Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1138 ชิงทรัพย์คลังสำหรับเก็บสมบัติ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1138 ชิงทรัพย์คลังสำหรับเก็บสมบัติ

อ่านนิยาย บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ บทที่ 1138 แปลไทย
เรื่องราวแย่ลงกว่าเดิมใหญ่มโหฬาร ผู้ฝึกสอนปราณในพื้นที่แถบนี้ล้วนถูกทำให้ตระหนกตกใจ
นอกนั้นยังมีผู้ฝึกสอนปราณจำนวนหลายชิ้นที่กำลังรีบรุดมาจากพื้นที่ต่างๆ
แม้กระนั้นสิ่งที่ทำให้หลินสวินเหนือความหวังเป็น ปัญหาแย่ลงกว่าเดิมมาจนกระทั่งขั้นนี้แล้ว อูหลิงเฟยองค์ชายเจ็ดเผ่ากาทองคำกลับยังไม่เคยเผยตัวเลย
นอกเหนือจากนั้นผู้เข้มแข็งเผ่ากาทองคำที่กรูกันออกมาเหล่านี้ก็มีบุคคลขอบเขตมงกุฎแค่เพียงจับมือ คนอื่นล้วนนับว่ามีฝีมือชั้นเยี่ยมในระดับกระบวนแปรตายเพียงแค่นั้น
พลังเพียงเท่านี้ ไกลห่างเกินกว่าจะสามารถขู่เข็ญหลินสวินได้
“อูหลิงเฟยไปไหนแล้วล่ะ”
ดวงตาดำของหลินสวินราวกับอสนี ปัดกวาดมองดูผู้เข้มแข็งเผ่ากาทองคำพวกนั้น
“เทวดามารหลิน เจ้ารังควานกันเกินความจำเป็นแล้ว!” คนพวกนี้สีหน้าท่าทางฉุนปนโศก แต่ไม่มีผู้ใดกล้าพุ่งพล่านขึ้นมา เนื่องจากว่าความแข็งแกร่งนั้นไม่เหมือนกันลิบตาลับ
หลินสวินคร้านจะพูดจาเรื่อยเปื่อยและไร้สาระ ก้าวขึ้นหน้า เพียงแค่ไม่กี่อึดใจก็สยบผู้อดทนเผ่ากาทองคำพวกนี้กระทั่งหมด ต่างล้มพับลงกับพื้นเกลื่อนกลาด
ช่วงเวลาที่หลินสวินตั้งท่าจะเดินเข้าไปในพระราชวังที่นั้น เสียงเย็นเยียบสายหนึ่งก็ดังกังวานขึ้นมาแต่ไกล
“เทวดามารหลิน ด้านในเมืองไม่อนุญาตให้ฆ่าคน นี่เจ้ากำลังดูหมิ่นกฎ!”
คราวนี้เป็นคนกรุ๊ปหนึ่ง ต่างสวมเครื่องนุ่งห่มของผู้สืบทอดเขาวิญญาณหมื่นยักษ์ คนที่พูดเป็นเด็กหนุ่มที่มีจอนขาวสองข้าง
คนอื่นในใจสั่น เร่งรีบเขยิบออกพื้นที่แถวนี้ในทันที
เห็นได้ชัดว่าการทำที่ทำลายกฎเมืองของหลินสวิน ได้กระตุกต่อมความรู้สึกว่าไม่ถูกใจของสำนักโบราณอย่างเขาวิญญาณหมื่นยักษ์เข้าให้แล้ว
หลินสวินหันวับในทันที มุมปากโค้งองศาเยียบเย็นขึ้นพูดว่า “เรายังไม่ทันคิดบัญชีพวกเจ้าเลย พวกเจ้ากลับโร่ออกมาเอง! เพราะอะไร พวกเจ้าต้องการสู้หน้าแทนเผ่ากาทองคำหรือ”
เขาไม่มีวันลืมว่ากลางทางที่มุ่งหน้ามายังเมืองนำทาง กองทัพเขาวิญญาณหมื่นอสุรีเย่อหยิ่งแค่ไหน กระแทกกระเทือนตลอดทาง มองเห็นเขา อาหลู่ แล้วก็เจ้าคางคกเป็นเครื่องกีดขวาง หมายจะดูหมิ่นพวกเขา!
“เจ้าบอกไม่ถูกแล้ว เราก็แค่คุ้มครองกฎของเมืองเพียงแค่นั้น ถ้าเกิดเจ้าวางมือเสียเวลานี้ พวกเราก็จะเปิดโอกาสเจ้าสักหนึ่งครั้งหนึ่ง หาไม่ เกรงว่าผู้ฝึกสอนปราณในเมืองทุกคนอาจจะไม่ปลดปล่อยให้เจ้าก่อกวนแบบนี้ถัดไปแน่!”
เด็กหนุ่มจอนขาวพูดเย็นเยียบ เขามีนามว่าหลูเชิญชวน เป็นผู้กล้าขอบเขตมงกุฎคนหนึ่ง โด่งดังมานานแล้ว
ขณะบอกพวกเขาก็เดินเข้ามาเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ทีท่าบารมีเก่ง มีกันถึงสิบกว่าคน กลิ่นล้วนกร้าวเข้มแข็งและไม่ปกติอย่างที่สุด
“ไม่ผิด กฎก็คือกฎ ถึงแม้ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ยอดมงกุฎก็ไม่บางทีอาจทำลายได้!”
เสียงเย็นเยือกสายหนึ่งดังกังวาลขึ้น ผู้ฝึกสอนปราณอีกกรุ๊ปเดินออกมา ท่าทางองอาจ สายตาที่มองดูทางหลินสวินมองไม่เป็นมิตร
“ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์นครนิล!”
ฝูงคนในลานฮือฮา จำฐานะของแขกได้ เด็กหนุ่มผอมบางสูงชุดบัณฑิตที่นำหน้าคนนั้น นามว่าเกาเซวียน เป็นบุคคลที่สมัยในหมู่คนรุ่นเยาว์สำนักยุทธ์นครนิล
“พวกเจ้าอยู่สำนักเดียวกับหญิงโหดเหี้ยมหลิงหวาคนนั้นหรือ”
หลินสวินถาม
พวกเกาเซวียนต่างหน้าขรึม นางฟ้าหลิงหวาผู้นั้นเป็นถึงอสูรกายสมัยโบราณของสำนักพวกเขา กลับถูกดุเสื่อมเสียแบบนี้ หัวข้อนี้ทำให้พวกเขาต่างโกรธ
“เทวดามารหลิน เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับคนฝึกปราณทั่วเมืองจริงๆหรือ”
เกาเซวียนเอ่ยเสียงเย็นชา
หลินสวินยิ้มเยาะ “พวกเจ้าไปเอาความอาจหาญมาจากไหน ถึงได้กล้าเป็นผู้แทนครูฝึกปราณทั่วทั้งเมือง พวกเจ้าคู่ควรด้วยหรือ ถ้าเกิดกล้า พวกเจ้าก็ทดลองขวางเรามอง!”
ขณะบอกเขาก็เบือนหน้าเดินไปกึ่งกลางพระราชวังที่นั้นแล้ว
ไม่พูดรำพันทำเพลงนิดหน่อย ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบยิ่งไม่เคยเผยอาการกลัวอะไรก็แล้วแต่ออกมาสักเสี้ยว
สิ่งนี้พาให้ครูฝึกปราณเขาวิญญาณหมื่นยักษ์รวมทั้งสำนักยุทธ์นครนิลพากันสีหน้าท่าทางผิดแปลกอย่างที่สุด โกรธแค้นกระทั่งกัดฟันกรอด เทวดามารหลินคนนี้ช่างบังอาจเหลือเกินแล้ว!
ฝูงชนที่อยู่ไกลๆพากันลอบปากอ้าตาไม่กะพริบ ครั้งก่อนทุกคนรู้ว่าเทวดามารหลินกล้าหาญเต็มเปี่ยม แม้กระนั้นไม่คาดฝันว่าเขาจะกล้าหาญถึงกับขนาดนี้!
อะไรที่เรียกว่าไม่เห็นหัวคนใดกัน
ก็นี่เช่นไรล่ะ!
ทิ้งเอาไว้หนึ่งประโยคก็หมุนออกไป ดูเหล่าผู้กล้าเหมือนกับไม่มีตัวตน
“ห่วยแตกแล้ว ทรัพย์สมบัติชั้นยอดเยี่ยมที่ค้นหามาให้องค์ชายเจ็ดยังอยู่ในวัง!”
ทันทีนั้นผู้เข้มแข็งเผ่ากาทองคำคนหนึ่งที่ถูกซัดหมอบกระแตร้องพูดโพล่งขึ้น ดีดตัวขึ้นมาดังผึง พุ่งพราดไปข้างในวัง
ผู้อดทนเผ่ากาทองคำคนอื่นที่พักผ่อนราบกับพื้นล้วนไม่บางทีอาจ ‘แกล้งตาย’ ต่อได้แล้ว หน้าเปลี่ยนสีกันใหญ่ รีบพุ่งเข้าไปในพระราชวังด้วยความตื่นตระหนก
ครูฝึกปราณที่อยู่ไกลๆเห็นภาพนี้เข้าต่างอดอึ้งค้างแป็บนึงมิได้ ถ้าเกิดไม่หวาดกลัวพลานุภาพอาจหาญของเผ่ากาทองคำ พวกเขาก็ทนทานไม่ไหวพุ่งไปฮุบโภคทรัพย์สักตั้งเช่นกัน
แม้กระทั่งเทวดามารหลินกินเนื้อไปแล้ว ให้พวกเขาดื่มน้ำแกงเอาก็ยังได้!
ควรจะทราบว่านับเป็นเวลาหลายวันมานี้เผ่ากาทองคำใช้แนวทางต่างๆนานาสำหรับการเก็บโภคทรัพย์ปริมาณอย่างมากมาย ล้วนเป็นของล้ำค่าหายากภาวะยอดเยี่ยม ไม่ขาดยากษัตริย์ ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงล้วนเป็นทรัพย์สมบัติฝึกหัดปราณที่จัดแจงไว้สำหรับอูหลิงเฟยองค์ชายเจ็ดที่เผ่ากาทองคำ
นี่ก็พอเพียงจะมีผลให้ไม่ว่าใครน้ำลายไหลแล้วก็ตาพองวาวได้!
‘เทวดามารหลินจะมั่งมีแล้ว’ ผู้ฝึกสอนปราณเยอะมากงึมงำในใจ
แม้กระทั้งครูฝึกปราณเขาวิญญาณหมื่นอสุรีรวมทั้งสำนักยุทธ์นครนิลก็ยังใจเต้นไม่หยุด ในใจดิ้นรน ควรจะเข้าไปขวาง ‘ความประพฤติเหี้ยมโหด’ ของเทวดามารหลินไหมกันแน่
แต่ว่าในที่สุดพวกเขาก็อดกลั้นเอาไว้
พระราชวังนี้เป็นถิ่นของเผ่ากาทองคำ บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ถ้าพวกเขากะพรวดกะพราดเข้าไป นี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการบุกรุกขอบเขตเผ่ากาทองคำ
‘ถึงจะไม่เข้าไป แต่ว่าก็ลงมือกับเทวดามารหลินได้อยู่ดี!’
จังหวะนี้หลูเชิญที่เขาวิญญาณหมื่นยักษ์แล้วก็เกาเซวียนจากสำนักยุทธ์นครนิล ต่างผุดความนึกคิดเดียวกันขึ้นมาในหัวโดยมิได้นัดพบ
……
ข้างในวังโอ่อ่าตระการตา
ภายหลังจากเข้ามาแล้วหลินสวินพึ่งจะสังเกตว่าฐานหลักของเผ่ากาทองคำนี้โปร่งกว้าง มีเพียงแค่บริวารชั้นเลิศกรุ๊ปหนึ่งเพียงแค่นั้น แม้กระทั้งยอดความสามารถสักคนก็ยังไม่มี
‘ดูท่าอูหลิงเฟยอาจจะไม่อยู่จริงๆ’
หลินสวินตั้งข้อสันนิษฐาน
หลังจากนั้นเขาเดินตรงดิ่งไปยังส่วนลึกของวัง
กลางทางมีบริวารเผ่ากาทองคำรอขวางอยู่ไม่ขาด แต่ว่าล้วนถูกหลินสวินกำราบเพียงแต่ชั่วช้าเงื้อ ไม่มีผู้ใดเท่าเทียม
ในที่สุดหลินสวินก็มาถึงหน้าคลังที่เอาไว้เก็บสมบัติแห่งหนึ่ง
ประตูบานใหญ่ของคลังที่มีไว้สำหรับเก็บสมบัติถูกลงผนึกปิดไว้ ถ้าใช้ความรุนแรงทำลาย เป็นได้อย่างมากว่าบางทีอาจทำลายทรัพย์สมบัติที่อยู่ในนั้นด้วย
“หยุดนะ!”
“เทวดามารหลิน เจ้าคิดจะลวนลามเผ่าเราถึงที่สุดจริงๆรึ!”
ผู้อดทนเผ่ากาทองคำพวกนั้นพุ่งกรูเข้ามา ต่างกลัวดาลเดือดปนกัน เร่งรีบข้องใจ
เสียงตุบตับดังรวนระลอกหนึ่ง กลุ่มคนเหล่านี้พึ่งกรูเข้ามาก็ถูกหลินสวินสยบอีกที ทรุดฮวบลงกับพื้น ร้องครวญครางครวญอย่างเจ็บ
“เปิดมันออก” หลินสวินชี้ไปที่หนุ่มชุดเทาคนหนึ่ง เอ่ยบัญชา
“ภายในนั้นเป็นโภคทรัพย์ที่จัดเตรียมไว้ให้องค์ชายเจ็ดโดยยิ่งไปกว่านั้น แม้ผู้ใดกันแน่กล้าแตะ มันผู้นั้นถูกตาย!” หนุ่มน้อยชุดเทาคนนั้นกล่าวเสียงสั่นเครือ
พวกเขาล้วนรู้สึกต้องการร้องไห้แต่ว่าไม่มีน้ำตา นี่ราวกับฝันร้ายชัดๆพวกเขาเผ่ากาทองคำอันสูงศักดิ์ ในเมืองโบราณเผาเซียน คนใดกันแน่กล้าหาเรื่องพวกเขาบ้าง
แม้กระนั้นวันนี้ไม่เพียงแค่ถูกคนมาก่อกวนถึงที่ แถมอีกข้างยังตั้งมั่นจะชิงทรัพย์พวกเขากระทั่งหมดกระเป๋าอีกด้วย!
ถ้าเปิดเผยออกไปคนไหนกันจะกล้าเชื่อ
“ถ้าเจ้าร่วมมือ พวกเจ้าทุกคนจะรอดตาย แม้ไม่ร่วมมือ เราก็จะทำลายคลังที่เอาไว้เก็บสมบัตินี้ ต่อจากนั้นก็ล้างบางพวกเจ้าเสียให้หมด!”
หลินสวินกล่าวสบายๆ
เงาร่างของเขาสง่างาม สีหน้าท่าทางราบเรียบ ดวงตาดำกลับพุ่งพรวดด้วยไอเย็นเยียบ อำนาจที่เทวดามารอันไม่มีรูปคลุ้ง บีบกระทั่งผู้คนหายใจไม่ทั่วท้อง
“เรา…” ชายชุดเทาเสมือนสูดหายใจไม่เข้าท้อง อึดอัดกระอักกระอ่วน ดวงตากลอกวน ก่อนเป็นลมเป็นแล้งสลบไปซนๆ
แกล้งเป็นลมเป็นแล้ง?
หลินสวินอึ้งงัน มุกนี้ก็จัดว่าเชยไปหน่อยแล้ว!
แม้กระนั้นนี่ก็มิได้เหลือกำลัง เขายื่นมือคว้าหนุ่มชุดเทาคนนี้ขึ้นมา ตบบ้องหูลงไปหนึ่งครั้ง ฟาดเขาจนกระทั่งตื่นมาตรงๆ
อีกข้างจมูกเขียวหน้าบวม สะอึกสะอื้น ในที่สุดก็เห็นด้วยโชคชะตาอย่างสิ้นเชิง
ตูม!
คลังที่เอาไว้สำหรับเก็บสมบัติถูกเปิดออกอย่างเร็ว กลิ่นยาฉุนกึกลอยปะทะหน้า พาให้ผู้คนเมา
ข้างในคลังที่มีไว้สำหรับเก็บสมบัติเต็มไปด้วยวัตุดิบวิญญาณรวมทั้งทรัพย์สมบัติล้ำค่าหลายประเภท แม้ปริมาณจะไม่ถึงกับขนาดเยอะมาก แต่ทว่าแต่ละอย่างล้วนเป็นทรัพย์สินชั้นยอดเยี่ยมที่บังเอิญพบเจอได้แม้กระนั้นไม่บางทีอาจครองในโลกด้านนอกทั้งหมดทั้งปวง
พอลองลองคิดดูก็จริง ของเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพย์สินที่จัดเตรียมไว้สำหรับอูหลิงเฟยองค์ชายเจ็ดเผ่ากาทองคำคนนั้นโดยยิ่งไปกว่านั้น ประสิทธิภาพจะเลวมิได้เด็ดขาด
เมื่อหลินสวินทอดตามองดูเข้าไปก็มองเห็นยากษัตริย์ห้าเม็ดเต็มๆต่างเปล่งแสงเรืองทอประกาย กลิ่นหอมยวนใจอบอวลฉุนกล้าแผ่ลอย พราวแพรวแพรวพราวจางตา ส่องสว่างทั่วอีกทั้งคลังเก็บสมบัติ
นอกจากนั้นยังมีกล่องหชูม่วงสำริดที่ถูกปิดผนึกใบหนึ่ง ภายหลังจากเปิดออกก็เปิดเผยให้มองเห็นขวดหชูมันแพะใบหนึ่ง ขวดหชูถูกยันต์สีทองคำปิดผนึก เห็นได้ชัดว่าลึกลับไม่มีใดเปรียบเทียบ
“อย่า… เจ้าสัมผัสมันมิได้!” ผู้หนักแน่นเผ่ากาทองคำคนหนึ่งร้องพูดโพล่งขึ้น พุ่งถลาเข้ามาราวกับบ้าคลั่ง เห็นกระจ่างว่าทรัพย์สมบัติในขวดหชูมันแพะนี้สำคัญต่ออูหลิงเฟยยิ่ง
หลินสวินเตะเขาลอยละลิ่วในคราวเดียว เขามิได้เปิดขวดหชูมันแพะออก วางมันกลับเข้าไปในกล่องหชูม่วงสำริดใบนั้นเหมือนเดิม แล้วหลังจากนั้นก็เก็บเอาไว้
ทรัพย์สินด้านในนี้จำเป็นต้องเชื้อเชิญตระหนกตกใจมากมายแน่นอน หาไม่อาจไม่ปิดผนึกชั้นแล้วชั้นเล่าแบบนี้
ถัดมาหลินสวินกวาดของใช้ของสอยในคลังที่เอาไว้เก็บสมบัติในครั้งเดียว เก็บมันเอาไว้ ยึดไปอย่างสะอาด ทำเอาคนเผ่ากาทองคำพวกนั้นดูกระทั่งเลือดออกในใจ แทบพังทลาย
ของเหล่านี้ล้วนเป็นศุภโชคที่พวกเขาเก็บรวบรวมมาอย่างลำบากบากบั่น แม้กระนั้นเวลานี้กลับถูกคนแย่งไปกระทั่งหมด!
แล้วก็ในใจหลินสวินก็อดถอนใจขึ้นมามิได้ การปล้นสะดมเป็นแนวทางเก็บทรัพย์สินที่เร็วทันใจที่สุดจริงๆด้วย ทั้งยังง่ายสุดๆ ดุเดือด ยังจำต้องค้นหาศุภโชคและก็บุญบารมีอะไรกัน เพียงแค่ชิงทรัพย์ศัตรูคู่อริตรงๆก็ได้แล้ว
“เจ้าเอาไปมิได้! ถ้าองค์ชายเจ็ดทราบเข้าจำเป็นต้องฉุนเฉียวประเดิมฆ่าแน่ๆ ถึงในตอนนั้นผู้ใดก็ไม่บางทีอาจแบกรับไฟความโมโหนี้ไว้ได้!”
ผู้แกร่งพวกนั้นต่างไม่สบายใจ
“เอ๋ยถึงอูหลิงเฟย พวกเจ้ามีคนใดกันบอกเราได้บ้างว่าขณะนี้เขาอยู่ที่แหน่งใด” หลินสวินเอ่ยถาม
เมื่อประโยคนี้เอ่ยออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เทวดามารหลินคนนี้ทำเรื่องหน้าไม่อายไม่มีความสำนึกแบบนี้ ยังมีหน้ากล้าไปพบองค์ชายเจ็ดอยู่อีกหรือ
ไม่กลัวตายน่าสังเวชหรือไร
แล้วก็ในช่วงเวลานี้เอง ภายนอกวังก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวปานฟ้าคำรามดังกังวานขึ้น
“เทวดามารหลิน เจ้าถึงกับกล้าบุกมาก่อกวนถึงถิ่นเรา ช่างไม่รักตัวกลัวตาย!”
ตามหลังเสียงดังกึกก้อง เงาร่างสีทองคำสวยงามสี่สายก็พุ่งเข้ามา
คนเผ่ากาทองคำในวังล้วนฮึกเหิมจนกระทั่งน้ำตาจะไหล ตื่นเต้นดีใจไม่มีใดเทียบ
คนที่กลับมาตอนนี้เป็นบุคคลขอบเขตมงกุฎสี่คน หนำซ้ำล้วนเป็นผู้เด่นของเผ่ากาทองคำอีกด้วย พลังต่อสู้กร้าวแข็งไม่มีใดเทียบ พอเพียงจะสยบยักษ์ใหญ่ยอดมงกุฎได้!
……
ข้างนอกพระราชวัง
คนฝึกปราณที่กำลังดูการต่อสู้พากันตื่นเต้น พวกเขาเป็นผู้เห็นเหตุการณ์มองเห็นบุคคลขอบเขตมงกุฎสี่คนของเผ่ากาทองคำรีบรุดกลับมา แต่ละคนกร้าวเข้มแข็งกินกันไม่ลง พาให้ผู้คนดวงใจสะท้าน
“บุคคลขอบเขตมงกุฎชั้นเยี่ยมของเผ่ากาทองคำ ทั้งกลับมาพร้อมสี่คนอีก เทวดามารหลินคนนั้นถึงเวลาเคราะห์แล้ว!”
เหล่าครูฝึกปราณเขาวิญญาณหมื่นอสุรีแล้วก็สำนักยุทธ์นครนิลต่างพากันลอบถอนใจหมดกังวล
แต่ว่าพร้อมนั้นพวกเขาก็รู้สึกผิดหวังน้อยๆแรกเริ่มพวกเขายังตั้งอกตั้งใจว่าคอยให้หลินสวินชิงทรัพย์เผ่ากาทองคำแล้ว พวกเขาก็จะใช้แนวทางมิจฉาชีพชิงทรัพย์มิจฉาชีพ ปล้นจี้จากหลินสวินเช่นกันเสียหน่อย
แต่ว่าในเวลานี้ดูท่าจะทำไม่ได้แน่ๆแล้ว
ครูฝึกปราณคนอื่นต่างก็จ้องอย่างใกล้ชิด คราวนี้เทวดามารหลินยากจะติดปีกหนีพ้นไหม
‘เฮ้อ เขาทำการตามใจชอบเหลือเกินแล้ว เมื่อครู่ไม่สมควรเข้าไปในบ้านพักของเผ่ากาทองคำเลย ครั้งนี้ดีนัก ถูกคนขวางเอาไว้ตรงๆเข้าให้แล้ว…’ หวังตงถอนใจในใจ หวาดหวั่นไม่หาย
เขามีความรู้สึกดีต่อหลินสวิน ก็เลยกลัดกลุ้มจิตใจเมื่อเขาจะต้องเจอเคราะห์
แม้กระนั้นภายหลังจากผ่านไปเดี๋ยวเดียว ภาพที่พาให้ผู้คนปากอ้าตาไม่กะพริบก็เกิดขึ้น
