับใครบางคนในกลุ่มพลรบทั้งยังแปดของเรานี้! ถ้าไม่เอาอย่าง งานประชุมของพวกเจ้าคราวนี้ก็จัดถัดไปมิได้แล้ว”
ในคานหามโภคทรัพย์ เสียงเฉยเมยเปิดเผยให้มองเห็นความดูแคลน
ยามนี้เหล่าผู้ฝึกสอนปราณที่อยู่บนแท่นมรรคอย่างพวกฉีชงโต้วต่างสีหน้าท่าทางคร่ำเคร่ง บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์เคืองใจนัก ในกลุ่มพวกเขาไม่ขาดยอดมงกุฎรุ่นเยาว์ที่อยู่บนบอร์ดยอดมงกุฎรุ่นเยาว์ แต่ว่าปัจจุบันนี้กลับถูกดูแคลนแบบนี้
นายจ้างไม่เผยตัว จะให้ข้ารับใช้ของเขาลงมือเสียอย่างงั้น!
meenovel.com/novel/battling-records-of-the-chosen-one/
“น่าชังนัก!” มีคนกัดฟัน
นี่ย่อมเป็นการดูถูกเหยียดหยามอย่างหนึ่ง ให้ข้ารับใช้มาแข่งขันพลัง เป็นการดูแคลนพวกเขาที่อยู่ในที่นี้ครั้งใหญ่ที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย
“ไม่สบอารมณ์หรือ” ผู้ชายชุดแดงผู้หนึ่งน้ำเสียงดุเดือด “ด้วยฐานะกับพลังของพวกเจ้า ไม่คู่ควรมาแลกวิชากับนายจ้างของเราหรอก จะประมือกับพวกเจ้า เราแปดคนก็เหลือเฟือแล้ว!”
คำพูดนี้ช่างผยองหยิ่งยโส ข้ารับใช้ผู้หนึ่งยังกล้าดูถูกเหยียดหยามทุกคนที่อยู่ในที่นั้น ไม่ว่าใครก็จำต้องขุ่นเคือง
ทุกคนต่างสีหน้าท่าทางอึมครึมหาใดเปรียบเทียบ
เจ้าคางคกกับอาหลู่ค่อนข้างจะทนมองไม่ไหวแล้ว เพียงทั้งคู่คนกลับถูกหลินสวินรั้งไว้ ในเวลาแบบนี้แขกไม่บางทีอาจแย่งแผดเสียงแทนเจ้าของงาน เรื่องที่จำต้องทำในเวลานี้เป็นมองการตัดสินใจของฉีชงโต้ว
“คนไหนกันไม่สบอารมณ์ก็รีบยืนขึ้นมา พวกเจ้าล้วนเป็นพวกที่อ้างตัวว่าสะดุดตาในปัจจุบัน อาจจะไม่ถึงกับปราศจากความกล้ามาสู้หรอกกะละมัง”
หนุ่มชุดแดงที่นำหน้ามายิ้มโหดเหี้ยม เงาร่างเขาสูงใหญ่ ดวงตาเรียวยาว ไอชั่วช้าเข้มข้นหาใดเปรียบเทียบแผ่ขยายออกมาหมดทั้งตัว น่าหวั่นถึงที่สุด
ทุกคนในที่นั้นในใจล้วนเกลียด โกรธเกรี้ยวหาใดเทียบเคียง พลรบผู้หนึ่งยังกล้าประกาศอำนาจหรือ
ทันทีทันใดก็มีคนทนไม่ได้ เอ่ยว่า “เราจะทดสอบกับเจ้าสักตั้ง!”
คนผู้นี้เป็นหนุ่มชุดสีนิลผู้หนึ่ง โทรศัพท์เคลื่อนที่ทวนสามแง่งสีเงินเล่มหนึ่ง เป็นผู้กล้าที่สะดุดตาคนหนึ่ง
เมื่อมีความคิดเห็นว่าเขาออกจู่โจม ทุกคนล้วนฮึกเหิม แทบจะต้องการที่จะให้เขารีบแสดงอำนาจ ทำลายฤทธิ์เดชของอีกข้าง
“เจ้าใช้ไม่ได้” หนุ่มชุดแดงเหยียดหยาม กล่าวอย่างคร่าวๆ
ชิ้ง!
สีหน้าท่าทางเด็กหนุ่มชุดนิลเย็นชา ไม่พูดพล่ามทำเพลงสักหน่อยก็โบกทวนสามแง่งสีเงินผ่าห้วงอากาศออกมาจากกัน ม้วนขึ้นเป็นรัศมีเทวดาน่าสะพรึงกลัวแล้วต่อสู้ออกไป
โครม!
หนุ่มน้อยชุดแดงทะยานตัวขึ้น เปลี่ยนสภาพเป็นสายฟ้าพริบไหวสีเลือดที่น่าหวาดหวั่นสายหนึ่ง พุ่งเข้าชนลงมาเฉียบพลัน เริ่มการประลองดุดัน
ก็แค่ประมือเพียงแค่สิบกว่าครั้งก็กำเนิดเสียงดังปึง ทวนสามแง่งถูกชนกระเด็น!
ส่วนผู้ชายชุดนิลกลับถูกชายชุดแดงบีบคอไว้ เพียงแค่บิดเบาๆหัวก็ถูกหักลงมา ฝนเลือดสาดกระเด็นราวน้ำพุ
“ช่างอ่อนแอเสียจริง!”
ชายชุดแดงสีหน้าท่าทางโหด โยนศพของหนุ่มน้อยชุดนิลทิ้งกล้วยๆไม่แม้กระทั้งจะมองดูสักหนึ่งครั้ง
ในที่นั้นเงียบสนิท ทุกคนถูกภาพนองเลือดนี้ทิ่มตำใจ แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีมากมาย จิตวิญญาณสะท้าน ต่างไม่ได้นึกฝันว่าแค่เพียงพลรบผู้หนึ่งกลับกล้าแกร่งได้ปานฉะนี้
นี่ทำให้ทุกคนเคืองขุ่นรวมทั้งหวาดสะดุ้ง ไม่บางทีอาจสงบจิตสงบใจได้
“เจ้ากล้าฆ่าคน!” ฉีชงโต้วกราดโกรธเกรี้ยว
“เพราะอะไร หากเจ้าไม่สบอารมณ์มาสู้กันสักตั้งก็ได้!” เด็กหนุ่มชุดแดงเอ่ยเสียงเรียบ
“ให้เราไปสู้!”
มีคนทนไม่ได้แล้ว คนผู้นี้เป็นเด็กหนุ่มชุดสีดำคนหนึ่ง เป็นบุคคลที่พาตนเองขึ้นไปอยู่ในสามสิบหกขั้นตอนแรกของบอร์ดยอดมงกุฎรุ่นเยาว์ ย่างเหยียบลงบนมงกุฎมรรคาแล้ว
ตูม!
เมื่อเขาลงมือ พลังต่อสู้เหนือปกติก็ปรากฏขึ้น ดวงตะวันสีม่วงฉายส่องท้องฟ้า พุ่งกำราบเด็กหนุ่มชุดแดง
แต่ว่าเด็กหนุ่มชุดแดงผู้นี้ก็กล้าหาใดเทียบเคียงเช่นเดียวกัน แกร่งอย่างประหลาด พุ่งเข้าไปแข่งขันกับเขาโดยไม่ลังเล
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจทั้งคู่ก็ประมือไปเป็นร้อยครั้ง ชายชุดแดงใช้ฝ่ามือเดียวตัดขวาง ฟันแขนข้างหนึ่งของคนผู้นี้ขาดอย่างจังเสียงดังปึก
สวบ!
คนชุดสีดำจะต้องหลบซ่อนออกไป สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นเหยเกเบ้หาใดเทียบเคียงแล้ว
“กลัวแล้วหรือ เป็นขยะดังคาด” ผู้ชายชุดแดงยิ้มโหดเหี้ยม
เหล่าผู้กล้าต่างโกรธผสมผวา ขนาดบุคคลขอบเขตมงกุฎที่ยอดเยี่ยมมงกุฎรุ่นเยาว์ยังไม่ใช่คู่แข่งขันหรือ ประเด็นนี้เหนือความคาดหวังของพวกเขา ดวงใจสะท้านหนาวเย็นไปหมดแล้ว
ชั่วขณะเวลาหนึ่งคนไม่ใช่น้อยล้วนดูไปที่ฉีชงโต้ว แล้วก็ดูไปยังหลินสวิน
ฉีชงโต้วสูดหายใจลึก บริเวณใบหน้าปรากฏแววแน่แน่ว ขณะนี้หมีเหิงเจินไม่อยู่ ในที่นี้เขาก็คือเจ้าของงานงานประชุมใหญ่พันกระแสคราวนี้ เมื่อเจอหน้ากับเหตุการณ์แบบนี้เขาย่อมจำต้องลุกขึ้นยืนมา!
เพียงเขาไม่ทันขยับเขยื้อนก็ถูกหลินสวินรั้งไว้แล้วบอกว่า “ถึงแม้เจ้าชนะ ก็ชนะเพียงแค่พลรบผู้หนึ่ง เป็นการอับอาย”
ฉีชงโต้วอึ้งไป
รวมทั้งในตอนนี้เองสายตาของหนุ่มชุดแดงผู้นั้นก็ดูมายังหลินสวิน เปิดเผยรอยยิ้มโหดร้าย เอ่ยว่า “ถ้าหากเจ้าไม่ชอบใจจะมาสู้กันสักตั้งก็ได้ เรารับประกันว่าจะมีผลให้เจ้าตายอย่างสลด!”
ทุกคนพากันดูไปยังหลินสวิน
คนผู้นี้เป็นถึงเทวดามารหลิน! พลังต่อสู้ของเขาจัดว่าอดทนที่สุดในงานประชุมนี้ ถ้าเขาออกหน้า ไม่แน่บางทีก็อาจจะสลายเหตุการณ์ยุ่งยากเบื้องหน้านี้ได้จริง
กลับมองเห็นหลินสวินยิ้มบางๆเบือนหน้าไปกวักมือเรียกเจ้าคางคก “ยังไม่รีบไปอีก ถึงตาเจ้าออกโรงแล้ว”
เจ้าคางคกตาเบิกกว้าง บอกพลางกระทืบเท้าว่า “ให้เราไปต่อสู้กับข้ารับใช้คนหนึ่งหรือ เราอับอายขายหน้าห่วยแตก! ถ้าหากจะไปก็ให้เจ้าคนดงคนนี้ไปสิ!”
เขาบอกพลางดูไปยังอาหลู่ อาหลู่เร่งรีบสั่นหัว “มิได้ๆเจ้ายังไม่ยินยอมไปสู้กับทาสพวกนั้นเลย หากเราไปแล้วจะไม่เป็นการเสียหายชื่อเสียงของเราหรือ”
ทุกคนล้วนงง หน้าเจื่อนกันหมด นี่มันเวลาใดกันแล้ว ยังจะโต้เถียงเรื่องเหล่านี้กันอีก
“เจ้าคางคก คนพรรค์นี้เหมาะสมให้เจ้าลงมือที่สุด ถ้าเกิดเราไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นการทำร้ายพวกมัน” อาหลู่หว่านล้อม
เจ้าคางคกโกรธมากร้องออกมาว่า “ไอ้คนพรรค์นี้ก็คู่ควรให้เราออกไปสู้หรือ นี่มันดูแคลนเกียรติยศเราชัดๆ!”
การถกเถียงของทั้งคู่ทำให้มีอาการชายชายหนุ่มชุดแดงผู้นั้นงงเต็ก แล้วหลังจากนั้นสีหน้าท่าทางก็เอาจริงเอาจัง ดวงตาลุกวาวแล้ว อีกข้างถึงกลับกล้าเมินหน้าเขาแบบนี้!?
“แบบนั้นพวกเจ้าทั้งคู่คนเข้ามาร่วมกันเถิด!” เขาตะโกน
“รูดซิปปาก!”
“หนวกหู!”
เจ้าคางคกกับอาหลู่ไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก ด่าว่าหนุ่มน้อยชุดแดงผู้นั้น ทำให้ฝ่ายหลังสีหน้าท่าทางยิ่งอึมครึมไม่น่าดูแล้ว
มีความคิดเห็นว่าทั้งคู่คนจะถกเถียงกันอีก หลินสวินก็เลยสื่อจิตด้วยน้ำเสียงขู่ว่า ‘เจ้าคางคก ตกลงเจ้าจะไปไหม’
เจ้าคางคกสีหน้าท่าทางไม่ยินยอม แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็ลอมชอมแล้ว กล่าวอย่างไม่เป็นที่สบอารมณ์ว่า “ได้ เกรงใจเจ้าหรอก!”
แล้วยามเขาหันไปดูเด็กหนุ่มชุดแดงผู้นั้น ก็มีอิริยาบถจนปัญญารวมทั้งรังเกียจ บอกอย่างอารมณ์เสียว่า “กล่าวมา ว่าเจ้าจะบีบคอฆ่าตัวตาย หรือจะให้เราส่งเจ้าไปตายเอง เลือกแนวทางตายมา”
ถ้อยคำมุทะลุนัก!
บ้าบิ่นกว่าหนุ่มชุดแดงพวกนั้นและก็นายจ้างของพวกเขาเสียอีก!
ทุกคนตาเบิกกว้าง สงสัยสม่ำเสมอ เจ้าชายหนุ่มชุดเขียวผู้นี้เป็นคนไหน ดูแล้วเสมือนจะดีนัก
ส่วนหนุ่มน้อยชุดแดงที่ถูกเจ้าคางคกเรียกขุ่นเคืองจนถึงเอาจริงเอาจัง ไอฆ่าแบออกมาทั่วทิศ กัดฟันบอกว่า “เลิกพูดเพ้อเจ้อไม่มีประโยชน์ ไสหัวมารับความตายซะ!”
“เหอะๆได้ยินหรือยัง ให้เจ้าไปรับความตายล่ะ” อาหลู่หัวเราะมากมาย กลัวแต่ว่าใต้หล้าไม่ระส่ำระสาย
เจ้าคางคกอารมณ์เสียอยู่แล้ว ยังถูกอาหลู่เยาะเย้ยแบบนี้อีก ก็เลยโกรธควันออกหูในทันที เงาร่างพริบไหวแล้วพุ่งออกไป
