จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1939 ชะตาเลือด
จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1939
ณ ตอนนี้ ทั่วฟ้าดินสงัดเงียบ ทุกคนล้วนแต่ถูกทำให้กระเทือนหวั่นไหวกับภาพข้างหน้า ไม่เคยรู้ว่ามีผู้คนปริมาณเยอะแค่ไหนที่อ้าปากกว้างค้างอยู่แบบงั้น ไม่อาจจะบอกอะไรออกมาเป็นระยะเวลานาน
จอมกษัตริย์คนหนึ่งถูกฟาดจนถึงลอยละลิ่วออกไปอย่างราบรื่น เพียงแค่กระบวนอย่างเดียวก็จัดแจงส่งตัวเขาลึกลงไปใต้พื้นดิน เป็นการจู่โจมที่ค่อนข้างจะระรานเหลือเกินแล้วมั๊ง
การที่อาศัยกระบวนอย่างเดียวฟาดกระทั่งพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้ากระเด็นออกไป ทำให้คนไม่ใช่น้อยกำเนิดเป็นสิ่งลวงตาขึ้นมา ดุจว่ากษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าไม่ใช่จอมพระราชาอีกแล้ว เขาเปรียบเสมือนแมลงวันตัวหนึ่งมากยิ่งกว่า ระหว่างที่แผ่นจารึกขนาดยักษ์ก็คือไม้ตบแมลงวันขนาดยักษ์อันหนึ่ง ภายใต้ไม้ตบแมลงวันขนาดยักษ์อันนี้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า เจ้าแมลงวันตัวนี้บอบบางแค่ไหน
ในตอนนี้ไม่รู้เรื่องว่ามีผู้คนที่ไม่สามารถที่จะปิดปากเงียบกระทั่งกว้างลง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วนี่เป็นเรื่องที่สุดจะจินตนาการได้ นี่เป็นระดับจอมพระราชานะเนี่ย แม้กระทั่งเป็นจอมพระราชาที่มีชะตาฟ้าเพียงแค่สายเดียวก็ยังคงมีความแข็งแกร่งมากมายเช่นเดียวกัน
ทว่า จอมกษัตริย์ลักษณะแบบนี้กลับเหมือนดังเป็นแมลงวันตัวหนึ่งที่ถูกตบจนถึงกระเด็น ช่างบอบบางอย่างมาก
ทุกคนล้วนแต่ถูกทำให้หวั่นไหวจนกระทั่งไม่กล้าพูดอะไรสักคำ ทุกคนต่างกลั้นหายใจเอาไว้ จนถึงเกรงว่าเสียงหายใจของตนเองจะไปลวนลามต่อหลี่ชิเย่เข้าให้
“เพียงแค่ไปคว้าเอาชะตาเลือดมาได้ก็หลงรู้เรื่องว่าตนเองมีชะตาฟ้าอีกหนึ่งแล้ว” หลี่ชิเย่มองหลุมลึกที่อยู่บนพื้นด้วยทีท่าเย็นชา กล่าวเรียบขึ้นมาว่า “ของอวมงคลนี้เป็นเพียงแต่สิ่งที่ผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในความมืดดำใช้เลือดเป็นตัวล่อ แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วนลงในช่วงของตัวเองเพียงแค่นั้น เพื่อเก็บเกี่ยวเลือดแก่นของทุกๆชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน และก็เอาอย่างชะตาฟ้าเพียงแค่นั้น”
เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงนี้ ป้ายบูชาลอยล่อง และก็บอกว่า “ก็แค่ชะตาเลือดเพียงแค่นั้น แม้ว่ากันถึงเรื่องความเหี้ยมโหดเทียบกับแผ่นป้ายบูชาฟ้าบูชาดิน บูชาทุกสิ่งมีชีวิตได้รึ? เมื่อเปรียบเทียบกับมันแล้ว ชะตาเลือดก็แค่ของเล่นเด็กเพียงเท่านั้น”
เลือดหยดนั้นที่อยู่เหนือหัวของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้ามีชื่อว่าชะตาเลือด เจ้าสิ่งนี้มีเหตุที่เกิดจากผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในความมืดมนในช่วงของไกลทุรกันดาร แอบหว่านเมล็ดพันธุ์ไว้บนตัวของคนเราบุคคลปกติ แล้วก็ผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนอย่างลับๆเมื่อได้ช่องงอมก็จะเก็บเกี่ยวเอาเลือดแก่นของทุกๆคน หลังจากนั้นเอามากลั่นให้แปลงเป็นชะตาเลือด จุดหมายปรารถนาเอาอย่างชะตาฟ้า
การที่กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าได้เลือดหยดนี้มา ก็เพื่ออาศัยมันมาทดแทนชะตาฟ้าของตนเอง
บรรดายอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเรื่องถึงกับสั่นเทาเมื่อได้ยินคำกล่าวของหลี่ชิเย่ ถึงแม้ว่าจะพวกเขามิได้รับทราบถึงความลี้ลับแปลกประหลาดที่หลบซ่อนอยู่ข้างใน แต่ว่าก็รู้ว่าได้เคยเกิดเหตุราวอะไรขึ้นมาบ้าง
ลองนึกถึง อาศัยเลือดแก่นจำนวนนับไม่ถ้วนมาหลอมกลั่นเป็นชะตาเลือดเอาอย่างให้ราวกับชะตาฟ้า ช่างเกิดเรื่องที่น่าขนลุกยิ่งนัก รวมทั้งเกิดเรื่องที่ทารุณ เกรงว่าหลายท่านในสมัยนั้นล้วนแต่ไม่รู้จักว่าตัวเองนั้นได้เปลี่ยนเป็นเมล็ดพันธุ์ของคนอื่นเสียแล้ว
“ช่าาา” เศษดินลอยละล่องว่อน นาทีนี้เองหลุมลึกขนาดยักษ์ปรากฎร่างเงาสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาอย่างเร็ว นั้นก็คือพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้านั่นเอง
กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าได้แสดงตัวขึ้นยืนอยู่บนฟ้าอีกรอบ ท่าทีดูกระเซ่อซ่ายุ่งเหยิงอยู่บ้าง หากว่าเขาจะมีรอยคราบเลือดเปื้อนไปทั่วร่าง แต่ว่ายังคงกระชุ่มกระชวยอย่างเดิม มองออกว่าการจู่โจมคราวนี้แม้ว่าจะทำให้เขาจะต้องกระเด็นกระเด้งไป แม้กระนั้นมิได้รับเจ็บอะไรจำนวนมากนัก
“เจ้าหนูน้อยเครือญาติหลี่ อย่าได้อาศัยความร้ายกาจจากของดีเลิศ!” พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าร้องตะโกนน่านับถือออกมา และก็บอกว่า “พระภูมิมีความสามารถยุทธอ่อนด้อย ถึงแม้ว่าจะของดีเลิศทรงอำนาจอย่างไรก็ไร้สาระ คิดจะฆ่าเราหน่ะ ฝันไปเหอะ!”
ป้ายบูชาที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่นั้นได้มาจากแหลมเฮ่าว่าง กล่าวได้ว่าเป็นอาวุธอาถรรพณ์ร้ายกาจมากมายอย่างหนึ่ง แม้กระนั้น เป็นเหมือนดั่งกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าว่าเอาไว้ว่า ตัวของหลี่ชิเย่เองมิได้มีพลังอดทนอย่างพอเพียงไปเคลื่อนป้ายบูชาดังที่กล่าวถึงแล้ว ถึงแม้ตัวป้ายบูชาเองจะทรงพลังอำนาจยิ่งนัก แม้กระนั้นถ้าคิดจะฆ่าพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าเกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้
เป็นความจริงที่ป้ายบูชานี้มีความฝ่าฝืนลิขิตสรวงสวรรค์โดยแท้จริง แต่ว่าถ้าเกิดอยากได้อาศัยมันเพื่อฆ่ากษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า จะต้องอาศัยพลังที่กล้าแกร่งมากมายมาเคลื่อนมัน มีเพียงแค่แบบนี้ก็เลยสามารถปะทุอำนาจที่อดทนที่สุดของมันออกมาได้
แม้ว่าจะถูกหลี่ชิเย่ฟาดจนถึงกระเด็นไปในกระบวนอย่างเดียว แม้กระนั้นเมื่อมีความคิดเห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่สามารถที่จะแสดงพลังอำนาจที่จริงจริงของป้ายบูชานี้ออกมาได้ ทำให้พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าเชื่อใจอย่างเต็มเปี่ยม จักรพรรดิบรรพกาลเพราะเหตุว่าลำพังอาศัยพลังที่ปะทุออกมาจากแผ่นป้ายบูชาเองไม่อาจจะฆ่าเขาให้ตายได้อยู่แล้ว
“เจ้าสำคัญตนเองมากมายอย่างยิ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยเมยออกมาว่า “จะฆ่าเจ้าใยจำต้องอาศัยพลังขาดความกรุณาปรานีของอาวุธร้ายแบบนี้เล่า”
“ดี ดี ดี ถือว่าเราได้พบคนที่ทะนงตัวมากยิ่งกว่าเราแล้ว” พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าขุ่นเคืองจนถึงหัวเราะออกมา ร้องตะโกนน่านับถือออกมาว่า “หนูน้อยเชื้อสายหลี่ วันนี้เรานี่แหละจะถลกหนังเลาะกระดูกของเจ้า! มองสิว่าเจ้ายังจะทำผยองได้หรือเปล่า!”
เมื่อกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ากล่าวมาถึงที่ตรงนี้แล้ว ดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำ พวยพุ่งแวววาวเลือดออกมา ตัวของเขาเปิดเผยให้มองเห็นถึงท่วงท่าที่หิวเหลือดขึ้นมา
สำหรับท่าทางของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้านั้น หลี่ชิเย่เลิกหนังตาครั้งหนึ่ง กล่าวเรียบขึ้นมาว่า “เจ้าเศษสวะโง่ ตนเองธาตุไฟเข้าแทรกแล้วยังไม่รู้ตัว เอาเถอะ วันนี้ให้เราส่งเจ้าไปเมืองนรกตามใจ จะได้ไม่ต้องมีแมลงวันดังเช่นว่าเจ้าแผดเสียงน่ารังติดอยู่ญตลอดวัน เสียชื่อเสียงจอมพระราชาเซียนหวัง”
“เจ้า…” คำกล่าวของหลี่ชิเย่ทำเอาพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าโมโหจนถึงแทบจะกระอักเลือดไหลมา ตัวเขาเองแรกเริ่มเป็นผู้ยโสอยู่แล้ว ภายใต้ผลพวงจากชะตาเลือดทำให้กลายเป็นเหี้ยมโหดอำมหิต ใบหน้าของเขาขณะนี้มองเหยเก กัดฟันกรอดรวมทั้งบอกขึ้นมาว่า “เจ้าหนูน้อยเครือญาติหลี่ วันนี้เรานี่แหละจะดื่มเลือดรับประทานเนื้อของเจ้า!”
“เอาหละ ไม่ต้องทำเสียงหึ่ง หึ่ง หึ่งอยู่นั่น แงะเอายอดเยี่ยมวิชาของเจ้าออกมา เราจะได้เด็ดหัว เลาะกระดูกของเจ้าออกมาได้ไวหน่อย ส่งเจ้าไปตกนรก” หลี่ชิเย่ขี้เกียจจะไม่ดูพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าอีกสักหนึ่งครั้ง โบกไม้โบกมือไปๆมาๆอิริยาบถเสมือนกำลังไล่แมลงวันที่กำลังแผดเสียงหึ่ง หึ่งออกไปให้พ้น
“เจ้าเดียรัจฉานน้อย รนหาที่ตาย!” พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าโกรธจนกระทั่งจุดสุดยอด พ่นเป็นไฟที่ความโมโหออกมาจากดวงตาทั้งคู่ แต่ นาทีนี้เขามิได้ฝ่าเข้าไปบุ่มบ่าม
“ตูม…” เสียงดังกึกก้อง ขณะนี้ ลัคนาของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าเปิดกว้าง แต่ละลัคนาได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า เพียงแต่ชั่วพริบตาเดียว ปรากฏสิบสองลัคนาที่เรียงรายอยู่เหนือหัว
“สิบสองลัคนานะเนี่ย” ไม่รู้จักว่ามีผู้คนปริมาณเยอะแค่ไหนที่กล่าวด้วยความรู้สึกกระทบกระเทือนใจ เมื่อมองเห็นสิบสองลัคนาที่ลอยอยู่เหนือหัวของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า
คนไม่ใช่น้อยที่ดูกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าซึ่งมีสิบสองลัคนาในถือครองแล้ว มีขึ้นความรู้สึกที่บอกผิด มีสิบสองลัคนาแล้วก็กลับมีหนึ่งชะตาฟ้า นับเกิดเรื่องที่เหลือเชื่อที่สุดในโลกจริงๆ
แม้ว่าจะบอกว่า สิบสองลัคนาหาใช่เป็นสิ่งที่มีกันได้ยาก แม้กระนั้นก็ถือว่าพบเจอได้ยาก และก็ล้ำค่ายิ่งนัก คนที่มีสิบสองลัคนาในถือครองล้วนแต่เป็นยอดเยี่ยมดาวรุ่งทั้งปวง
ทั้งยังสิบสองลัคนาเป็นฐานรากของการมีสิบสองชะตาฟ้า จอมพระราชาเซียนหวังเยอะมากๆมีแค่เพียงเก้าลัคนาเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นพวกเขากลับได้เป็นเจ้าของชะตาฟ้ามากยิ่งกว่าถึงสามสาย
พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้ามีถึงสิบสองลัคนา กลับมีหนึ่งชะตาฟ้าแค่นั้น ผู้ใดก็ตามถ้าหากได้มองเห็นความต่างแบบนี้และจำต้องรับทราบถึงความรู้สึกที่ร้ายแรง
“แว้งค์” ทันทีนั้น ทั้งยังสิบสองลัคนาเริ่มมีการพัฒนาการเกิดขึ้น สิบสองลัคนาได้หายไป ปรากฏเป็นฟ้าสีครามอยู่เหนือหัวของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า ต่อจากนั้น ได้ยินเสียงดัง “ปุ” ภายใต้ฟ้าสีครามมีขึ้นเป็นอาณาจักรที่บริบูรณ์
ณ ที่ตรงนั้น กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าก็คือผู้อยู่เบื้องหลังสิทธิ์ขาด มีพลังบริบูรณ์ขั้นเด็ดขาดอยู่ในครอบครอง
“สิบสองลัคนาเป็นสรวงสวรรค์” ระดับจอมเทวดาบางบุคคลถึงกับพึมๆพำๆขึ้นมา เมื่อดูสิบสองลัคนาของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าแปลงเป็นสรวงสวรรค์ แม้กระทั่งระดับจอมเทวดาที่ผ่านปัญหามานับไม่ถ้วนก็ไม่รู้เรื่องว่าจะประมาณคุณค่าของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าที่สุดยอดเช่นไรดี
“จี๊ด จี๊ด จี๊ด” เดี๋ยวนี้เอง เสียงแตกหนุ่มร้างดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นชะตาเลือดซึ่งลอยอยู่เหนือหัวของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าเทราดประกายเลือดลงมาครอบคลุมลงบนตัวของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้า ภายหลังที่ประกายเลือดได้เทแล้วก็กรอกเข้าไปในร่างกายของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าแล้ว ได้ส่งผลเสียโดยตรงต่อกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า ฉับพลันทำให้ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ชะตาฟ้าของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าก็ได้ถ่ายพลังชะตาฟ้าที่บริสุทธิ์รวมทั้งมีความสง่างามลงมา ประกายชะตาฟ้าที่เจิดจ้าพร่างพรายได้กรอกเข้าไปในร่างกายของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า เพื่อกระทำคุ้มครองกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า
เมื่อเป็นแบบนี้ ท่ามกลางพลังสองสายที่ยื้อกันไปๆมาๆ ร่างกายของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าเริ่มมีการเปลี่ยนขึ้นมา ครึ่งเดียวของร่างกายถึงกับปรากฏมีเกล็ดขึ้นมาอีกทั้งมีสีแดงดังสีเลือด ช่วงเวลาเดียวกัน ร่างกายครึ่งด้านนี้ถึงกับมีเขาแตกออกมาบนหัวข้างนี้ โดยที่เขาดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้แผ่กลิ่นมารออกมา ส่วนร่างกายอีกครึ่งเดียวได้รับการคุ้มครองจากพลังของชะตาฟ้าก็เลยไม่มีความเคลื่อนไหว
meenovel.com/novel/emperors-domination/
ภายหลังที่กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าได้ชะตาเลือดมาแล้ว ได้ทำหลอมรวมกับเลือดพระราชาของตัวเอง ท้ายที่สุด ทำให้ชะตาเลือดมีผลกระทบโดยตรงต่อตัวของเขา ถ้าหากว่าไม่เป็นเนื่องจากว่ามีชะตาฟ้ารอคุ้มครองป้องกันคุ้มครองปกป้องเขา ไม่แน่นักเขาบางทีอาจเปลี่ยนเป็นอสูรกายตัวหนึ่งไปนานแล้ว
“อ๊ากก…” นาทีนี้ พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าร้องขู่คำรามเสียงดังออกมา แล้วได้ยินเสียงดัง “ตูม” ร่างกายครึ่งส่วนของเขาพวยพุ่งแวววาวเลือดที่ร้ายแรงออกมา แปลงเป็นวงแหวนเลือดครึ่งวง ทันทีนั้น ภายใต้การชักจูงของสิบสองลัคนา ทำให้พลังของพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าถึงกับมากขึ้นจากเดิมไปไม่น้อย
ตอนนี้ ดวงตาข้างหนึ่งของเขาได้เปลี่ยนเป็นวงล้อเลือด ยามที่ดวงตาข้างนี้ลืมตาขึ้นมาจะมองดูสยองขวัญเป็นพิเศษ
หลายคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อเห็นกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากจอมกษัตริย์คนที่สูงศักดิ์ด้วยความเป็นกษัตริย์ที่เลิศล้ำยอดเยี่ยมไม่มีสอง เปลี่ยนเป็นคนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิง ซึ่งทำให้คนไม่ใช่น้อยรู้สึกยากที่จะยอมรับได้
ในสมัยก่อน ถึงแม้ว่าจะกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าไม่เป็นที่สบอารมณ์ รวมทั้งรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแต่ เขาก็คือจอมกษัตริย์ผู้หนึ่ง เด่นรวมทั้งอันธพาล ส่วนเรื่องของผยองคิดว่าตัวเองเก่งนั้น ก็แค่นิสัยส่วนตัวของเขาเพียงแค่นั้น
ปัจจุบันนี้ จอมพระราชาดีๆคนหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นอสูรกายที่ทำให้ผู้คนรู้สึกน่าชิงชังแบบนี้ ไม่เคยทราบว่ามีผู้คนปริมาณมากแค่ไหนที่รู้สึกเสียดาย ในฐานะจอมกษัตริย์องค์หนึ่งกลับถูกธาตุไฟเข้าแทรกแบบนี้ไปได้
“เจ้าเดียรัจฉานน้อย มารับความตายเสียเหอะ!” พระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าขู่คำรามเสียงดังด้วยความโกรธเคือง
“คนที่มีจิตที่การบำเพ็ญบากบั่นไม่มั่นคง วาระสุดท้ายก็จะเป็นแบบนี้” หลี่ชิเย่มองพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าอย่างเย็นชา แล้วก็พูดว่า “ไม่จำเป็นที่ต้องคอยให้ความมืดดำมาถึง ตนเองก็ประพฤติตัวล่มจมลงเสียแล้ว เอาเถอะ ให้เราจัดแจงกับเจ้า ให้บรรดาสวะเล็กน้อยได้ทราบว่าวาระสุดท้ายเป็นเยี่ยงไร! ให้เสียงร้องตวาดของเจ้าดังกังวานฟ้าดิน ให้พวกสวะเล็กน้อยได้ทราบถึงผลการปฏิบัติตัวเสื่อมถอย!”
กล่าวขาดปาก นิ้วอีกทั้งห้าของหลี่ชิเย่หุบเข้าพบกัน เก็บคืนแผ่นป้ายบูชาโน่น
“ปุ” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้น นาทีนี้หลี่ชิเย่ได้เปิดลัคนาขึ้น ปรากฏเทวดารวมทั้งมารสองตนก้าวเดินออกมาจากลัคนา หนึ่งนั้นได้ลอกคราบเปลี่ยนเป็นเซียนเหาะ อีกตนไฟมารเผาไหม้ร้ายแรง
เทวดามารทั้งคู่ตนเป็นสองในสิบสองเทวดามาร เทวดาเซียนเหาะ และก็มารสยบนรกอเวจี
“จี๊ด…” เทวดาเซียนเหาะ รวมทั้งมารสยบนรกอเวจีฉับพลันหลอมรวมร่างเข้าด้วยกัน แล้วต่อจากนั้นได้ยินเสียงดัง “จี๊ด” อีกรอบ ภายหลังที่เทวดามารทั้งคู่หลอมรวมเป็นร่างเดียวกันแล้ว ทันควันได้หลอมรวมกับกายเนื้อของหลี่ชิเย่ในทันทีทันใด
นาทีนี้ ทั่วอีกทั้งร่างของหลี่ชิเย่ปรากฏเสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ปรากฏวงแหวนมารแต่ละวงขึ้นมา ช่วงเวลาเดียวกันบนตัวของเขากลับเปล่งรัศมีเซียนจากการลอกรอยเปื้อน เทวดามารรวมร่าง รู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยมที่ยากจะหาใดเทียมอย่างหนึ่ง
“นี่มันเป็นอย่างไร?” ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้สึกตระหนกตกใจ เมื่อได้มองเห็นการรวมร่างเทวดามารของหลี่ชิเย่