จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1921 พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้า
จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1921
พวกของอู่ชีค้นหาไปทั่วรอบๆ แต่ว่าก็ไม่เจอของยอดเยี่ยมใดๆก็ตามที่ตรงนี้เป็นเพียงแต่พื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้
“เฮ่อ ถ้าสามารถครองหอกยาวเล่มนั้นก็คงจะดี” อู่ชีที่เพ่งมองมองหอกยาวเล่มนั้นที่อยู่ท่ามกลางสนามรบรบจอมกษัตริย์ ซึ่งผลิตขึ้นโดยอาศัยชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ถึงกับน้ำลายไหล
“เจ้าฝันไปหรือไม่” ซึหุนหลินหัวเราะรวมทั้งสั่นหน้า บอกว่า “พลังฆ่าแบบงี้สัมผัสมิได้เลย มันเป็นพลังจู่โจมหนสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตของจอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย มันไม่เพียงแต่ตกทอดพลังของชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายเพียงแค่นั้น ไม่เพียงแต่ตกทอดพลังฆ่าเด็ดขาดท้ายที่สุดของจอมพระราชาผู้นี้ เวลาเดียวกันก็ได้ตกทอดประณิธานการสู้รบจนกว่าจะถึงที่สุดของจอมพระราชา มันเป็นจิตยึดติดที่ทรงประสิทธิภาพและก็ซนที่สุด จิตยึดติดลักษณะแบบนี้อย่าว่าแต่ว่าเราที่แตะมิได้…”
“…แม้กระทั้งจอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าอยู่ในครอบครองถึงสิบสองสายก็ไม่ได้อยากไปแตะมัน ของที่มีลักษณะแบบนี้กฎแห่งกรรมแรงมากมาย ไม่อย่างนั้นล่ะก็อาจมีคนมาเก็บศพให้กับกษัตริย์มารอู๋หลุนไปนานแล้ว แม้กระนั้นไม่มีผู้ใดสัมผัสที่สุดของการฆ่านิรันดรแบบนี้ เวลาที่จอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครองก็ไม่อยากไปสัมผัสกับกระบวนท่าฆ่าขั้นเด็ดขาดชั่วกับชั่วกัลป์แบบนี้ ด้วยเหตุดังกล่าว ไม่เคยรู้กี่ปีที่ผ่านไปยังคงไม่มีผู้ใดสามารถเก็บศพให้กับพระราชามารอู๋หลุนได้” เขาถึงกับถอนใจออกมาเบาๆเมื่อกล่าวมาถึงนี้
จอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย จะมากมายหรือน้อยก็จำเป็นต้องได้รับความเคารพนับถือจากผู้คน รวมทั้งตัวเขาก็ควรมีบุตรหลานของตัวเอง แม้กระนั้น ตลอดระยะเวลาก่อนหน้านี้กลับไม่มีผู้ใดมาเก็บศพให้กับเขา ซึ่งสิ่งนี้หาใช่เป็นเพราะเหตุว่าบุตรหลานของเขาเนรคุณ แม้กระนั้นเป็นเนื่องจากว่าแม้กระทั่งบุตรหลานของเขาต้องการเก็บศพให้กับกษัตริย์มารอู๋หลุนมากก็ตาม แม้กระนั้นก็หมดปัญญาคิด
พวกของบุตรสาวกษัตริย์ฉีหลินต่างเพ่งมองไปที่กระดูกของกษัตริย์มารอู๋หลุน บุคคลซึ่งเคยแผดเสียงตะโกนสิบสามทวีปด้วยความแค้นได้ เป็นจอมกษัตริย์ที่เคยไม่มีผู้ประมือที่สมัย ท้ายที่สุดจำต้องเสียชีวิตในต่างแดนและไม่มีคนไหนกันสามารถเก็บศพให้กับเขา ซึ่งเป็นความเศร้าแล้วก็หมดปัญญาคิดอย่างซาบซึ้ง
“ตูม ตูม ตูม” ณ ตอนนี้เอง จักรพรรดิบรรพกาลปรากฏเสียงดังตูมตามดังขึ้น ทันทีนั้นอำนาจจอมพระราชาก่อกวนฟ้าดิน พลานุภาพที่ไม่มีผู้ประมือแผ่กระจายออกมา
นาทีนี้เอง ปรากฏทางสายหนึ่งพิงผ่านฟ้าเบื้องบนในทันควัน ทางสายนี้เปล่งรัศมีทองเนื้อแท้ละลานตา เสมอเหมือนเป็นสะพานลอยที่หลอมสร้างจากยอดเยี่ยมโลหะศักดิ์สิทธิ์พิงผ่านฟ้าไปแบบนั้น
เสียง “ตูม…” ดังลั่นขึ้นมา มองเห็นคนผู้หนึ่งโผบินฟ้าเข้ามา ก้าวเดินบนทางสายนี้ครั้งละก้าวๆ
คนที่บินฟ้ามานั้นกลับเป็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง หนุ่มผู้นี้ดูมีหนุ่มแน่นมากมาย อายุอ่อนกว่าอู่ชีเสียอีก มองไปแล้วราวกับสิบห้าสิบหกเพียงแค่นั้น ถึงแม้ตัวเขาจะมองหนุ่มแน่นมากมาย แม้กระนั้นพลานุภาพกษัตริย์ยิ่งใหญ่ ใส่ชุดพระราชา บนหัวใส่หมวกพระราชา เหลียวซ้ายแลขวาปรากฏพลานุภาพกษัตริย์ฟุ้งกระจาย
หนุ่มน้อยผู้นี้พกกระบี่ยาวสามเล่มอยู่ข้างหลัง กระบี่อีกทั้งสามเล่มล้วนแต่เปล่งรัศมีกษัตริย์ร้ายแรง กระบี่แต่ละเล่มล้วนแต่ปรากฏความจริงนับไม่ถ้วนที่ลากยาวออกมา เหมือนกับกระบี่ทั้งยังสามเล่มได้แบกรับโลกทั่วโลกเอาไว้อย่างงั้น ยามที่เห็นกระบี่ยาวอีกทั้งสามเล่มแล้วรู้สึกได้ว่า ถ้าหากกระบี่ออกมาจากฝัก สามารถสะบั้นโลกทั่วโลก หนึ่งกระบี่กระเทือนไปทุกดินแดน หนึ่งกระบี่ตัดขาดหมื่นสมัย!
ในขณะที่ผู้ชายก้าวเดินเข้ามานั้น ผู้คนรู้สึกได้ว่าแต่ว่าละก้าวของเขาสามารถเหยียบโลกๆหนึ่งจนถึงแหลกละเอียด ทำให้ผู้คนหายใจลำบาก คนที่มีความชำนาญยุทธอ่อนเมื่อมองเห็นผู้ชายผู้นี้แล้วจะถูกสยบในทันทีทันใด จนกระทั่งขาสองข้างเมื่อยล้า
นี่เป็นจอมพระราชา จอมพระราชาของจริงเก่งองค์หนึ่ง ทั้งสิ่งที่หวั่นไหวต่อสภาพทางด้านจิตใจผู้คนมากยิ่งกว่าซึ่งก็คือ จอมกษัตริย์ที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้าเป็นตัวจริงไม่ใช่ตัวแปลงตัวมา!
ภาพการมาด้วยตัวเองของจอมกษัตริย์สร้างการสั่นไหวหวั่นไหวต่อสภาพจิตใจผู้คนได้มากอย่างมาก ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นภาพของจอมกษัตริย์ที่เป็นตัวจริงมาด้วยตัวเองถึงกับตกตะลึงในทันที
meenovel.com/novel/emperors-domination/
ที่ทำให้ผู้คนจะต้องกระเทือนหวั่นไหวก็คือ จอมพระราชาที่มองเห็นอยู่ข้างหน้ามิได้ปิดบังพลานุภาพพระราชาของตัวเองแม้แต่น้อย ปลดปล่อยให้พลานุภาพกษัตริย์ของตัวเองก่อกวนไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบดินแดนไปตามใจชอบ ปลดปล่อยให้พลังล้นออกมาอย่างหนัก ทำตัวเด่นดังเผยยิ่ง ให้ความรู้ความเข้าใจสึกผู้คนที่บังอาจปล่อยไปตามอารมณ์มองไม่เห็นคนอื่นในสายตา
แม้ว่าจะบอกว่า จอมกษัตริย์เซียนหวังล้วนแต่ไม่มีผู้ประมือทั้งหมด พวกเขาต่างยืนอยู่บนโลกอย่างทระนง ทว่า จอมกษัตริย์โดยมากแล้วจะไม่มีนิสัยที่บังอาจปล่อยไปตามอารมณ์มองไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาอย่างนั้น พวกเขาจะมั่นคงราวกับแนวเขา
แต่ จอมพระราชาที่มองเห็นอยู่ข้างหน้ากลับบังอาจมองไม่เห็นคนอื่นๆในสายตา รวมทั้งประพฤติตัวสูงเด่น อิริยาบถที่ฮึกเหิมหึกเหิม ทำอะไรตามใจชอบ ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด!
“โอ้แม่เจ้า นี่มันดาวรุ่งมาจากไหนกัน ถึงกับได้เป็นจอมกษัตริย์ตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้ นี่มันฝ่าฝืนลิขิตสรวงสวรรค์มากจนเกินไปแล้วมั๊ง เพราะอะไรเราก็เลยไม่เคยรู้ว่ามีคนได้เป็นกษัตริย์แล้ว” อู่ชีถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อได้มองเห็นจอมกษัตริย์ที่แก่น้อยเพียงนี้
“พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้า เขาไม่ใช่จอมพระราชาของช่วงนี้” ซึหุนหลินที่มองจอมกษัตริย์องค์นี้ที่ไปไกลแล้ว ถึงกับกล่าวถอนใจออกมา “ผ่านไปกี่ปีแล้วเนี่ย เขายังคงมีนิสัยแบบนี้ ยังคงจองหองเพียงนี้”
“กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าเป็นคนใด? ไม่เคยทราบ” อู่ชีถามด้วยความสงสัย
“ป๊าบ” หนึ่งฝ่ามือของอู่ฟ่งเย่อหยิ่งซัดเข้าให้ที่กำดันจ้องตาขมึง และก็หลี่ชิเย่ “คนใดกันแน่ใช้ให้เจ้าหนีออกท่องเที่ยวเล่นผู้เดียวในขณะที่ท่านบิดาเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาจอมกษัตริย์ของชิงโจว”
“กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าเป็นจอมพระราชาที่มีชื่อสูงที่สุดของชิงโจวนับแม้กระนั้นสมัยก่อนถึงตอนนี้มัง เขาพอเพียงที่กำลังจะได้รับการจารึกชื่อเอาไว้ภายในประวัติศาสตร์ชั่วกับชั่วกัลป์แล้วหละ” ซึหุนหลินมองดูเงาข้างหลังที่จากไปไกลของจอมพระราชาผู้นี้ บอกขึ้นด้วยท่าทางจะยิ้มก็ไม่เชิงว่า “ได้ตกทอดชะตาฟ้าตั้งแต่อายุสามสิบ ถือว่ามีความเฉลียวฉลาดน่าทึ่งพอเพียงแล้วจริงๆ”
“โอ้แม่เจ้า ตกทอดชะตาฟ้าตั้งแต่อายุสามสิบ นี่มันยอดเยี่ยมดาวรุ่งในหล้าเลยคะเนี่ย เขาเป็นจอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายรึ?” อู่ชีเอ่ยถามด้วยความผวา
“ไม่ใช่ เขาเป็นจอมพระราชาที่มีชะตาฟ้าสายเดียว” ซึหุนหลินสั่นหน้ากล่าวพร้อมด้วยเปิดเผยรอยยิ้มออกมา
“เอือก…” อู่ชีแทบสำลักน้ำลายตายเมื่อได้ยินคำกล่าวแบบนี้ ถึงกับงงมาก เมื่อฟื้นกลับมาก็เลยบอกว่า “ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านหยอกมั๊ง อายุสิบสามได้ตกทอดชะตาฟ้า โน่นเป็นดาวรุ่งไม่มีผู้ประมือในหล้าเลยจ้ะ จอมกษัตริย์เซียนหวังเมืองหลงเฉินของเรานับว่าเยี่ยมแล้วสิ แต่ว่าก็สู้บุคคลอื่นมิได้เลยคะจะเป็นได้เช่นไรที่เป็นจอมกษัตริย์หนึ่งชะตาฟ้า โลกนี้มีจอมกษัตริย์ที่มีชะตาฟ้าหนึ่งสายด้วยรึ? อาจจะไม่มีมัง”
ควรรู้ดีว่า จอมพระราชาเซียนหวังได้โอกาสตกทอดชะตาฟ้าได้ถึงสามครั้ง ด้วยพระราชาเซิ่นตี้ที่เชาวน์ออกจะห่วยยังมีชะตาฟ้าในถือครองถึงสามสาย ระหว่างที่จอมกษัตริย์ที่เป็นยอดเยี่ยมดาวรุ่งในหล้า เป็นได้เช่นไรที่มีชะตาฟ้าเพียงแค่หนึ่งสาย
“ด้วยเหตุดังกล่าว ชื่อของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าก็เลยได้ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ บอกได้ว่า เป็นจอมพระราชาที่มีชะตาฟ้าหนึ่งสายไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีตกาลถึงปัจจุบันนี้ของชิงโจว ทั้งยังยังเป็นจอมพระราชาที่มีสิบสองลัคนากับหนึ่งชะตาฟ้า ด้วยผลงานแบบนี้เกรงว่านับแต่ว่าสมัยก่อนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่มีผู้ใดเทียบเคียง อย่าว่าแต่ว่าชิงโจวของพวกเราเลย จนถึงสิบสามทวีปก็มีจอมพระราชาลักษณะแบบนี้เพียงแค่อันเดียวเพียงแค่นั้น” พอซึหุนหลินกล่าวมาถึงนี้ถึงกับหัวเราะขึ้นมา
“เอือก…” อู่ชีถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเอือก ตาเบิกกว้างบอกลิ้นพันกันว่า “สิบสองลัคนามีชะตาฟ้าเพียงแค่หนึ่งสาย นี่ นี่ นี่มันเกินจริงเกินความจำเป็นแล้ว”
ช่างเกิดเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆเกิดเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว จอมพระราชาที่มีสิบสองลัคนาจะมีชะตาฟ้าเพียงแค่หนึ่ง ถือว่าไร้เหตุผล พูดถึงมาแล้วก็ไม่มีผู้ใดเชื่อ
“เป็นความใช่หรือไม่ที่เทวดาโบราณกุยฝานสั่งฆ่าเขา?” อู่ฟ่งหยิ่งยโสถึงกับเอ่ยถามขึ้น นางเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ามาก่อน
“ถูก เนื่องจากว่าคำบัญชาของเทวดาโบราณกุยฝานก็เลยได้กำเนิดเป็นเหตุการณ์อย่างที่มองเห็นในวันนี้ เปลี่ยนเป็นเรื่องราวอัศจรรย์นิรันดรกาล จอมกษัตริย์ผู้มีสิบสองลัคนากลับมีชะตาฟ้าเพียงแค่หนึ่งสายเพียงแค่นั้น การที่เขาสามารถรักษาชีวิตรอดมาได้ถือว่าไม่ง่ายแล้ว” ซึหุนหลินยิ้มกล่าว
“นี่ นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ท่านผู้หลักผู้ใหญ่รีบเล่ามาให้ฟังเร็วๆ” อู่ชีพลันถูกทำให้สอดรู้สอดเห็น รู้สึกคันในใจตงิดๆขึ้นมา
“ฮึ ผู้ใดกันแน่ใช้ให้เจ้าหนีท่องเที่ยวระหว่างที่ฟังประวัติศาสตร์จอมกษัตริย์” อู่ฟ่งทะนงตัวมองตาไม่กระพริบอย่างเคืองๆซึ่งทำให้อู่ชีหัวเราะเจื่อนๆขึ้นมา
ซึหุนหลินมิได้วางท่าอะไร เมื่อมองเห็นอู่ชีอยากทราบ ก็เลยหาทีนั่งลงแล้วบอกว่า “พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าเป็นดาวรุ่งที่สุดยอดมากมายมีชาติตระกูลมาจากหนึ่งสำนักสามกษัตริย์ ในขณะที่ยังเยาว์วัยมากมายๆก็มีพรสวรรค์ที่ยากจะหาคนใดกันแน่เทียม กล่าวได้อย่างไม่เป็นการอ้างเลยว่า เกรงว่าเหรินเซิ่นรวมทั้งจินเก๋อในวันนี้ก็เปรียบเทียบเขาไม่ติด ทั้งยังจินเก๋อรวมทั้งเหรินเซิ่นก็จะต้องเสียใจแล้วก็อับแสงสว่างเมื่อเปรียบความสามารถพิเศษกับพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้า”
“ยอดเยียมถึงปานฉะนี้เชียว” อู่ชี ถึงกับหวาด อีกทั้งจินเก๋อแล้วก็เหรินเซิ่นต่างได้รับการชื่นชมว่าเป็นยอดเยี่ยมดาวรุ่งที่สมัย แม้กระนั้นกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ากลับมีพรสวรรค์สูงขึ้นยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก โน่นมันจำต้องใช้คำว่าจังไรก็เลยสามารถเปรียบเทียบได้แล้ว
“อายุสิบขวบก็ฝึกฝนกลยุทธ์วิชาของจอมกษัตริย์ทั้งยังสามจนกระทั่งหมดเกลี้ยง อายุสิบห้าไม่มีผู้ประมือ เจ้าว่าความสามารถพิเศษของเขาคืออะไร?” ซึหุนหลินเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“เลวทราม!” อู่ชีไม่บางทีอาจปฏิเสธในความฝ่าฝืนลิขิตสรวงสวรรค์ของเขา เพียงแค่อายุสิบขวบก็สามารถฝึกหัดกลยุทธ์วิชาของจอมกษัตริย์ทั้งยังสามได้ทั้งผอง
“กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าราบรื่นเกินความจำเป็น ราบรื่นจนกระทั่งไม่มีคำดื้อรั้น กล่าวได้ว่าก่อนที่จะเขาจะตกทอดชะตาฟ้าก็ไม่มีผู้ประมือ ไม่ว่าจะเป็นคู่ปรับแบบไหนก็สามารถเอาชนะได้อย่างสะดวกสบาย ในรุ่นเดียวกันไม่มีผู้ใดสามารถประมือกับเขาได้อยู่แล้ว เมื่ออยู่เฉพาะหน้าเขาจำเป็นต้องเศร้าใจแล้วก็อับแสงสว่าง แม้กระทั่งเป็นศัตรูที่รุ่นอาวุโสกว่าแล้วก็อดทนกว่าเขาอย่างมากมาย ขอเพียงแค่เขาอุตสาหะหมั่นฝึกซ้อมอีกแปดวันสิบวันก็สามารถไล่หลังได้ทันแล้วก็เอาชนะคู่อริได้…”
“…เนื่องด้วยมีพรสวรรค์ดีเยี่ยมที่สุดยากจะหาใดเทียมในหล้า เนื่องจากว่าชีวิตของเขามีแต่ว่าความเรียบร้อยตลอดมา ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นผู้ที่ไม่เคยมองเห็นคนไหนกันอยู่ในสายตา ห่างเหินทั่วหล้า นิสัยที่มองดูหมื่นอาณาจักรอย่างเยาะเย้ย พูดได้ว่าเขานั้นหยิ่งวางอำนาจอำนาจบาตรใหญ่ ถือดีตลอดมา” เมื่อซึหุนหลินกล่าวมาถึงที่ตรงนี้แล้วถึงกับสั่นศีรษะ
“จะโทษว่าเขาโอหังเหลือเกินก็ผิด ถ้าหากกลายเป็นผู้ใดก็ช่างก็เป็นแบบนี้” อู่ชีบอกว่า “กล่าวสำหรับดาวรุ่งที่ไม่มีคำดื้อรั้นสำหรับทุกอย่าง ไม่หยิ่งไหวรึ? เกรงว่าถ้าเกิดกลายเป็นตัวเราก็อาจจะเย่อหยิ่งแบบนี้แบบเดียวกัน”
“ถูก การที่ชีวิตผู้คนราบรื่นเยอะเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี” ซึหุนหลินก้มศีรษะรวมทั้งพูดว่า “ขณะพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าอายุได้สามสิบ กำลังจะตกทอดชะตาฟ้าอยู่แล้ว แต่ ก่อนตกทอดชะตาฟ้าหนึ่งวันมีดาวรุ่งคนหนึ่งที่จะช่วงชิงการสืบสานชะตาฟ้าเหมือนกับเขา พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าได้ฆ่าดาวรุ่งผู้นั้นเสีย อีกทั้งฉวยโอกาสเผาผลาญสำนักของดาวรุ่งผู้นั้น ขณะนี้เขาทำโอหังไม่หวั่นกลัวต่อคนไหน ท่ามกลางหลงระเริงได้ทำลายหญิงสาวผู้หนึ่งของสำนักที่นี้ที่รอดตายโดยบังเอิญ…”
เมื่อซึหุนหลินเอ่ยมาถึงที่ตรงนี้ได้หยุดนิดเดียว แล้วต่อจากนั้นได้พูดว่า “พรุ่งนี้ พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าได้ไปตกทอดชะตาฟ้า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากมายๆแม้กระนั้น ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวผู้นั้นมีสายโลหิตชนรุ่นหลานของเทวดาโบราณกุยฝาน ภายหลังที่หญิงสาวผู้นี้มีชีวิตรอดมาได้ก็เลยตามหาเทวดาโบราณกุยฝานจนกระทั่งเจอ”
“เทวดาโบราณกุยฝาน…” อู่ชีถึงกับบอกขึ้นมาว่า “เทวดาโบราณจากร้อยเผ่าพันธุ์ของเรา เทวดาโบราณผู้มีดวงยี่ห้อเครื่องหมายสิบสองดวงผู้ที่สี่ในโลก เป็นความภูมิใจของเผ่ามาร”
“ถูก” ซึหุนหลินผงกศีรษะและก็พูดว่า “ถึงแม้สายโลหิตของหญิงสาวผู้นี้ห่างเหินจากเทวดาโบราณกุยฝานมากมายทีเดียว ไม่รู้เรื่องว่าได้ตกทอดมาแล้วกี่รุ่นต่อกี่รุ่น แม้กระนั้น ภายหลังที่เทวดาโบราณกุยฝานทราบเรื่องนี้แล้วโมโหอย่างมาก สั่งให้มีการฆ่าพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าเสีย กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าเพิ่งทำตกทอดชะตาฟ้า และก็เพิ่งจะตกทอดชะตาฟ้าได้มาหนึ่งสาย เดิมทุกคนต่างมั่นอกมั่นใจในตัวเขาว่า เขาจึงควรตกทอดชะตาฟ้าได้สี่สายในคราวนี้ แต่ถูกแม่ทัพของเทวดาโบราณกุยฝานกีดกัน ทำให้คลาดโอกาสการสืบสานชะตาฟ้าในคราวนี้ไป”