Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1136 ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1136 ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ

อ่านนิยาย บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ บทที่ 1136 แปลไทย
เมืองโบราณสูงลิ่ว ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่อย่างที่สุด กำแพงเมืองปรากฏสีแดงไฟ สวยสดงดงามโอ่โถ่งไม่มีใดเปรียบเทียบ
จากคำบอกเล่าของเจ้าคางคก ในสมัยบรรพกาลยามที่ดินแดนมงกุฎปรากฏ เมืองโบราณในแต่ละดินแดนก็มีมาอยู่ก่อนแล้ว ไม่บางทีอาจนับอายุได้
เมืองโบราณแต่ละที่ล้วนราวกับฐานปฏิบัติการ ยามดินแดนมงกุฎปรากฏขึ้นในเมืองก็จะครื้นครึกขึ้นมาอย่างเร็วด้วยเหมือนกัน เป็นที่ชุมนุมของครูฝึกปราณทั้งยังดินแดนมาแลกเปลี่ยนเสวนากันที่นี่
พูดว่าเป็นการเปลี่ยนเสวนา ที่จริงเป็นการแลกศุภโชครวมทั้งบุญบารมีที่แต่ละข้างได้รับมามากยิ่งกว่า
อย่างไรก็ดีศุภโชคที่ผู้ฝึกสอนปราณแต่ละคนอยากได้ก็ต่างกัน และก็ใช่ว่าทุกคนจะได้รับศุภโชคที่ตนประสงค์
กลับสามารถทำแลกที่เมืองนี้ได้!
สวบ!
หลินสวินเปลี่ยนร่าง เปลี่ยนเป็นชายทั่วๆไปที่เค้าหน้าไม่เด่นคนหนึ่ง แล้วก็มุ่งใกล้เมืองโบราณเผาเซียนที่อยู่ไกลออกไป
ยังไม่ทันถึงจุดหมายปลายทางก็มีความเห็นว่า ในความรางลางเลือนของเมืองโบราณนั้นมีกลิ่นกร้าวแข็งนับไม่ถ้วนรายล้อมอยู่ สะเทือนก้อนเมฆลมเวิ้งฟ้า
เห็นได้ชัดว่ามีคนฝึกปราณมากไม่น้อยเลยทีเดียวรวมตัวกันอยู่ในเมืองตั้งแต่ต้น กลิ่นเข้มแข็งที่แบออกจากร่างพวกเขานำมาซึ่งลักษณ์แปลกแบบนี้
ฟุ่บๆๆ!
ในช่วงเวลานี้ในห้วงอากาศรอบทิศมีเงาร่างครูฝึกปราณเบียดอัดแน่น กำลังบินบินโถมกรูเข้ามาในเมืองอย่างเร็วเหมือนกันกับหลินสวิน
“ได้ยินกันหรือเปล่า เมื่อวานนี้มีคนเปิดร้านขาย ‘ผลแรกมรรคไม้เขียว’ เย้ายวนใจความพึงพอใจจากรอบด้านทีเดียว!”
กลางทางมีคนวิจารณ์
“สรวงสวรรค์! บนโลกนี้มีของยอดเยี่ยมแบบนี้อยู่จริงๆหรือ ไม่ใช่แค่ตำนานกล่าวขาน?”
คนล้นหลามรู้สึกตลึง
หลินสวินเองก็ตระหนกตกใจด้วยเหมือนกัน ผลแรกมรรค แอบแฝงไว้ด้วยพลังแหล่งกำเนิดมหามรรค รับประทานเพียงแต่หนึ่งผล ไม่ต้องหยั่งทราบก็สามารถควบคุมพลังมหามรรคตรงๆได้เลย!
อย่างสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในผลแรกมรรคไม้เขียวนี้ก็คือนัยเร้นลับมหามรรคธาตุไม้ ขอเพียงแค่ได้กลืนรับประทาน คนฝึกปราณก็จะสามารถควบคุมพลังมหามรรคที่ไม้ได้ในครั้งเดียว
“นี่เป็นถึงศุภโชคใหญ่เชียว ท้ายที่สุดถูกคนไหนซื้อไปกัน”
มีคนถาม
“ฮ่าๆการขายระดับนี้จะให้ผู้อื่นทราบได้ยังไง แม้กระนั้นเราบอกพวกเจ้าอย่างมั่นอกมั่นใจเลยว่า ศุภโชคกลับฟ้าระดับนี้ ถ้าหากว่าไม่มีอำนาจกล้าแกร่งมากพอ ขอเพียงแค่กล้าคัดแยกออกมาขายจำเป็นจะต้องโดนจับตามอง เป็นไปได้มากว่าแม้กระทั้งชีวิตก็ยังเสี่ยงไปด้วย!”
คนมากไม่น้อยเลยทีเดียวรู้สึกเย็นวาบในใจ
ตรงนี้เป็นดินแดนมงกุฎ ไม่ใช่โลกด้านนอก ทั้งหมดทุกอย่างล้วนจำเป็นต้องว่ากันตามพลังต่อสู้ ถ้าหากว่าไม่มีพลังต่อสู้ที่แข็งมากพอ แม้กระทั่งได้รับศุภโชคกลับฟ้าก็มีความทุกข์หาใช่สุข!
กลางทางหลินสวินก็รู้แล้วว่า ตัวประหลาดสมัยโบราณแล้วก็บุคคลขอบเขตมงกุฎแทบจะไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงไปแสวงหาบุญบารมีและก็ศุภโชคอะไรโน่นสักหน่อย
บริวารข้างกายพวกเขาจะช่วยพวกเขาเสาะหาทรัพย์สินทุกประเภทเอง
เมื่อเป็นแบบนี้อสูรกายสมัยโบราณรวมทั้งบุคคลขอบเขตมงกุฎกลุ่มนี้เพียงแค่จำเป็นต้องฝักใฝ่กับการต้มกรำพลังก็พอเพียง และก็มีแต่ว่ามหาศุภโชคกลับฟ้าปรากฏเพียงแค่นั้นก็เลยจะยั่วยวนใจให้พวกเขาขยับเขยื้อนได้
“จดจำไว้ว่าในเมืองห้ามฆ่า ถ้าเกิดมีคู่ปรับก็ได้แต่ว่าหาที่อื่นๆสะสางเพียงแค่นั้น นี่เป็นกฎ หาไม่จะยั่วยวนใจผู้กระทำดข่มจากขุมอำนาจทุกฝ่าย”
ก่อนที่จะเข้าเมืองหลินสวินได้ทราบกฎข้อบังคับส่วนใดส่วนหนึ่งมาด้วย
“เฮอะ! นี่ก็เป็นเพียงแค่กฎที่ผูกมัดพวกอ่อนแอเพียงแค่นั้นล่ะ สำหรับบุคคลแนวหน้าอย่างแท้จริงเกือบจะไม่มีพันธะใดๆก็ตามด้วย” บางบุคคลแค่นหัวเราะ
“ไม่ เจ้าบอกไม่ถูกแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นบุคคลขอบเขตมงกุฎก็ย่อมไม่กล้ากระตุ้นความฉุนเฉียวผู้คน ควรจะทราบดีว่าในเมืองมีผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่มากมายปักหลักอยู่ แต่ละขุมอำนาจล้วนมีบุคคลเลิศควบคุม เว้นแต่ว่าขี้เกียจจะมีชีวิตอยู่แล้ว ผู้ใดกันแน่ก็ไม่ได้อยากต้องการแปลงเป็น ‘ศัตรูสาธารณะ’ หรอก!
หลินสวินเอียงหูฟังไปพลางเดินเข้าเมืองไปพลาง
ในเมืองมีแบบอย่างเป็นของตนเอง กว้างใหญ่อย่างที่สุด แผ่กระจายด้วยแสงสว่างระยิบระยับสีน้ำตาลอ่อนดอ่อนๆดั้งเดิมแล้วก็สงบ ตึกแต่ละที่ล้วนแผ่จังหวะเพลงโบราณลายพร้อยออกมา
ในเมืองครึกครื้นยิ่ง เงาร่างคนฝึกปราณหลั่งไหลมาไม่หยุด อาคารตึกส่วนใดส่วนหนึ่งล้วนถูกขุมอำนาจใหญ่ที่รีบเดินทางมายึดครอบครองไปตั้งแต่ต้นแล้ว
พวกที่พลังอ่อนแอเล็กจ้อยส่วนใดส่วนหนึ่งได้แม้กระนั้นสิงอยู่ตามถนน
“เหล็กยอดโหมไฟหนึ่งชิ้นแลกเปลี่ยนได้เพียงแค่ต้นหญ้าแสงสว่างมรกตมันเซียนแค่นั้น”
“ในมือข้ามีแผนภาพไม่สมบูรณ์ของดินแดนทรัพย์สมบัติหนึ่งม้วน อยากได้บุคคลขอบเขตมงกุฎเจ็ดคนร่วมมือกันเสาะตรวจสอบ คนไหนพึงพอใจเชิญชวนรีบมาลงลายมือชื่อ!”
“รับซื้อยากษัตริย์ทุกระดับในราคาแพง”
กลางทางทุกหนแห่งล้วนมีแม้กระนั้นร้านค้าเคลื่อนที่ เสียงร้องแรกแหกกระเชอเซ็งแซ่ไม่รู้จักจบสิ้น
สิ่งที่ทำให้หลินสวินจนกระทั่งคำกล่าวเป็นอาคารตึกโบราณส่วนใดส่วนหนึ่งถูกดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเป็นร้านขายของสารพัด ถึงขั้นที่มีโรงจำนำรวมทั้งโรงประมูลด้วย!
ขณะเดียวกันนั้นหลินสวินก็ยิ้มเยาะตนเอง ตนตื่นตูมไปแล้ว คนที่อยู่ต่ำลงมากยิ่งกว่าระดับพระราชาล้วนมีคุณลักษณะไปสู่ดินแดนมงกุฎ เมื่อเป็นแบบนี้ ผู้คนหลากหลายล้วนพรั่งเข้ามาทั้งหมด
บางบุคคลเสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตรายไปเสาะตรวจสอบบุญบารมีและก็ศุภโชค แล้วก็บางบุคคลคอยรับซื้อเปลี่ยนอยู่ในเมือง ต่างข้างต่างไขว่คว้าความต้องการก็แค่นั้น
“ยโสโอหังเสียมารยาท เพื่อนยุทธ์ทราบไหมว่าฐานปฏิบัติการของเผ่ากาทองคำอยู่ที่ใด” หลินสวินเอ่ยถามผู้ฝึกสอนปราณคนหนึ่งกลางทาง
นี่เป็นผู้ชายชุดเงินคนหนึ่ง เขาอึ้งงันบางส่วนต่อจากนั้นก็เลยบอกว่า “เพื่อนยุทธ์ก็คิดจะไปพึ่งบุญบารมีเผ่ากาทองคำแบบเดียวกันหรือ”
ขณะกล่าว ไม่คอยหลินสวินตอบปัญหาเขาก็กล่าวอย่างขมันขมี “ไม่ปกปิดเพื่อนยุทธ์ เราเองก็กำลังคิดแผนจะมุ่งหน้าไปที่เผ่ากาทองคำอยู่พอดิบพอดี ไม่สู้ร่วมเดินร่วมทางดีไหม”
หลินสวินผงกศีรษะบอกว่า “ก็ดีแล้ว”
กลางทางหลินสวินได้ทราบว่าในตอนห้าหกวันตั้งแต่แมื่อไปสู่ดินแดนมงกุฎนี้ คนฝึกปราณอิสระที่ไม่มีซึ่งอำนาจจำนวนมาก ได้แม้กระนั้นติดตามข้างกายผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่เพื่อประสบโชคบุญบารมี
เด็กหนุ่มชุดสีเงินคนนี้ก็ตั้งอกตั้งใจจะทำแบบนี้เช่นกัน
เขามีนามว่าหวังตง เป็นผู้สืบทอดขุมอำนาจเล็กคนหนึ่ง ที่แท้ในสายตาสำนักโบราณ ผู้สืบทอดขุมอำนาจเล็กอย่างเขาก็ไม่ต่างกับผู้ฝึกสอนปราณอิสระ
“ข้ามาถึงตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แล้วก็ได้มุ่งหน้าไปยังถิ่นอาศัยของเผ่ากาทองคำแล้ว โชคร้าย คนฝึกปราณที่มุ่งหน้าไปพึ่งบุญบารมีเผ่ากาทองคำมีมากอย่างมาก เราต่อแถวหนึ่งวันเต็มๆก็ยังไม่ถึงพลาดท่า เฮ้อ!”
หวังตงถอนใจ
คนฝึกปราณที่มีพื้นเพจากสำนักเล็กสำนักน้อยอย่างเช่นเขา คิดจะผงาดง้ำขึ้นมานั้นไม่ง่ายเลยจริงๆถึงแม้ว่าจะไปสู่ดินแดนมงกุฎ แม้กระนั้นแม้อยากได้รับโชควาสนาก็ได้แต่ว่าติดตามขุมอำนาจใหญ่เพียงแค่นั้น
“เพื่อนยุทธ์ ที่ตรงนั้นยังไง”
หวังตงชี้ไปที่ไกลๆนั่นมีตำหนักโบราณแห่งหนึ่ง ใหญ่มโหฬารโอ่อ่า กลิ่นกว้างใหญ่ ใหญ่โตเป็นพิเศษ
ยามนี้มีคนฝึกปราณหลายชิ้นรออยู่ตรงนั้น
แล้วก็สองฝั่งประตูใหญ่ของวังมีผู้อดทนเผ่ากาทองคำสองคนเฝ้าอยู่
“เฮ้อ จำต้องต่อแถวอีกแล้ว”
meenovel.com/novel/battling-records-of-the-chosen-one/
หวังตงถอนใจ แล้วบอกว่า “จริงสิ การจะเข้าร่วมค่ายเผ่ากาทองคำยังจำเป็นต้องกระทำการมอบของขวัญด้วย”
“มอบเครื่องบรรณาการ?” หลินสวินอึ้งงัน
“เป็นรายจ่ายปริมาณหนึ่งน่ะ จะเป็นโภคทรัพย์ก็ได้ หรือจะเป็นยารักษาโรควิญญาณ วัตถุดิบวิญญาณก็ได้เช่นกัน” หวังตงกล่าวชี้แจงอย่างเยือกเย็น
หลินสวินอดย่นคิ้วมิได้ ติดตามบุคคลอื่น แต่ก่อนก็ถดถอยเป็นเพียงแต่ลูกเป้ารับกระบี่กระบี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วก็ในขณะนี้ถ้าหากต้องการจะเป็นเป้าคนหนึ่ง ยังจำต้องกระทำมอบของถวายอีกต่างหาก ความโลภละโมบของเผ่ากาทองคำนี้ค่อนข้างจะน่าสะอิดสะเอียนเกินความจำเป็นหน่อยแล้ว
“เพียงแค่หินหิมะสีเงินยวงชิ้นเดียวก็ต้องการร่วมค่ายเผ่ากาทองคำของเราเรอะ รีบไสหัวไป!”
หน้าพระราชวังผู้แกร่งกาทองคำคนหนึ่งร้องลั่นสุดคอ บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์เขาจมูกงอโค้ง ริมฝีปากบาง ดูเยียบเย็นทารุณอย่างชัดเจน เงื้อขึ้นหนึ่งคราวแล้วฟาดผู้ฝึกสอนปราณที่อยู่หน้าสุดลอยเคว้งคว้างออกไป
วางตัวแบบนี้ผยองยิ่งนัก!
ไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับสิ ยังจะตบบ้องหูคนอีก นี่เป็นการทำให้ผู้คนขายหน้าอย่างแน่นอน
แม้กระนั้นฝูงคนในลานเสมือนจะมองเห็นจนเกิดความเคยชินตามานานแล้ว ทำหน้ามึนๆมิได้มีปฏิกิริยาสนองตอบอะไรด้วย
“คนถัดไป”
ผู้อดทนกาทองคำอีกคนพูดสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์
ขณะเดียวกันนั้นตรงหน้าฝูงชนที่กำลังต่อแถวก็มีคนฝึกปราณเดินขึ้นหน้า จับเอากล่องหชูใบหนึ่งออกมาอย่างเคารพนบนอบ ตั้งหน้าตั้งตาคอยเต็มอก
“เพื่อน นี่เจ้าทำอะไร”
หวังตงตกอกตกใจมากมาย มองเห็นหลินสวินชูเท้าเดินมุ่งไปทางพระราชวังที่อยู่ไกลๆมิได้คิดจะต่อแถวเลยสักหน่อย
“ฟังการตักเตือนของเราสักนิดสักหน่อย ฝึกหัดปราณนั้นเริ่มฝึกฝนจิตใจก่อน ถ้าหากเอามรรคาของตนไปผูกติดบนเพศผู้อื่น การบรรลุผลย่อมมีจำกัด”
หลินสวินกล่าวเตือน
คนใดจะคาดหมาย หวังตงอึ้งงันกล่าวอย่างไม่เห็นพ้อง “เหตุผลก็เป็นเหตุผลข้อนี้ล่ะ แม้กระนั้นคนใดกันจะทำเป็นบ้าง นับประสาอะไรกับเจ้าเองก็มาพึ่งบุญบารมีแบบเดียวกันไม่ใช่หรือ”
มีคุณลักษณะมาอบรมสั่งสอนเราหรือไรกัน
ประโยคนี้หวังตงมิได้เอ่ยออกมา เขามีทัศคติที่ไม่เลวต่อหลินสวิน ไม่ได้อยากต้องการนินทาใส่หน้า
หลินสวินได้ยินแบบนี้อดถอนใจในใจมิได้ สั่นศีรษะไม่คิดมากมายอีก แต่ละคนมีทางเลือกของตน ไม่บางทีอาจบังคับได้
“ทำอะไรน่ะ! ถ้าเกิดอยากร่วมค่ายเผ่ากาทองคำอันมีเกียรติ ก็จำเป็นต้องต่อแถวอยู่ด้านหลังแต่ว่าโดยดี!”
ที่น่าชวนหัวเป็นเมื่อมองเห็นหลินสวินเดินตรงดิ่งไปยังพระราชวัง ผู้ฝึกสอนปราณที่กำลังต่อแถวพวกนั้นล้วนไม่สบอารมณ์ ต่างพากันด่าเขา
หวังตงร้อนรุ่มรวมทั้งตะโกนร้องอยู่ด้านหลังด้วย “เพื่อนกลับมาเร็ว ไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่ต่อแถวล้วนจบไม่สวยทั้งหมด!”
หลินสวินทำเป็นหูทวนลม
หนุ่มร่างซูบผอมคนหนึ่งที่กำลังตั้งแถวอยู่ทันทีออกมาโดยฉับพลัน ขวางอยู่หน้าหลินสวินร้องว่า “ไอ้พวกไม่รู้จักกาลเทศะ มองไม่เห็นหรือตรงนี้เป็นไหน มีหรือจะยอมเจ้าวางข้อได้”
เด็กหนุ่มร่างซูบผอมคนนี้มองผิวเผินราวกับเบื่อหน้าหลินสวิน ที่แท้กำลังแสดงความซื่อสัตย์ซึ่งๆหน้าผู้กล้าแกร่งเผ่ากาทองคำ คาดหวังว่าจะถูกเลือก
คนฝึกปราณผู้อื่นที่ต่อแถวอยู่มองเห็นแบบนี้ล้วนลอบหงุดหงิดกับตนเองมิได้ จังหวะแสดงตัวดีๆคราวหนึ่งถึงกับถูกคนชิงแย่งไปก่อยเสียแล้ว!
ตูม!
บอกราวกับช้าแม้กระนั้นเรื่องจริงเร็วทันใจยิ่ง เมื่อชายร่างซูบผอมพุ่งพล่านออกมาก็ฟาดหนึ่งฝ่ามือใส่ทรวงอกหลินสวิน พลังฝ่ามือกร้าวแข็งดุเดือด แสงสว่างมรรคแผ่พุ่ง
สิ่งนี้ทำให้ผู้แกร่งเผ่ากาทองคำสองผู้ที่อยู่หน้าประตูพระราชวังต่างลอบก้มศีรษะ กระทำการวินิจฉัยอยู่ในใจไว้แล้วว่าจะมอบโอกาสผู้ชายร่างซูบผอมคนนี้ได้พึ่งบุญบารมี ไม่บางทีอาจทำเมินหน้าต่อ ‘ความภักดี’ นี้ของเขา
พร้อมนั้นก็สามารถเป็นเยี่ยงอย่างให้คนอื่นบอกคนทั่วโลกได้ว่า ขอเพียงแต่มอบชีวิตแก่เผ่ากาทองคำของพวกเขาอย่างมอบหัว ย่อมจำเป็นต้องได้รับจังหวะให้ทำงานสำคัญแน่ๆ
ปึง!
เพียงเหนือการคาดการณ์ของทุกคน เมื่อเด็กหนุ่มร่างผอมบางคนนั้นซัดฝ่ามืออกมา ตนเองกลับถูกซัดกระเทือนจนกระทั่งลอยคว่ำออกไปสุดแรง แขนด้านขวาถูกตัดขาด เกลือกหลุนๆบนพื้น ตะเบ็งร้องเสียงโหยหวน
รวมทั้งตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบหลินสวินไม่เคยขยับเขยื้อนอะไรก็แล้วแต่ยังคงเดินหน้าถัดไป
บรรยากาศในลานเงียบสนิทในทันที สายตาที่ครูฝึกปราณที่ต่อแถวพวกนั้นมองดูไปทางหลินสวินล้วนแปรไป เจือความตระหนกตกใจปนสงสัยวูบหนึ่ง
ความแข็งแกร่งของเจ้าหมอนี่ไม่เลวทีเดียว เพียงแค่เขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“เขาอาจมิได้จะยืมโอกาสนี้แสดงเดชะ เพื่อได้รับความรู้สึกยินดีจากเหล่าคนใหญ่โตเผ่ากาทองกระมัง” บางบุคคลงึมงำ
ผู้อื่นได้ยินเข้าต่างหัวใจกระตุกวูบ ลอบบอกว่านี่เป็นแนวทางที่เยี่ยมสำหรับในการ ‘แสดงความรู้ความเข้าใจ’ อย่างหนึ่ง สามารถแสดงตัวได้ง่ายดายกว่าทนต่อแถวอย่างลำบากทนทุกข์เสียอีก
ดังคาด ก็มองเห็นชายจมูกเหยี่ยวงอโค้งเผ่ากาทองคำคนนั้นพูดพูดว่า “ความแข็งแกร่งไม่เลวทีเดียว มีคุณลักษณะไม่ต้องต่อแถว ส่งเครื่องบรรณาการของเจ้ามา จากนี้มอบชีวิตอยู่ข้างกายเราแล้วกัน”
เขามองดูตรวจหลินสวินเหมือนพึงพอใจยิ่ง
ส่วนเด็กหนุ่มร่างผอมบางที่เจ็บคนนั้นถูกเขาเมินหน้าอย่างสิ้นเชิงเป็นที่เป็นระเบียบ
เมื่อประโยคนี้ออกมา ผู้ฝึกสอนปราณที่กำลังต่อแถวอยู่พวกนั้นต่างกำเนิดความริษยาขึ้นในใจ ถอนใจไม่หยุด เพราะเหตุใดตนถึงไม่คิดจะทำแบบนี้บ้างนะ
และก็หวังตงก็อึ้งงันด้วยเหมือนกัน เปิดตากว้าง ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ
