จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1911 การพบปะที่ลับสูงที่สุด

จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1911
ภายหลังที่เรือนิรันดรได้เพิ่มเติมเสบียงอาหารเป็นระเบียบเรียบร้อยและก็ได้เริ่มเดินทางอีกรอบ มุ่งหน้าทางสู่ไกลทุรกันดารถัดไป
ไกลแห้งแล้งเป็นสถานีท้ายที่สุดของดินแดนที่การค้น แล้วก็เป็นสถานที่ที่ห่างไกลที่สุดของดินแดนที่การค้น ช่วงเวลาเดียวกันยังเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่งที่สุดของดินแดนที่การค้นหาอีกด้วย ในดินแดนที่การค้นหานี้อย่าว่าแต่ว่ายอดความสามารถทั่วๆไปแลย ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับจอมเทวดา จนถึงระดับจอมพระราชาเซียนหวังก็มีความน่าจะเป็นไปได้ที่เอาชีวิตรอดกลับมามิได้ ความอันตรายของไกลแห้งแล้งพูดได้ว่าสามารถทำให้ผู้คนจำเป็นต้องหน้าซีดเมื่อมีการกล่าวถึง
ระยะทางที่มุ่งสู่ไกลทุรกันดารนั้นไกลมาก ระหว่างที่เรือนิรันดรก็เงียบสงบกว่าเดิมมากมาย เนื่องมาจากผู้โดยสารที่จะไปยังไกลทุรกันดารมีปริมาณลดน้อยลงมากมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มีเงินมากพอที่จะไปยังไกลทุรกันดารได้ก็ไม่กล้าเสี่ยงโดยง่ายถาง เพราะว่าการไปที่ไกลทุรกันดารชอบเป็นการไปรนหาที่ตายอยู่เป็นประจำๆ
ในระหว่างการเดินทาง หลี่ชิเย่ได้กักตนฝึกฝนวิชาโดยไม่ออกมาจากห้องแม้กระทั้งก้าวเดียว ยาวนานหลายวันมานี้อู่ฟ่งเย่อหยิ่งได้มาหาหลี่ชิเย่ แต่ถูกลูกสาวพระราชาฉีหลินกันเอาไว้ เพราะหลี่ชิเย่ได้สั่งเอาไว้ว่าไม่เจอคนไหนกันแน่ทั้งมวล และก็ทำกีดกันช่องว่างเอาไว้ด้วย
จะว่าไปรวมทั้งให้รู้สึกแปลก อู่ฟ่งวางท่ากลับไม่เอะอะ แล้วก็คอยการกลับออกมาของหลี่ชิเย่อปิ้งสงบ
ตอนการเดินทางไปยังไกลแห้งแล้ง หลี่ชิเย่กักตนมิได้ก้าวออกมาจากประตูถึงแม้เพียงแค่ก้าวเดียว โดยมีบุตรสาวกษัตริย์ฉีหลินรอเฝ้าอยู่หน้าประตูอย่างขมีขมัน เหตุเพราะหลี่ชิเย่ได้ขัดขวางช่องว่าง ทำให้ด้านในภายสงบเงียบยิ่งนัก
ลักษณะแบบนี้ทำให้ลูกสาวพระราชาฉีหลินที่เฝ้าอยู่หน้าทางเข้าดวงใจว่า หลี่ชิเย่กำลังฝึกฝนวิชาอย่างเขม้นขะมัก กำลังบรรลุยอดเยี่ยมความจริงสูงสุดท่ามกลางช่องว่างที่ถูกห้ามเด็ดขาด
แต่ ลูกสาวกษัตริย์ฉีหลินกลับไม่ทราบว่า จักรพรรดิบรรพกาลด้านในภายไม่มีเงาของหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่มิได้อยู่ด้านในภายนี้แล้ว เขาแค่เพียงขัดขวางช่องว่างเอาไว้เพียงเท่านั้น
หลี่ชิเย่จนกระทั่งมิได้อยู่ด้านในเรือนิรันดรด้วยซ้ำ ไม่มีผู้ใดทราบว่าเขาได้หลบออกไปจากเรือนิรันดรตั้งแต่เมื่อใด ไม่มีผู้ใดสามารถติดตามร่องรอยของหลี่ชิเย่ได้เลย และไม่มีผู้ใดกันสามารถคำนวณถึงร่องรอยของหลี่ชิเย่ได้ ไม่เว้นแม้กระทั้งระดับจอมพระราชาเซียนหวัง ด้วยเหตุว่าหลี่ชิเย่ได้กระทำการลบร่องรอยทุกๆอย่างออกไปจนถึงหมดเกลี้ยง
ระหว่างที่เริ่มเดินทางจากเมืองตี้ฮว่าเพื่อไปยังไกลทุรกันดารนั้น หลี่ชิเย่ได้กระทำการลบร่องรอยทั้งสิ้นที่ตัวเองเคยเหลือทิ้งเอาไว้ภายในมิติที่ยุคสมัย ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถติดตามร่องรอยของเขาได้อีกต่อไป ไม่มีผู้ใดสามารถคำนวณหาได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นจอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายลงมือคำนวณหาก็จะมิได้คำตอบด้วยเหมือนกัน
เพราะว่าหลี่ชิเย่ได้เตรียมตั้งแต่ตอนแรกเอาไว้อยู่แล้ว กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว การไปไกลแห้งแล้งเพียงแค่ทางผ่านเพียงเท่านั้น รวมทั้งเป็นตัวล่อเพียงเท่านั้น ท่ามกลางทางสายนี้ วัตถุประสงค์หลักที่จริงจริงของหลี่ชิเย่เป็นอยากเจอกับคนผู้หนึ่ง จนกระทั่งเรียกได้ว่า การมาที่ชิงโจวของหลี่ชิเย่นั้น โดยความเป็นจริงแล้วจุดหมายเป็นอยากได้เจอคนๆนี้
ในนี้เกี่ยวข้องถึงความลับที่ยิ่งใหญ่มากมาย ความลับที่ไม่อนุญาตให้ผู้หนึ่งใครกันแน่ล่วงรู้ได้โดยเด็ดขาด
ในช่องว่างที่ไม่มีผู้ใดรู้ พิกัดตำแหน่งที่ไม่มีผู้ใดทราบ สถานที่ที่ไม่มีผู้ใดรู้ ทุกๆอย่างล้วนแต่ไม่มีผู้ใดทราบในที่ตรงนี้ทุกสิ่งถูกปกปิดเอาไว้ทั้งหมดทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นผู้ยังคงอยู่ในฐานะอะไร เป็นสิ่งมีชีวิตใด เป็นสถานที่ที่ล้วนแต่ไม่สามารถที่จะสืบหรือแลเห็นได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้มีอิทธิพลระดับสูงสุด หรือจอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายก็ไม่สามารถที่จะทำสืบได้
มันเป็นที่สุดของสถานที่ลับ สถานที่ที่ถูกแอบแฝงขั้นเด็ดขาด จนถึงบอกได้อย่างไม่เป็นการอ้างได้เลยว่า เป็นสถานที่ที่แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ก็สืบไม่ถึง
meenovel.com/novel/emperors-domination/
หลี่ชิเย่นั่งอยู่ที่ตรงนี้เอง นั่งคอยอยู่เฉยๆไม่มีกระแสเสียงใดๆก็ตามเหมือนกับได้หลอมรวมเข้ามาเป็นเนื้อเดียวกันกับช่องว่างลับยอดเยี่ยมที่นี้
สถานที่ที่นี้ใช้คำว่าลับยอดเยี่ยมยังไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบได้ เนื่องมาจากช่องว่างที่ลับยอดเยี่ยมที่นี้มีบุคคลที่รู้อยู่เพียงแต่สองคนเพียงแค่นั้น คนหนึ่งเป็นตัวเขาเอง อีกคนหนึ่งก็คือผู้ที่หลี่ชิเย่ต้องการจะคอย จนกระทั่งกล่าวได้อย่างไม่เป็นการยกเมฆว่า แม้กระทั้งพระราชาเซียนหมิงเหรินในบางคราวนั้นก็ไม่เคยทราบสถานที่ที่นี้
เพราะว่าสิ่งนี้เป็นความลับที่กระเทือนฟ้า เป็นความลับที่ไม่สามารถที่จะเผยได้ตลอดไป ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะรู้เรื่องราวที่ปกปิดไว้เป็นความลับนี้ได้
ในที่สุด ช่องว่างได้มีการกระเพื่อมครั้งหนึ่ง มีคนผู้หนึ่งมาถึงสถานที่ที่นี้แล้ว เขาเป็นคนที่หลี่ชิเย่รอนั่นเอง
บุคคลผู้นี้ลับยอดเยี่ยม เค้าหน้า เครื่องหมาย ฐานะ ชื่อ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเขาถูกปกปิดอำพรางเอาไว้ ทุกสิ่งของเขาไม่อนุญาตให้ใครสืบได้
“ว่ากันตรงเวลาที่นัด ท่านมาสายแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเมื่อเห็นคนที่มา
คนที่ปรากฏถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางความลับยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฐานะของเขา ประวัติความเป็นมา ทุกสิ่งของเขาในโลกนี้มีบุคคลที่รู้อยู่เพียงผู้เดียว คนผู้นี้ก็คือหลี่ชิเย่!
“วิถีทางไกลห่าง การที่จะมาสักหนึ่งครั้งไม่ง่ายเลย” คนที่มาถึงกับยิ้มกล่าวเพิกเฉยว่า “อีกอย่าง สายตาเยอะมากอย่างยิ่ง การออกจากบ้านไกลๆสักหนึ่งครั้งใช่เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นถาง”
หลี่ชิเย่เพียงหัวเราะคราวหนึ่ง ทุกๆอย่างล้วนอยู่ท่ามกลางบริเวณใบหน้าที่ยิ้มแย้มเรียบนี้
“ชาตินี้เหมาะมาได้แล้วสิ” ท้ายที่สุด หลี่ชิเย่ได้พูดขึ้นช้าๆ
“ถึงแม้ว่าจะไม่ควรมา ก็ควรจบสิ้นกันได้แล้ว” คนที่มาได้กล่าวขึ้นมาว่า “ในเมื่อ ท่านตกลงใจเริ่มเดินทางแล้ว ก็ได้เวลาเหมาะสมให้มันจบได้แล้ว”
“ถูก ถึงเวลาให้มันจบได้แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดนึง แล้วก็บอกว่า “กำจัดพวกคนเลวกลุ่มนี้หมดแล้ว ก็ควรแก่ในขณะที่เราเริ่มเดินทางได้แล้ว ให้เราได้ต้อนรับการต่อสู้เป็นหนสุดท้ายอย่างหมดห่วงก็ตามใจ”
“ท่านมีความเชื่อมั่นกับการต่อสู้หนสุดท้ายไหม?” คนที่มาเพ่งมองมองหลี่ชิเย่ อย่างเอาจริงเอาจัง รวมทั้งบอกว่า “ถ้าเกิดท่านมีชัยกลับมาจากการต่อสู้คราวสุดท้าย คนอัลธพาลที่ว่าไหนเลยมีค่าคู่ควรจะพูดถึง มันก็แค่ใยแมงมุมซึ่งสามารถปัดออกไปเบาๆเพียงเท่านั้น”
“บนทางสายนี้ ผู้ใดเล่าสามารถบอกได้เต็มเปี่ยมว่าจะเป็นผู้ชนะ? ผู้ที่ก้าวเดินผ่านไปมีมากมายก่ายกองอย่างมาก” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบและก็พูดว่า “ท้ายที่สุดแล้ว เคยมีผู้ใดทำเป็นเสร็จบ้างหละ? สิ่งนี้มันไม่ใช่ง่ายราวกับเพียงแต่เริ่มต้นช่วงที่ใหม่ทั้งสิ้นเท่านั้น!”
คนที่มาได้นิ่งอึ้งกับคำกล่าวแบบนี้ เป็นความจริงที่มีผู้ก้าวเดินบนทางนี้จำนวนมากอย่างมาก แล้วมีผู้ใดกันบ้างซึ่งสามารถได้รับชัยเล่า? ไม่มีผู้ใดรู้ดีว่าข้างหลังผ่านการต่อสู้หนสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างใด เมื่อก้าวเดินถึงท้ายที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าจะสามารถเอาชนะสำหรับเพื่อการต่อสู้คราวสุดท้ายได้จริงๆก็ไม่มีผู้ใดทราบดีว่าจะได้ต้อนรับสิ่งใดกันแน่!
“นี่แหละเป็นการยืนยันสองชั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบว่า “การกวาดล้างสิ้นคนพาล เว้นเสียแต่สามารถต่อสู้คราวสุดท้ายอย่างมีความสุขแล้ว ยังไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีคนไหนกันแน่มากีดกัน ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็เป็น แม้กระทั่งสามารถมีชีวิตรอดกลับจากการต่อสู้หนสุดท้ายมาได้ เมื่อเป็นแบบนั้นความืดมิดที่ว่าก็ไม่ดำรงอยู่อีกต่อไป โลกในอนาคตก็อยู่ในกำมือของท่าน สามารถทรหดอดทนผ่านไปได้หรือเปล่า ขึ้นกับท่านรวมทั้งพวกเขาสามารถนำพาโลกใบนี้ให้ก้าวล้ำไปได้หรือเปล่าแล้ว!”
“เราไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยโลก” คนที่มาหัวเราะแล้วก็ส่ายศีรษะ กล่าวขึ้นมาช้าๆว่า “เราก็ไม่ใช่เป็นผู้เฝ้าคุ้มครองปกป้องทางสายนี้”
“จะมีผู้ใดกันแน่ทราบเล่าว่าผู้ใดกันเป็นพระผู้เป็นเจ้าช่วยโลก คนใดกันเป็นผู้คุ้มครองปกป้องป้องกัน” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมาแล้วก็พูดว่า “ในใจของคนเราในหล้า เราเป็นไปได้เพียงแค่คนฆ่าสัตว์คนหนึ่งเพียงแค่นั้น ในใจของเหล่าจอมกษัตริย์เซียนหวังอาทิเช่นพวกท่าน เราเป็นเพียงแค่มือมืดที่รอสั่งการพวกเจ้าเพียงแค่นั้น”
“ท่านไม่เคยสารภาพว่าตนเองเป็นผู้คุ้มครองปกป้องคุ้มครองปกป้อง แต่ว่าท่านกลับไม่เคยได้ปล่อยวางพลาดท่า” คนที่มาได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆว่า “เพราะเหตุใดจะมิได้ หากต้องการจะให้คนทั่วหล้าได้รับทราบ”
“ท่านเองก็ปกปิดฐานะเอาไว้ไม่ใช่รึ มีคนไหนกันแน่เล่าที่รับทราบถึงฐานะที่ลึกลับของท่านกันหละ?” หลี่ชิเย่หัวเราะคราวหนึ่งและก็บอกว่า “ในวันนี้ของท่านมีทางสายอื่นซึ่งสามารถเลือกได้ แต่ว่าท่านก็ยังคงก้าวเดินบนทางสายนี้ของเราถัดไป โน่นเป็นทำไม? กิตติศัพท์ในโลกกล่าวสำหรับเราแล้วไม่นับเป็นอะไร แม้กระทั่งไม่ทิ้งร่องรอยอะไรก็ตามของเราในช่วงนี้ก็ไม่นับเป็นอะไร! เราเพียงแต่ทำในสิ่งที่เราต้องการทำเพียงเท่านั้น สุดเพียงเท่านี้ล่ะ เราไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยโลก และไม่ใช้ผู้ปกป้องรักษาคุ้มครองป้องกันอะไรโน่น”
คนที่มาไม่เอ่ยถึงหัวข้อนี้อีกต่อไป เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่พวกเขาได้เลือกเอาไว้ ถ้าขาดการระวังถึงแม้เพียงแต่น้อยนิด พวกเขาบางทีก็อาจจะจะต้องถูกผู้คนในโลกสาปแช่งเป็นหมื่นปี จนถึงวันหนึ่งสิ่งที่พวกเขาทำล้มเหลว พวกเขาก็บางทีก็อาจจะถูกชนรุ่นหลานกล่าวบิดเบือนกระทั่งแปลงเป็นมารร้ายที่ต่ำช้าก็เป็นไปได้!
แม้กระทั่งมีความน่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาบางทีอาจถูกผู้คนบอกบิดเบือนจนกระทั่งแปลงเป็นมารร้ายที่สารเลวเลวทรามต่ำช้า พวกเขายังคงก้าวเดินบนทางสายนี้ถัดไป เพราะเหตุว่าแม้พวกเขาไม่ก้าวเดินต่อไปบนทางสายนี้ล่ะก็ ในอนาคตขณะการล้มล้างยังไม่ทันกำเนิด โลกก็เปลี่ยนเป็นความมืดดำมิดไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น พวกเขาก็เลยได้ตกลงใจเลือกเดินบนทางสายนี้!
“คนแก่พวกนั้นคืออะไรบ้าง?” ท้ายที่สุด พวกเขาได้เจรจาถึงเรื่อง เฉพาะขึ้นมาแล้ว พวกเขากำลังคิดแผนเรื่องสำคัญที่สั่นสะเทือนฟ้า เป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่อาจจะให้คนอื่นๆรับทราบได้ชั่วกัลปวสาน
“หลบซ่อนได้มิดชิดมากมาย” คนที่มาได้กล่าวขึ้นช้าๆว่า “ในใจของพวกเขารู้ว่า มีจอมกษัตริย์เซียนหวังที่ไม่ยินยอมเลิกราแน่ๆ และก็พวกของกษัตริย์เซียนเจียวเหิงก็ไม่ยินยอมวางมือเพียงเท่านี้แน่ เพราะฉะนั้น ก็เลยแอบตัวได้มิดชิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวกเขา หรือพวกของเจียวเหิงที่เป็นจอมกษัตริย์เซียนหวังหลายท่าน ต่างสืบเรื่องราวมิได้”
“ไว้ใจเถิด เจียวเหิงไม่ตายกล้วยๆแบบงั้นหรอกนะ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและก็พูดว่า “ด้วยนิสัยของเขา ขอเพียงแต่ถูกเขาจับได้เขาก็จะสู้ไปจนกระทั่งถึงที่สุด! พระราชาเซียนเหมือนกับพวกเขาทั้งหลายแหล่ได้ทุ่มเทให้กับทางสายนี้ไปไม่น้อยเลย สิ่งที่พวกเขามอบให้บนทางสายนี้มิได้ด้อยไปกว่าการเดินทางไกลเพื่อกำจัดเป็นคราวสุดท้ายของพวกกษัตริย์เซียนหมิงเหรินเลย!”
พวกของพระราชาเซียนหมิงเหรินเลือกที่จะก้าวเดินบนทางของการเดินทางไกลเพื่อกำจัดเป็นคราวสุดท้าย ช่วงเวลาที่เหมือนกับพวกของกษัตริย์เซียนเจียวเหิงหลายองค์ในฐานะพระราชาเซียนผู้ไม่มีผู้ประมือของเก้าดินแดน กลับเลือกที่จะเดินบนทางอีกสายทางที่ต่างจากบุคคลอื่น
ในนี้ได้เกี่ยวเนื่องถึงการทำศึกที่ไม่จบสิ้นรวมทั้งนานตั้งแต่สมัยก่อนถึงตอนนี้ เพียงมันเป็นการสู้รบที่ผู้คนบนโลกมิได้รับทราบเพียงแค่นั้น
“บางเวลา ท่านควรจะตามหาชิงมู่ผู้ลึกลับให้เจอ ในมือของเขามีเรื่องราวมากยิ่งกว่าเสียอีก” คนที่มาได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“ปรารถนาเจอชิงมู่ก็ใช่เป็นเรื่องที่ไม่ยาก เหมาะสมได้เจอเขาจะแสดงตัวออกมาเอง” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆว่า “ในใจของชิงมู่อาจคิดคำนวณเอาไว้แล้วหละ เขามีชีวิตอยู่มาอย่างนาน เรื่องราวหลายๆเรื่องเขารู้เรื่องอย่างดีเยี่ยม”
กษัตริย์เทวดาชิงมู่เป็นจอมกษัตริย์คนแรกของสิบสามทวีป แม้กระนั้นเป็นจอมพระราชาที่ลึกลับสูงที่สุด ไม่มีผู้ใดทราบดีว่าเขาอยู่ที่แห่งใด ไม่มีผู้ใดรู้ดีว่าเขาเป็นเยี่ยงไรบ้างแล้ว จนกระทั่งไม่มีผู้ใดทราบว่าเขาเป็นหรือตายด้วย
“ไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวมิดชิดเท่าใดก็ตาม ชาตินี้ก็จะต้องถึงเวลาที่จะต้องสิ้นสุดลงแล้ว” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นมาช้าๆว่า “ถ้าพวกเขาไม่แสดงตัวออกมา ถ้าต้อง เราก็จำเป็นต้องล่อเสือออกมาจากถ้ำ ทำให้พวกเขาจะต้องออกมา ย่อมควรจะมีจังหวะที่พวกเขาอดทนเอาไว้ไม่อยู่บ้างหละ!”
“จัดแจงกำจัดจอมกษัตริย์เซียนหวังนิดหน่อยก่อนเป็นขั้นตอนแรก!” คนที่มาได้กล่าวอย่างช้าๆว่า “ไม่ว่าจะเป็นท่านหรือเรา เมื่อถึงเวลาเปิดศึกก็ไม่สามารถที่จะค้ำประกันได้ว่าทุกคนจะยืนอยู่ข้างข้างของเรา ทั้งยังท่าทางของจอมกษัตริย์เซียนหวังบางบุคคลก็มีลัษณะทิศทางที่แจ้งชัดมากมาย! ถึงเวลานั้นเราอาจมีความน่าจะเป็นที่จะตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมล้มล้างก็เป็นไปได้”
ติดตามต่อพอดี meenovel.com
“หัวข้อนี้ต้องอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะคราวหนึ่ง แล้วก็กล่าวขึ้นมาช้าๆว่า “ที่ควรจัดแจงก็ให้จัดแจงเสีย กำจัดเด็ดปีกของพวกเขาเสีย อย่าให้พวกเขาบินขึ้นมาได้ ไม่ปลดปล่อยให้พวกเขามีลูกบริวาร ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดมีลูกบริวารเยอะเกินไป เราก็ไม่อาจจะล่อพวกเขาออกมา! เมื่อใดที่พวกเขาแอบมิดชิดเกินความจำเป็น เกรงว่าเราจะเสียโอกาสไป”
“เริ่มลงมือกับคนใดกันแน่ก่อน?” คนที่มาเอ่ยขึ้น
“ประเด็นนี้เราไม่อาจจะทำให้โจ่งแจ้งเกินความจำเป็นใช่ไหม” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและก็บอกว่า “ในใจของเรามีรายนามเอาไว้ก็พอแล้ว คนใดกันแน่ควรฆ่าก็ให้ฆ่าเสียโดยไม่มีการยกเว้น ไม่สนใจว่าจะเป็นจอมพระราชาเซียนหวัง! ไม่อนุญาตให้พวกเขายืนอยู่กับอีกข้างหนึ่ง!”
