แดนนิรมิตเทพ - ตอนที่ 1200

เจียงเหอซานพูดอย่างเย็นชา “รู้ก็ดีแล้ว เรื่องนี้ก็ให้มันเป็นไปตามนี้ ใครก็ไม่สามารถคัดค้านอีก จีอู๋หยา นายเป็นหัวหน้าทีม นำทีมให้เกิดความสามัคคีกัน!”
จีอู๋หยาขมวดคิ้ว ทีมแบบนี้อยากจะให้สามัคคีกัน ดูเหมือนจะยากอยู่นะ!
อย่างไรก็ตามจีอู๋หยายอมรับความท้าทายนี้อย่างกล้าหาญ ยืนตัวตรง ทำท่าวันทยหัตถ์แล้วกล่าว “ขอให้โส่วจ่างโปรดวางใจ ขอรับประกันว่าสามารถทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงอย่างแน่นอน!”
เจียงเหอซานพยันหน้า “เอาล่ะ พวกนายไปเตรียมตัวก่อน เราได้หารือกับสี่ประเทศที่เหลือแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกเดินทางไปยังสมรภูมิห้าประเทศ!”
“พรุ่งนี้!”
พวกเขาตกใจเล็กน้อย ครั้งนี้แม้แต่จีอู๋หยายังอดไม่ได้ที่จะถาม “โส่วจ่าง วันนี้เป็นวันตรุษจีน พรุ่งนี้ก็ยังเป็นเทศกาลอยู่เลย ไม่รอให้เทศกาลตรุษจีนสิ้นสุดลงก่อนเหรอ?.
เจียงเหอซานถอนหายใจ “สำหรับเราแล้ว กำลังอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ว่าอีกสี่ประเทศไม่มีเทศกาลตรุษจีน พวกเขาไม่มีทางคล้อยตามหัวเซี่ยของเราหรอก”
ชายวัยกลางคนผิวขาวคนนั้นได้พูดขึ้นอย่างเสียดาย “เฮ้ย ถ้าหากวัฒนธรรมของหัวเซี่ยสามารถเผยแผร่ไปทั่วโลกคงจะดีมาก อย่างนั้นแล้วทั่วโลกก็จะได้ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนของเรา!”
เจียงเหอซานกล่าว “อยากให้วัฒนธรรมของหัวเซี่ยเผยแพร่ไปทั่วโลก ก่อนอื่นหัวเซี่ยของเราก็ต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ประเทศอ่อนแอไม่สามารถจะเจรจาต่อรอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเผยแพร่วัฒนธรรมเลย อีกอย่างประเทศอื่นๆก็ไม่มีทางที่จะเลือกวัฒนธรรมของประเทศที่ฆ่าแกงพวกเขา”
“ดังนั้น เราจะตั้งหน้าตั้งตารอการผลงานของพวกนาย”
จีอู๋หยาทำความเคารพ “โส่วจ่างวางใจเถอะ รับประกันว่าภารกิจต้องสำเร็จอย่างแน่นอน!”
เจียงเหอซานกล่าว “เอาล่ะ พวกนายยังมีเวลาพักผ่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ออกเดินทาง!”
“ครับผม!” ทุกคนทำความเคารพอีกครั้ง
เจียงเหอซานกล่าว “แยกย้ายกันเถอะ พรุ่งนี้เช้า มารวมตัวกันที่นี่”
“ครับผม!” จีอู๋หยาและคนอื่นๆทำความเคารพอีกครั้ง
เจียงเหอซานออกไปกับผู้บังคับบัญชา เฉินโม่หันหลังและกำลังจากเดินออกไป แต่ถูกจางเจิ้นมาขวางเอาไว้ก่อน
“รองหัวหน้าเฉิน ผมมีปัญหาอยากจะขอคำแนะนำจากคุณหน่อย อย่าเพิ่งรีบไปสิ!” จางเจิ้นที่ใบหน้ามีความเย้ยหยัน เต็มไปด้วยความท้าทาย
จีอู๋หยาอ้าปากทำท่าจะพูด สุดท้ายกลับไม่ได้พูดห้ามแต่อย่างใด เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเฉินโม่นั้นมีดีอะไร
อย่างไรเสียหากเข้าไปในสมรภูมิห้าประเทศ คิดอยากจะเปลี่ยนคนมันก็สายไปแล้ว อีกอย่างถ้าหากความสามารถของเฉินไม่ถึง มันจะมีผลร้ายต่อทีมของหัวเซี่ยอย่างมหาศาล
เซี่ยไห่หลงกำลังจะขึ้นไป เพื่อช่วยเฉินโม่ จีอู๋หยาเรียกขึ้นพอดี “เซี่ยไห่หลง นายไปกับฉัน ไปเตรียมข้าวของ พรุ่งนี้จะได้ใช้!”
“นี่……..” เซี่ยไห่หลงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าจีอู๋หยานั้นจงใจ
คนที่เหลือมองเซี่ยไห่หลงด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เซี่ยไห่หลงออกหน้าแทนเฉินโม่
เซี่ยไห่หลงไม่ได้เป็นห่วงเฉินโม่เลย ความสามารถของเฉินโม่เขานั้นเข้าใจดีกว่าใครๆ แต่เขาเป็นห่วงจางเจิ้น จะทำให้เฉินโม่โกรธ หากเฉินโม่โกรธแล้วฆ่าจางเจิ้นตาย ผลตามนั้นจะร้ายแรงมาก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จีอู๋หยา มีคำสั่ง เซี่ยไห่หลงทำได้เพียงปฏิบัติตาม
“ช่างเถอะจางเจิ้น นายมันหาเรื่องเองนะ ขี้เกียจจะสนใจนายแล้ว!”
เมื่อเห็นเซี่ยไห่หลงออกไปแล้ว จางเจิ้นยิ่งลำพองใจมากกว่าเดิม มองเฉินโม่อย่างเย็นชาแล้วกล่าว “รองหัวหน้าเฉิน ลูกน้องของคุณไปแล้ว ตอนนี้คุณจะหวังพึ่งใครไม่ได้แล้ว ถ้าหากคุณกลัว ก็สามารถยอมแพ้ได้เลย พวกเราล้วนเป็นคนที่ใจกว้าง ไม่ถือสาคุณหรอก”
เฉินโม่มองจางเจิ้น ใบหน้าเรียบเฉย เขารู้ว่าที่จางเจิ้นหาเรื่องเขาตลอด แต่ไม่ได้จงใจดูถูกเขา เพียงแต่แค่สงสัยในความสามารถของเขา
อย่างไรเสีย ไม่มีใครอยากให้ทีมของตัวเองมีคนที่ไม่เก่ง โดยเฉพาะในเวลาที่ทุกคนกำลังจะเผชิญหน้ากับศึกแห่งความเป็นความตาย
“เก็บกำลังของนายไว้ไปใช้ในสมรภูมิห้าประเทศในวันพรุ่งนี้เถอะ ฉันไม่มีอารมณ์จะมาเล่นกับนาย!”
เฉินโม่ผลักจางเจิ้นออก แล้วเดินจากไป
จางเจิ้นยิ้มเยาะ “ไม่มีอารมณ์หรือว่าไม่กล้า? อย่าให้ถึงเวลาที่อยู่ในสมรภูมิห้าประเทศ เห็นเลือดแล้วก็ตกใจจนฉี่ราดนะ!”
เฉินโม่หยุดฝีเท้าลง แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง พูดอย่างเย็นชา “พูดมากไม่มีประโยชน์ เราไปเจอของจริงในสมรภูมิห้าประเทศ!”
จางเจิ้นตอบกลับอย่างเสียงดัง “ได้ เจอกันในสมรภูมิห้าประเทศ!”
