แดนนิรมิตเทพ - ตอนที่ 1553
นายน้อยกู่ดูยาวิเศษในมือของพ่อค้า แล้วตกใจไปชั่วขณะ และพูดว่า “ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นยาวิเศษขั้นสูงเช่นนี้!”
ไม่นาน นายน้อยกู่หันหัวมามองที่เฉินโม่ด้วยดวงตาที่เลิ่กลั่กพร้อมถามว่า “เด็กน้อย เจ้าเป็นคนที่ใด?”
เฉิยโม่มองเขาแต่ไม่ได้สนใจและตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ปล่อย”
นายน้อยกู่ถูกเฉินโม่ไม่สนใจสีหน้าก็เริ่มไม่ดีขึ้นมา แต่ว่าไม่ได้ทำท่าทีอะไร ปลอบใจตัวเองภายในใจว่าบางทีเด็กคนนี้คงมางานแลกเปลี่ยนครั้งแรกถึงไม่รู้จักฉัน
“เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?” นายน้อยกู่ถามอย่างเย่อหยิ่ง ด้วยน้ำเสียงนี้ต่างก็ทำให้คนรู้สึกว่าฐานะของเขาไม่ธรรมดาแน่นอน
แต่ว่าเฉินโม่ก็ยังคงไม่สนใจเขา มองแค่มือของเขาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันขอพูดอีกรอบ ปล่อยมือของฉันซะ!”
กู่หลานโกรธมาก นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าต่อปากต่อคำและไม่เอาเขามาวางไว้ในสายตา
“เด็กน้อย ข้าจะบอกอะไรให้นะ วันนี้เจ้าโสมนี่ฉันจะเอา!” กู่หลานมองไปที่เฉินโม่อย่างยั่วยุ
เจ้าของร้านเห็นท่าทีเฉินโม่ที่รุนแรงขนาดนี้จึงรีบทำสีหน้าใส่เฉินโม่ แต่เฉินโม่ไม่สนใจและมองไปที่ดวงตาของกู่หลานด้วยท่าทีที่ไม่ยอม
พ่อค้าจนปัญญาได้แต่พูดโน้มน้าวว่า “น้องชาย คุณอาจไม่รู้ว่าท่านนี้เขาเป็นเจ้าสำนักน้อยของสำนักตันจง มีนามว่ากู่หลาน ในเมื่อท่านเขาถูกใจโสมพวกนี้ คุณก็ปล่อยให้เขาเถอะ ข้างหน้านั้นก็มีเพื่อนๆของข้าที่ขายโสมพวกนี้เหมือนกัน ท่านก็ไปซื้อข้างหน้านั้นเอาก็ได้!”
เจ้าของร้านมีจิตใจที่ดี ไม่อยากให้เฉินโม่ล่วงเกินกู่หลาน ไม่ว่ายังไงกู่หลานก็เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อที่นี่มากพ่อของเขาก็เป็นเจ้าสำนักตันจง อีกอย่างเขาก็เป็นเจ้าของงานแลกเปลี่ยนนี้ ที่นี่ไม่มีนักปรุงกลั่นยาคนไหนกล้าล่วงเกินเขา
แต่ว่าเสียดายที่โสมนี้มีประโยชน์กับเฉินโม่อย่างมาก มันสามารถซ่อมแซมร่างกายส่วนหนึ่งที่เสียหายจากการฝึกวิชาลับของเฉินโม่ได้
ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมปล่อยโสมเลือดนี้ไปอย่างเด็ดขาด และแม้ว่าโสมเลือดนี้จะไม่มีประโยชน์กับเฉินโม่ แต่ท่าทางของกู่หลานที่รังแกคนในวันนี้ เฉินโม่ไม่มีทางยอมเป็นอันขาด
ผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพที่สง่างาน ถ้าถูกนักปรุงกลั่นยาของโลกบู๊โบราณรังแกแล้วข่าวแพร่ออกไปก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าขันน่ะสิ
เฉินโม่มองไปที่พ่อค้า แม้ว่าเขาจะไม่พอใจพ่อค่าที่มีนิสัยขี้ขลาดนั้น แต่นี่มันเป็นนิสัยพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นเฉินโม่จะไม่ไปคิดอะไรกับเจ้าของร้านนั้น อีกอย่าพ่อค้านั่นก็ยังเตือนเขา ก็แสดงว่าเขาก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่
“พ่อค้า เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง นี่มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา ไม่เกี่ยวกับคุณ!”
เจ้าของร้านเป็นคนฉลาดและรู้ว่าเฉินโม่จงใจจะให้เขาหลบออกจากความสัมพันธ์นี้ ก็นับว่าเป็นการตอบแทนจากการที่ได้เตือนเขาไปในเมื่อสักครู่นี้
พ่อค้ารีบถอยมาหนึ่งก้าวทำท่าทางว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในเมื่อเฉินโม่รู้ฐานะของกู่หลานแล้วแต่ยังกล้าหาเรื่องกู่หลานต่อ แสดงให้เห็นว่าตระกูลของเฉินโม่ก็อาจจะไม่ได้แย่ไปกว่ากู่หลานเลย
ในขณะที่ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองทวีความรุนแรงขึ้นและใกล้จะปะทะกันขึ้น ก็มีเสียงอ่อนโยนของผู้หญิงดังมาจากด้านหลังว่า “นายน้อยกู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เฉินโม่มองกลับไปและเห็นแค่คนในชุดขาวผมยาวหน้าสวย ทั้งตัวส่งกลิ่นอายความเป็นผู้ใหญ่แล้วออกมาและกำลังเดินเข้ามา
เธอยืนอยู่ข้างกายของกู่หลาน มือข้างหนึ่งจับไปที่แขนของกู่หลานอย่างสนิทสนม รอยยิ้มบนใบหน้าที่อ่อนโยนดูแล้วรู้สึกอบอุ่นและสบาย
เฉินโม่กลับไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ แต่มู่เจิ้งเฟิงที่อยู่ข้างๆเฉินโม่ที่ได้มองเห็นเธอกลับมีสีหน้าที่ดูไม่ดี
ผู้หญิงคนนั้นก็มองเห็นมู่เจิ้งเฟิงอย่างชัดเจน แต่ว่าไม่ได้ทักทายมู่เจิ้งเฟิงในทันที แต่กลับใช้ดวงตาที่สวยจ้องดูไปที่กู่หลาน แสดงออกราวกับว่าในใจมีแค่กู่หลานคนเดียว