จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1919 อันตรายของไกลแห้งแล้ง

จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1919
ถึงแม้ว่าพวกของบุตรีกษัตริย์ฉีหลินจะติดตามหลี่ชิเย่ก้าวเดินไปด้านหน้าถัดไป แต่ ในช่วงเวลานั้นบรรยากาศได้เปลี่ยนเป็นหนักยิ่งนัก ทุกคนต่างมิได้บอกอะไรออกมา เรื่องที่หลี่ชิเย่เล่ามานั้นเหมือนดุจเป็นฝันร้ายที่อาศัยอยู่ในใจของทุกคน ถึงแม้ว่าสิ่งที่พวกเขาคิดล้วนแต่ต่างกันออกไป แต่ว่า ในใจกลับรู้สึกหนักตลอด ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด พวกเขารู้สึกสังหรณ์ใจถึงความไม่ปลอดภัยอยู่ตลอด
ตอนนี้ คนที่ขึ้นมายังไกลทุรกันดารมีเยอะๆแล้ว ถึงแม้ว่าทุกคนต่างทราบว่าไกลแห้งแล้งเกิดอันตรายยิ่ง แต่ ไหนๆก็ได้ขึ้นมายังไกลทุรกันดารแล้ว จะปลอดคนหนึ่งคนไหนกันแน่ยอมทอดทิ้งกล้วยๆไม่มีผู้หนึ่งคนใดยอมเสียโอกาสง่ายสุดๆ เพราะว่าไกลแห้งแล้งมีของยอดเยี่ยมที่ดีเยี่ยมที่สุด ถ้าหากได้เป็นเจ้าของเมื่อใดล่ะก็ จะได้รับผลดีไปตลอดชาติทีเดียว นอกเหนือจากนั้น ยอดความสามารถไม่น้อยเลยทีเดียวมิได้มาเพียงลำพังผู้เดียว พวกเขามากันเป็นหมู่คณะ ทั้งในกรุ๊ปของพวกเขายังหรูหราจอมเทวดาอยู่ด้วย เหตุนี้เองก็เลยทำให้พวกเขารู้สึกมีความองอาจมากเพิ่มขึ้น รวมทั้งเริ่มกระทำการค้นหากันไป
จะไปโทษว่าคนที่มาเสี่ยงภัยพวกนี้โลภมากก็ผิด เพราะว่าในไกลแห้งแล้งสามารถเผชิญของดีจริงๆสิ่งที่พบเห็นในไกลทุรกันดารทรงอำนาจยิ่งนัก มีข้าวของหลายชิ้นสามารถสยบศาสตราวุธเต๋าจอมพระราชาเซียนหวังได้ ลองนึกดูมอง ข้าวของลักษณะแบบนี้ไม่ทำให้ผู้คนหัวใจเต้นตูมตามได้รึ?
สามารถได้รับของยอดเยี่ยมจากไกลแห้งแล้งสักชิ้นหนึ่ง ย่อมเกิดเรื่องที่กำลังจะได้ได้ประโยชน์อย่างมากมาย ซึ่งอาจมีความน่าจะเป็นไปได้ว่าใช่จะได้รับคุณประโยชน์เพียงผู้เดียว จนถึงมีความน่าจะเป็นไปได้ว่า อีกทั้งสำนักจะได้รับคุณประโยชน์กันถ้วนหน้าก็เป็นไปได้
เนื่องเพราะแบบนี้นี่เอง ไกลแห้งแล้งก็เลยไม่ขาดนักผจญภัยตลอดมา แน่ๆที่สุด คนที่มาเผชิญภัยยังไกลทุรกันดารล้วนแต่เป็นเลิศความสามารถโดยแท้ ไม่เว้นแม้กระทั้งจอมเทวดา จนถึงจอมกษัตริย์เซียนหวังก็มาที่ไกลทุรกันดารด้วยตัวเอง!
นักเดินทางจากเรือนิรันดรหาใช่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่ขึ้นไปยังไกลทุรกันดาร เรื่องจริงแล้วในช่วงเวลานี้มียอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากกำลังเดินค้นหาอยู่ที่ไกลแห้งแล้งมาก่อนแล้ว และก็มียอดความสามารถโดยแท้เล็กน้อยที่เฝ้าอยู่แต่ว่าสถานที่เพียงแต่ที่เดียวแค่นั้น เพราะว่ายอดความสามารถโดยแท้พวกนี้มิได้มาที่ไกลแห้งแล้งเพียงแต่ครั้งเดียวแค่นั้น พวกเขามีประสบการณ์รู้ดีว่ารอบๆไหนจะมีของยอดเยี่ยมปรากฏออกมา
“อ๊ากก…” ระหว่างที่หลี่ชิเย่เดินผ่านเนินทรายในระยะห่างไกลอยู่นั้น ที่ตรงนั้นก็มีขบวนผู้คนปริมาณหลายร้อยคนเดินผ่านมา ทันทีนั้น เนินทรายฉับพลันยุบลงปรากฏเป็นหลุมกลวงกลืนรับประทานขบวนผู้คนปริมาณหลายร้อยคนนี้ไปในทันที เสียงร้องน่าเศร้าดังกระหึ่มท่ามกลางหลุมนั้น
ยอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนปริมาณหลายร้อยคนหายสาบสูญอยู่ในหลุมกลวงแบบนี้ จักรพรรดิบรรพกาลเรียกว่าตายไม่เจอศพ เป็นไม่เจอตัว แล้วหลังจากนั้น ได้ยินเสียงดังช่าา หลุมดังกล่าวข้างต้นหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสู่ธรรมดาอีกที ดังว่าไม่เคยมีเรื่องมีราวอะไรเกิดมาก่อน
“โอ้ แม่จ้ะ…” ภาพที่ปรากฏ ทำเอาอู่ชีตกดวงใจเต็มที่ ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าว และก็บอกว่า “ใต้พื้นดินมีตัวประหลาด”
“ถ้าเกิดเจ้ายังคงก้าวถอยหลังไปทางซ้ายอีกก็จะมีตัวประหลาดในความเป็นจริงแล้วหละ” ตอนที่อู่ชีกำลังตกอกตกใจเต็มที่ หลี่ชิเย่ได้กล่าวเรียบเฉยเมยขึ้นว่า “ในเวลานั้นเรากำลังเดินอยู่บนข้างหลังของมัน แม้ยังติดเข้าไปทางซ้ายอีกต่อไป ระวัง หัวอีกหัวหนึ่งของมันจะกินเจ้าเข้าไป”
คำกล่าวของหลี่ชิเย่ทันทีสร้างความตกใจให้กับอู่ชีจนถึงหัวเข่าอ่อนทั้งสองข้าง ร่างของเขาสั่นเทิ้มครั้งหนึ่ง แล้วก็พูดว่า “พี่ใหญ่ ท่าน ท่านยั่วเล่นอย่างนี้มันไม่ขำเลยสักหน่อย”
“คนไหนยั่วเล่นกับเจ้า?” หลี่ชิเย่กล่าวเพิกเฉยว่า “นี่มันเป็นเพียงแค่สัตว์ในสมัยดึกดำบรรพ์ที่พักผ่อนหลับอยู่ใต้พื้นดินตัวหนึ่งเพียงเท่านั้น จะให้ปลุกมันตื่นมาให้เจ้ามองไหม”
“อย่า อย่า อย่า น้องเพียงแค่ยั่วเล่นเพียงเท่านั้น พูดเล่นกับท่าน น้องเชื่อ เชื่อคำพูดของพี่ใหญ่แน่ๆ” ทำเอาอู่ชีรีบกล่าวยอมยกธงขาวขึ้นมา
ตอนที่หลี่ชิเย่พาพวกของบุตรสาวพระราชาฉีหลินเดินผ่านผาชันแห่งหนึ่ง ทันทีนั้น เสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้น ใต้พื้นดินโดยพลันพวยพุ่งเป็นหมอกเลือดนับไม่ถ้วน ผู้บำเพ็ญตนหลายสิบผู้ที่กำลังเสี่ยงภัยอยู่รอบๆผาที่นั้นร้องเสียงน่าสังเวชขึ้นมา “อ๊ากก อ๊ากก อ๊ากก” หมอกเลือดที่พวยพุ่งออกมาถูกตัวเขาเหล่านั้น ร่างกายผู้บำเพ็ญตนทั้งสิ้นที่ถูกหมอกเลือดถึงกับเริ่มละลาย เนื้อหนังบนตัวหลุดออกมาครั้งละชิ้นๆเพียงแต่ชั่วพริบตาเดียวร่างกายของพวกเขาก็ละลายแปลงเป็นน้ำเลือดไปสิ้น และก็ซึมหายเข้าไปด้านในพื้นดิน
“เวรเอ๊ย นี่มันอะไรของมันนะ…” ภาพนี้ทำให้พวกของบุตรีพระราชาฉีหลินที่ยืนอยู่ใต้ผาโดยสวัสดิภาพถึงกับขนลุกซู่ในใจ ด้วยเหตุนี้ใครๆถึงได้กล่าวว่าไกลทุรกันดารอันตรายยิ่งนัก เต็มไปด้วยความตายทุกก้าวย่าง ถ้าเกิดไม่ทันระวังก็ต้องตายอยู่ตรงนี้ ในช่วงเวลานี้มองไปแล้วมันเป็นแบบนี้จริงๆถ้าไม่เป็นเพราะเหตุว่าติดตามหลี่ชิเย่มาล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาอาจจะตายไปหลายคราแล้ว
แน่ๆ ใช่ว่าทุกคนที่อยู่ในไกลทุรกันดารควรเป็นข้างที่ถูกเฉือนได้ตามใจชอบเสมอ คนที่ก้าวผ่านไกลแห้งแล้งอย่างดุดัน อาศัยอาการที่ไม่มีผู้ประมือบดขยี้ทุกสิ่ง
“ตูม ตูม ตูม…” เสียงดังตูมตามก้องทั่วฟ้าดิน ท่ามกลางกรุ๊ปของเทือกเขาแต่ละลูกที่สูงเสียดฟ้าเห็นมีผู้ที่กำลังต่อสู้อยู่นั่นอย่างรุนแรง
เป็นคนสองผู้ที่กำลังต่อสู้กันจนถึงฟ้ากระหน่ำดินทลายอยู่นั่น พวกเขาได้ชนจนถึงเทือกเขาหักเป็นลูกๆจู่โจมทะลุผ่านเทือกเขาแต่ละลูก ภายใต้การจู่โจมฆ่าจนถึงพื้นดินยังถูกฉีกจนขาด
ทั้งสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรงนั้น ข้างหนึ่งเป็นเชื้อสายมนุษย์ อีกข้างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสีแดงเลือดตลอดตัว ผู้เฒ่าผู้นั้นเป็นระดับจอมเทวดา บนหัวปรากฏดวงตราเครื่องหมายหกดวง ดวงตราทั้งปวงผสานเข้าด้วยกัน แผ่กลิ่นการเข้าถึงตัวตนอันตามที่เป็นจริงที่น่านับถือไม่มีผู้เปรียบเทียบเทียมออกมา ผู้เฒ่าผู้นี้ใส่เกราะเอาไว้ อาศัยกลยุทธผสานสิ่งที่มีคุณประโยชน์กับตน แล้วก็ทำลายคู่อริ แต่ละกระบวนท่าเปี่ยมด้วยพลังถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านตัน
meenovel.com/novel/emperors-domination/
สิ่งมีชีวิตสีเลือดที่มีรูปร่างราวกับคน แต่ว่าไม่รู้จักประเภทของเชื้อสาย ถึงแม้ว่าเขาจะมีรูปร่างเสมือนคน แต่มีหนามคมบนแผ่นข้างหลัง ทั้งยังมีปีกคู่ที่ผลิออกออกมาจากชายโครง โดยปีกคู่นี้ได้เปื่อยยุ่ยไปแล้ว ในตอนที่ปีกคู่โบกสะบัดกลับปรากฏไฟมารร้ายแรงพุ่งขึ้นมา
สิ่งมีชีวิตรูปร่างราวกับคนถือหอกแหลมในมือ หอกแหลมที่อยู่ในมือของเขามีความยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก สามารถแทงทะลุดวงดาว ทิ่มแทงทะลุพื้นดิน มีความแหลมคมยิ่งนัก ไม่มีสิ่งใดต้านมันได้
รอบๆที่พวกเขาต่อสู้กันอยู่มีเจดีย์ดีเลิศตั้งอยู่ เจดีย์ยอดเยี่ยมนี้มีสีแดงทั้งยังข้างหลัง ราวกับมีเลือดจะหยดลงมาจากเจดีย์นี้แบบงั้น มันได้แผ่กลิ่นที่อมตะออกมา ดังว่าไม่มีทางดับสิ้นเป็นนิรันดร ดูท่าพวกเขาทั้งคู่คนมีการต่อสู้เพื่ออยากฉกชิงเจดีย์ดีเลิศนี้
“จอมเทวดาเจี้ยนเฟย เขาเป็นจอมเทวดาที่สุดยอดมากมายในสมัยก่อน” ซึหุนหลินจำเรื่องราวจอมเทวดาผู้มีดวงยี่ห้อเครื่องหมายหกดวงผู้นี้ได้ในทันที กล่าวด้วยความรู้สึกตระหนกตกใจปนฉงนใจ
จอมเทวดาผู้นี้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตรูปร่างเช่นเดียวกันจนถึงแยกกันไม่ออก เกรงว่าภายในช่วงเวลาอันสั้นอาจจะไม่สามารถที่จะทราบผลแพ้ชนะกันได้
“ฆ่า…” เวลานี้ จอมเทวดาผู้นี้ได้ถอนเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงระฟ้าลูกหนึ่งขึ้นมา แล้วทุ่มเข้าพบสิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนคนอย่างแรง ในตอนที่สิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนคนขู่คำรามเสียงดัง หอกยาวทลายฟ้า ทิ่มแทงตรงไปยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์โน่น ได้ยินเสียงดัง “ตูม ตูม ตูม” เป็นเสียงแตกหนุ่มละเอียดดังขึ้น
ภายหลังที่สิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนคนทำลายเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว “ตึง” หอกยาวในมือได้ตรงเข้าพบจอมเทวดาผู้นั้น จอมเทวดาผู้นี้ขู่คำรามเสียงดัง มือทั้งคู่ทำท่ามุทรา เข้าสยบโดยตรง
อู่ชีที่ดูสิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถรบกับจอมเทวดาที่มีดวงยี่ห้อเครื่องหมายหกดวงโดยไม่รู้เรื่องผลแพ้ชนะได้ เอ่ยถามด้วยความสงสัย “โน่นมันเป็นสิ่งมีชีวิตอะไร?”
“เลือดทุรกันดาร” ซึหุนหลินกล่าวว่า “เชื้อสายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของไกลแห้งแล้ง ตามตำนานเล่าว่า พวกเขานอนใหลอยู่ใต้พื้นดิน หากเจ้าตามหาทรัพย์สินยอดเยี่ยม ก็จะได้โอกาสไปทำให้เขาสะดุ้งตื่น เมื่อใดที่ทำให้เขาจะต้องตกอกตกใจตื่นแล้ว เขาจะไม่ตายไม่เลิกรา ไม่ใช่เจ้าตายก็คือเขาม้วย!”
“เลือดแห้งแล้งมีเยอะมากไหม?” อู่ชีเอ่ยถามขึ้น เมื่อมีความเห็นว่าเพียงแค่เลือดแห้งแล้งเพียงแค่เพียงอย่างเดียวก็สามารถทำสงครามตีเสมอจอมเทวดาที่มีดวงยี่ห้อเครื่องหมายหกดวงได้
ซึหุนหลินกล่าวว่า “ไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน แม้กระนั้น ที่โชคดีก็คือ ฟังว่าเลือดทุรกันดารไม่สามารถที่จะไปไกลจากไกลแห้งแล้ง มิฉะนั้นล่ะก็น่าสยองอย่างยิ่ง เนื่องด้วยเคยมีเลือดทุรกันดารฆ่าจอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายไปองค์หนึ่ง”
“พวกเขาเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตของช่วงที่ยังคงอยู่เพียงเท่านั้น พวกเขาผ่านหายนะใหญ่มาได้ แม้กระนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ท่ามกลางช่วงของตนเองแค่นั้น ไม่สามารถที่จะออกมาได้ชั่วกัลปวสาน ทั้งยังได้แต่ว่าเหมือนดั่งเวลาช่วงของพวกเขา ได้แม้กระนั้นอยู่นิ่งและก็หลับ” หลี่ชิเย่กล่าวเพิกเฉยว่า “ถ้าพวกเขาปรารถนาออกไปจากที่นี่ พอๆกับยุคสมัยเป็นล้านล้านปีไหลเขยื้อนผ่านตัวของพวกเขาไปโดยทันทีทันใด ทำให้จำเป็นต้องแปลงเป็นขี้เถ้าละอองไปในทันทีทันใด!”
“ยังดี ถ้าเลือดแห้งแล้งพวกนี้สามารถออกไปได้ ยุ่งแน่ๆเลย” อู่ชีถึงกับหายใจด้วยความโปร่งอก
“ในเมื่อกล่าวถึงจอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายองค์นั้น ถ้าเช่นนั้นเราจะพาพวกเจ้าไปดูสักนิดสักหน่อย” หลี่ชิเย่หัวเราะคราวหนึ่งแล้วไม่ไปดูการต่อสู้ระหว่างจอมเทวดากับเลือดแห้งแล้งอีก
พวกของอู่ชีต่างกระปรี้กระเปร่าจิตใจกับคำบอกเล่าของหลี่ชิเย่ เรื่องเกี่ยวกับคำกล่าวเล่าลือนี้พวกเขาได้ยินมานานมากแล้ว จอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายได้ตายน่าสังเวชในไกลแห้งแล้ง ช่างเกิดเรื่องที่สั่นสะเทือนหวั่นไหวยิ่งนัก
ท้ายที่สุด หลี่ชิเย่ได้พาพวกของลูกสาวพระราชาฉีหลินไต่ขึ้นเขายอดดอยศักดิ์สิทธิ์ที่สูงมากมายๆลูกหนึ่ง เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้สูงทะลุขึ้นไปยังส่วนที่ไกลมากของจักรวาล มีทางช้างเผือกโอบล้อม
“สนามรบทำศึกของจอมพระราชาในตอนนั้นอยู่ตรงนั้น” ในช่วงเวลานี้หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่บนยอดดอยได้ชี้ไปด้านหน้า
พวกของลูกสาวพระราชาฉีหลินมองตามไปช้าๆเห็นด้านหน้าเป็นแผ่นดินที่กว้างขวางผืนหนึ่ง ในสมัยก่อนสถานที่ที่นี้ก็เต็มไปด้วยเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แต่ละลูก แม้กระนั้น ตอนนี้เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นล้วนแต่ถูกทำลายจนกระทั่งละเอียด พื้นดินทั้งปวงถูกไถจนถึงราบเรียบ เทือกเขาแต่ละลูกถูกถอนขึ้นมา ทั้งปวงถูกตีทำลายจนถึงพัง
แม้กระทั้งกาแลคซี่ทางช้างเผือกแต่ละสาย ดวงดาวแต่ละดวงบนฟ้าก็ถูกทำลายจนกระทั่งแตกละเอียดไปทั้งผอง แม้กระทั้งผืนแผ่นดินก็ถูกฉีกจนขาดกระจุยกระจาย ทั่วทั้งยังรอบๆสนามรบรบแปลงเป็นเสมือนเศษซากวันสิ้นโลก
ทั้งยังทั่วสนามรบรบกระจัดกระจายไปด้วยกลิ่นของการฆ่าผลาญที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง แม้ว่าจะผ่านไปเป็นพันล้านปี กลิ่นการฆ่าผลาญนี้ยังคงผิดทำลายไป ไม่ว่าใครก็ตามถ้าเกิดกล้าก้าวเท้าเข้าไปยังสนามรบจอมพระราชารบที่นี้ ก็จะถูกกลิ่นการฆ่าผลาญที่น่าหวาดกลัวนี้ฆ่า กลิ่นฆ่าผลาญแบบนี้ เกรงว่าแม้กระทั้งจอมเทวดาอย่างซึหุนหลินก็รับมิได้ รวมทั้งเขาไม่อาจจะเข้าไปยังสนามรบทำศึกจอมพระราชานี้ได้อย่างแท้จริง
ท่ามกลางสนามรบรบจอมพระราชา ปรากฎโซ่เหล็กที่มีขนาดใหญ่ยากจะหาใดเทียมแต่ละเส้นที่ดูเหมือนกับว่าเป็นหอกศักดิ์สิทธิ์ปักอยู่บนพื้น มองไปแล้วเสมือนมีคนพุ่งหอกกลุ่มนี้ลงมาจากท้องฟ้า ปรารถนาตรึงฆ่าสิ่งมีชีวิตอะไรสักอย่าง เมื่อสังเกตดูให้ละลเอียดก็เลยได้พบว่ามันไม่ใช่หอกศักดิ์สิทธิ์อะไร และไม่ใช่โซ่เหล็ก แต่ว่าเป็นหลักเกณฑ์จอมกษัตริย์ขนาดยักษ์แต่ละสาย หลักกฎจอมกษัตริย์แต่ละสายที่ตรึงอยู่ที่ตรงนี้ เหมือนอยากได้ตรึงฆ่าสิ่งที่ดุร้ายซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินแบบนั้น
กึ่งกลางสนามรบรบมีสมุทรเลือดที่กว้างใหญ่ไพศาล เรื่องจริงมันไม่ใช่สมุทรเลือด แม้กระนั้นเป็นบ่อน้ำเลือดที่เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวและก็จับกันเป็นก้อนของเลือดใหม่ๆจำนวนนับไม่ถ้วน ถือว่ายิ่งใหญ่อย่างยิ่ง จนถึงดูเหมือนดุจเป็นสมุทรเลือดอย่างงั้น
ติดตามต่อพอดี meenovel.com
สมุทรเลือดที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ไม่ทราบว่าเป็นเลือดจอมกษัตริย์ หรือเลือดของคู่ต่อสู่ที่ถูกตรึงฆ่ากันแน่
สามารถแลเห็นท่ามกลางสมุทรเลือดมีกระดูกขาวที่สูงใหญ่ยิ่งยืนสูงเด่นอยู่นั่น ส่วนกะโหลกศีรษะนี้ค้ำจนกระทั่งฟ้า เท้าเหยียบผืนแผ่นดิน ถึงแม้ว่าพันล้านปีผ่านไปกระทั่งเหลือไว้เพียงแค่กระดูกเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังคงแผ่กลิ่นจอมพระราชาที่สยบเหนือเก้าชั้นฟ้าสิบดินแดนออกมา
ในมือทั้งคู่ของจอมพระราชาผู้นี้จับหอกยาวที่ขาวเช่นหชูเล่มหนึ่ง หอกยาวพุ่งลงจากท้องฟ้า ทิ่มแทงทะลุลงไปพื้นดินอย่างแรงกระทั่งทะลุไปถึงส่วนที่ลึกที่สุด ราวกับอยากได้แทงพื้นดินให้ทะลุไปทั้งปวงอย่างงั้น
หอกยาวแบบนี้ไม่เพียงแค่แผ่อำนาจฆ่าของจอมกษัตริย์ออกมา เพียงแค่นั้น แม้กระนั้นมีประณิธานการฆ่าซึ่งสามารถฆ่าล้างทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้ ดังว่าสิ่งนี้เป็นหอกยาวที่น่าสยองขวัญที่สุดในหล้า สามารถฆ่าสิ้นทุกสิ่งมีชีวิตทั้งปวง!
