จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1942 ตกทอดชะตาฟ้า
จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1942
ตอนนี้ฟ้าดินเงียบกริบ ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวอะไรออกมาสักคำ ไม่ว่าใครก็ตามแววตาที่มองหลี่ชิเย่แล้วแสดงออกล้วนผันแปรไป เหมือนหนึ่งเห็นผีอย่างงั้น
การที่หลี่ชิเย่ฆ่าพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าก็ตามเหอะ กลับล้างผลาญเขาด้วยแนวทางที่ทารุณขาดความกรุณาปรานี ในโลกนี้ยังจะมีสักกี่ผู้ที่กล้าฆ่าจอมกษัตริย์ด้วยแนวทางแบบนี้ แต่ว่าแล้ว มาวันนี้หลี่ชิเย่กลับทำเป็นแล้ว
ยิ่งบรรดาระดับบรรพบุรุษของเครือญาติเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง และก็กองทัพนับล้านที่อยู่บนยอดดอยด้วยแล้วถึงกับขนลุกซู่ในใจ แม้กระทั้งระดับจอมเทวดาของเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง ยังถึงกับจำเป็นต้องสั่นเทิ้ม
นาทีนี้พวกเขาต่างรู้สึกโชคดีเฉยๆในใจกับความหลักแหลมรวมทั้งมองการณ์ไกลขององค์หญิงเทียนหวง แม้ไม่เป็นเพราะเหตุว่าความฉลาดและก็มองการณ์ไกลขององค์หญิงเทียนหวง ไม่แน่นักพวกเขาคงจะปะทะกับหลี่ชิเย่นานแล้ว
ไม่ว่าผลการปะทะในคราวนี้คนไหนกันจะแพ้คนไหนจะชนะ แต่ว่าสามารถพิจารณาได้ว่า เครือญาติเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวังของพวกเขาต้องจ่ายด้วยค่าจ้างที่สูงมากมาย
“เจ้าหนูคนนี้โหดเหี้ยมมากมาย ควรจะห่างๆตัวเขาให้มากมาย” ณ เวลานี้ แม้กระทั้งระดับจอมเทวดาก็ถูกทำให้ตื่นกลัวจนกระทั่งสั่นเทิ้ม ถึงกับร่างสั่นเทิ้มรวมทั้งไกลห่างจากหลี่ชิเย่เข้าไว้
กล้าทรมาทรกรรมจนกระทั่งจอมกษัตริย์องค์หนึ่งจนตายได้ โลกนี้ยังจะมีเรื่องมีราวอะไรที่คนอำมหิตลำดับหนึ่งไม่กล้าทำอีกเล่า? ฉะนั้น ระดับจอมเทวดาที่อยู่ในเหตุก็เลยจำเป็นต้องเตือนตนเองว่า จากนี้ถัดไปควรออกห่างจากคนป่าเถื่อนลำดับต้นๆก็เลยจะถูก เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้จำต้องตกอยู่ในกำมือของคนป่าเถื่อนอันดับแรกๆ เมื่อถึงในเวลานั้น เกรงว่าคงตายเสียดีกว่าอยู่ โดยมีกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าเป็นกรณีศึกษา
“นี่เป็นสัญญาณการประกาศศึกนะเนี่ย ถึงกับทรมาทรกรรมกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าจนตายซึ่งๆหน้าผู้คนทั่วหล้า เกรงว่าบรรพบุรุษอีกทั้งสามของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าคงจะไม่ยินยอมเลิกรากล้วยๆ” ระดับจอมเทวดาผู้หนึ่งงึมงำขึ้นมา
กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ามีชาติตระกูลมาจากเครือญาติเจ้าขุนมูลนายโบราณ เครือญาติของพวกเขายังมีจอมกษัตริย์ถึงสามองค์ ทั้งกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ายังได้ร่วมเป็นพวกกองกำลังนกหวีดน้อย
กองกำลังนกหวีดน้อยจัดตั้งขึ้นโดยพระราชามารเซ่าเจี้ยน บวกกับพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้า พอๆกับมีจอมพระราชาเซียนหวังถึงห้าองค์ พวกเขาที่เป็นจอมกษัตริย์เซียนหวังอีกทั้งห้าได้คบกันในฐานะญาติพี่น้องร่วมสาบาน เคยดื่มเลือดสาบานมาก่อน
แม้ว่าจะพูดว่ากองกำลังนกหวีดน้อยห่างชั้นเทียบไม่ได้กับวิธีการเทียนฉวนที่เป็นกองกำลังที่ยอดเยี่ยมไม่มีสองโน่น แม้กระนั้นการที่มันประกอบขึ้นจากจอมกษัตริย์เซียนหวังถึงห้าองค์ ยังคงมีกำลังที่ผู้คนจะดูแคลนมิได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมพระราชาเซียนหวังอีกทั้งห้าของกองกำลังนกหวีดน้อยได้มีการดื่มเลือดสาบานมาก่อน พวกเขาจะก้าวไปร่วมกัน หรือก็คือถ้าเกิดคนใดกันแน่เป็นศัตรูกับจอมพระราชาผู้ใดผู้หนึ่ง ก็พอๆกับเป็นศัตรูกับกองกำลังนกหวีดน้อยทั้งผอง
ในขณะนี้หลี่ชิเย่ฆ่ากษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้าต่อหน้าต่อตาผู้คนทั่วหล้า เกรงว่าบรรพบุรุษที่เป็นจอมกษัตริย์อีกทั้งสามของกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า และก็กองกำลังนกหวีดน้อยคงจะไม่อาจจะฝืนใจความอับอายขายหน้านี้เอาไว้ได้
ปัจจุบันนี้ทุกคนต่างไม่กล้าแผดเสียงออกมา จนถึงมียอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ถูกทำให้ตกอกตกใจเต็มที่
“เริ่มจากการหาเรื่องกับอัศวินมังกรหลวง ปัจจุบันนี้ก็ไปแหย่กองกำลังนกหวีดน้อยที่เป็นรังแตน นี่มันเป็นการประกาศศึกกับจอมพระราชาเซียนหวังแต่ละองค์ของชิงโจว” จอมเทวดาผู้หนึ่งพึมๆพำๆออกมาว่า “เกรงว่าพายุฝนฟ้าร้องกำลังจะออกเดินทางมาแล้วหละ!”
เมื่อระลึกถึงนี้แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับจอมเทวดาก็ยังจำต้องสั่นเทิ้ม และก็เตือนตนเองว่าจำเป็นที่จะต้องไกลห่างจากพายุฝนฟ้าร้องตอนนี้ให้ได้ ถ้าไม่ทันระวังถูกดึงเข้าไปเกี่ยวพันด้วย เกรงว่าตนเองอาจไม่เหลือแม้กระทั้งซาก
อีกทั้งอัศวินมังกรหลวง และก็กองกำลังนกหวีดน้อยยังไม่นับเป็นสองกองกำลังที่แกร่งที่สุดของชิงโจว แม้กระนั้น ถ้ามีใครซักคนไปพบเรื่องกับกองกำลังลักษณะแบบนี้ เกรงว่าอาจจะเป็นการรนหาที่ตายเอง จะยังไงเสียนี่เป็นการตั้งตนเป็นศัตรูกับกองกำลังระดับจอมกษัตริย์เซียนหวังเลยจ๊ะ
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่อาศัยกำลังผู้เดียวผู้เดียวถึงกับไปพบเรื่องกับกองกำลังที่เป็นระดับจอมพระราชาเซียนหวังทั้งคู่พร้อม ถือว่าอันธพาลยิ่งนัก ควรเป็นคนชนิดไหนกันแน่ที่กล้าอาศัยกำลังเพียงผู้เดียวผู้เดียวไปพบเรื่องกับกองกำลังทั้งคู่ที่เป็นระดับจอมพระราชาเซียนหวังได้?
โดยเหตุนั้น ยอดความสามารถรวมทั้งระดับจอมเทวดาที่มีประสบการณ์ต่างก็สามารถเดาได้ลางๆว่า จำเป็นต้องปรากฏพายุฝนฟ้าร้องขึ้นที่ชิงโจวอปิ้งแน่ๆ ส่วนที่ว่าพายุฝนฟ้าร้องครั้งนี้มีความร้ายแรงแล้วก็น่ากลังแค่ไหนนั้น อาจจะไม่อาจจะทราบได้
เดี๋ยวนี้ ทุกคนต่างกลั้นหายใจเอาไว้ ขอเพียงแต่หลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนี้ จักรพรรดิบรรพกาลจะไม่มีผู้ใดกล้าหายใจหอบ หลายท่านต่างหวาดหวั่นต่อคนป่าเถื่อนอันดับต้นๆที่อยู่เบื้องหน้าเสียแล้ว เขาเป็นคนป่าเถื่อนที่จริงจริง ไม่พลาดท่าที่ได้รับสมญานามคนโหดเหี้ยมลำดับแรกๆ
หลี่ชิเย่เพียงแต่ดูจินเก๋อที่นั่งอยู่บนปะรำพิธีการสูงโน่นครั้งหนึ่งโดยมิได้กล่าวอะไรออกมา หันหลังไปจากที่ที่ตรงนี้ในทันที
เมื่อพวกของซึหุนหลินคืนสติกลับมาก็เลยรีบติดตามไปให้ทัน ณ เวลานี้แม้กระทั้งพวกของซึหุนหลินก็ไม่กล้าหายใจหอบเหมือนกัน
ภายหลังที่ดูส่งหลี่ชิเย่จากไปไกลแล้ว ไม่เฉพาะแต่บรรดายอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนที่ยืนดูในระยะห่างไกลเพียงแค่นั้น แม้กระทั้งกองทัพที่มีไพร่พลนับล้านของเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง รวมทั้งระดับจอมเทวดาแต่ละองค์ พวกเขาถึงกับรู้สึกเบาใจเสมือนชูเทือกเขาออกมาจากอกแบบงั้น ภายหลังที่หลี่ชิเย่ไปไกลแล้ว พวกเขารู้สึกราวกับได้ส่งเทวดามฤตยูให้จากไปอย่างงั้น
พวกของหลี่ชิเย่เดินทางกลับไปถึงเรือนิรันดร ตลอดทางไม่เพียงแค่พวกเยาวชนอย่างอู่ชี แม้กระทั้งซึหุนหลินเองก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้าง พวกเขาต่างเกรงว่าจะถูกหลี่ชิเย่อบรมสั่งสอนเอา
แน่ๆ หลี่ชิเย่มิได้ทำให้พวกเขาจำต้องตรากตรำ ภายหลังกลับไปถึงเรือนิรันดรแล้วหลี่ชิเย่ก็กักบริเวณเองโดยทันที
ครั้งนี้การกักตนของหลี่ชิเย่มิได้เพื่อฝึกฝนวิชา แต่ว่าเขากำลังวางเค้าโครงของค่ายมายากลขนาดใหญ่ยากจะหาใดเทียม การรบยิ่งใหญ่ที่สมัยกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เขาจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มเปี่ยม โดยเหตุนี้ เขาจำเป็นจะต้องคิดแผนดีไซน์ค่ายมายากลขนาดใหญ่ที่สุดยอดในหล้าขึ้นมา เพื่อรองรับกับการรบยิ่งใหญ่ที่สมัยที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง
หากว่าหลี่ชิเย่ได้เตรียมความพร้อมเอาไว้สุดแต่เนิ่นๆแต่เขายังคงไม่กล้าประมาท เนื่องด้วยเขาทราบกันอยู่แล้วกว่าผู้ใดกันแน่ว่าที่จะประจันหน้าเป็นผู้ยังอยู่ในฐานะอะไร ราวกับผู้ยังอยู่ในฐานะแบบนี้ แม้กระทั่งจอมกษัตริย์เซียนหวังผู้อยู่ในสถานภาพสูงสุดก็ไม่กล้าไปพบเรื่องโดยง่ายถาง
หลี่ชิเย่ไม่เคยทำศึกทำสงครามที่ปราศจากความเชื่อมั่น ด้วยเหตุนั้น การสงครามในคราวนี้เขาต้องชนะ เขาควรต้องเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมสำหรับการจับกุมผู้มีอิทธิพลของไกลทุรกันดารให้ได้ เพราะฉะนั้นเองหลี่ชิเย่ก็เลยระแวดระวังถ้วนถี่เป็นพิเศษ เขาจำเป็นจะต้องกระทำการเตรียมพร้อมครั้งแล้วครั้งเล่ากับกลยุทธที่ได้วางเอาไว้
“ตูม ตูม ตูม…” เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ตอนที่หลี่ชิเย่กำลังกักตนอยู่นั้น รอบๆยอดดอยศักดิ์สิทธิ์ที่จินเก๋ออยู่ได้ปรากฏเสียงดังตูมตามดังไม่ขาดระยะ ฟ้าเจิดจ้าไปทั่ว
ในเวลานี้ ฟ้าเหนือหัวของจินเก๋อปรากฎความจริงแต่ละสายขึ้นมา ในนั้นได้บ่มฟักพลังที่ไม่มีหมดเอาไว้ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ท้ายที่สุดนาทีนี้ชะตาฟ้าได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว
นาทีนี้ที่ตื่นเต้นมากกว่าหาใช่เป็นจินเก๋อ แม้กระนั้นเป็นกองกองทัพนับล้านของเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง เป็นระดับบรรพบุรุษแต่ละคนของเครือญาติเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง พวกเขาตื่นเต้นจนกระทั่งระดับสูงสุด
ในตอนนี้กองทัพนับล้านของเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง แล้วก็บรรดาบรรพบุรุษไม่กล้าประมาท กระทำการเที่ยวตรวจตรวจสอบฟ้าดินครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาเกรงจะมีศัตรูมาลอบจู่โจมจินเก๋อราวกับตัวอย่างเช่นคราวนั้นอีก
ตัวขององค์หญิงเทียนหวงก็ตื่นเต้นถึงจุดสุดยอด เขาเป็นห่วงผัวของตัวเองมากยิ่งกว่าผู้ใดกัน ในขณะนี้นางไม่กล้าบรรเทาแม้แต่น้อย นางสวมเกราะอาวุธครบมือทำตรวจตรวจทานฟ้าดินด้วยตัวเอง ไม่ปลดปล่อยผ่านทุกหนทุกแห่งที่น่าสงสัย พูดได้ว่านางได้ทุ่มเททำหน้าที่อย่างมาก ไม่ให้มีช่องโหว่ใดๆก็ตามเกิดขึ้น
ด้วยทีท่าแล้วก็ความมานะบากบั่นขององค์หญิงเทียนหวงที่มีอยู่บนตัวของนาง ก็เลยเป็นที่สรรเสริญจากเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง แล้วก็ได้รับการให้ความใส่ใจจากบรรดาบรรพบุรุษของเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายโบราณจัดจ้านหวัง
ปัจจุบันนี้ มีขึ้นเสียงดัง “ตูม…” ขึ้นมา จินเก๋อได้ลุกขึ้นยืนโดยฉับพลัน เขาขู่คำรามเสียงดังออกมา “เปิด…” นาทีนี้เอง ลัคนาแต่ละข้างหลังของเขาได้บินออกมาโดยทันที
“ตูม ตูม ตูม…” เวลานี้เสียงดังตูมตามดังไม่ขาดระยะ สิบสองลัคนาได้เรียงอยู่เหนือหัวของจินเก๋อทั้งปวง
“สิบสองลัคนานะเนี่ย ไม่แน่นักความสามารถพิเศษของจินเก๋ออาจมิได้ด้อยไปกว่าพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้า” ผู้มีอิทธิพลรุ่นอาวุโสถึงกับบอกถอนใจออกมาขณะมองสิบสองลัคนาของจินเก๋อ
ในสิบสามทวีปได้เคยให้กำเนิดดาวรุ่งที่มีสิบสองลัคนาอยู่ไม่น้อย แต่ ในที่สุดแล้วคนที่ได้เปลี่ยนเป็นจอมกษัตริย์เซียนหวังจริงๆกลับมีอยู่ไม่มากมาย ช่วงเวลาเดียวกัน คนที่ได้เป็นเจ้าของชะตาฟ้าสิบสองสายยิ่งมีอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนเพียงแค่นั้น
meenovel.com/novel/emperors-domination/
“แม้กล่าวถึงเรื่องปัญญา บางเวลาจินเก๋ออาจสู้กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ามิได้ กษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้ามีความฉลาดเฉลียวมากมายอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าความที่ฉลาดเฉลียวเหลือเกินก็เลยเป็นการรังควานเขา” จอมเทวดาผู้หนึ่งที่มีชีวิตอยู่มาอย่างช้านานพูดว่า “ตรงกันข้าม จินเก๋อนั้นฉลาดหลักแหลมและก็มีปัญญา ระหว่างที่เขายังอยู่ในวัยชายหนุ่มมิได้จังไรเยอะแยะเหมือนดั่งกษัตริย์สรวงสวรรค์ขวางเส้า เขาผ่านการเจียระไนบ่มนิสัยมา ผ่านปัญหา แล้วก็ผ่านการชำระล้างกายาด้วยเลือดมาครั้งแล้วครั้งเล่า ประสบการณ์แบบนี้สำคัญรวมทั้งล้ำค่ายิ่งสำหรับคนที่จะเปลี่ยนเป็นจอมพระราชา ประสบการณ์แบบนี้ทำให้จินเก๋อมีคุณลักษณะที่ควรมีของผู้เป็นจอมกษัตริย์ ขอเพียงแค่เขาได้ตกทอดชะตาฟ้าแล้ว เขาก็จะได้เป็นจอมกษัตริย์องค์หนึ่งอย่างแท้จริง”
“แทนที่จะพูดว่าเป็นคุณทรัพย์สมบัติมิสู้กล่าวว่าเป็นจิตที่การบำเพ็ญหมั่นเพียรจะถูกมากยิ่งกว่า” จอมเทวดาอีกผู้หนึ่งบอกถอนใจออกมาว่า “หากว่าพระราชาสรวงสวรรค์ขวางเส้าจะได้เป็นจอมกษัตริย์แล้ว แต่ในความจริงเขากลับไม่มีจิตที่การบำเพ็ญหมั่นเพียรของจอมพระราชา ภายหลังที่เขาตกทอดชะตาฟ้าแล้ว จิตที่การบำเพ็ญพยายามของเขายังคงรั้งอยู่ที่ลำดับชั้นของความเป็นดาวรุ่ง มิฉะนั้นล่ะก็ เขาคงจะไม่พบเจอจุดจบแบบนี้ สรุปคำกล่าวคำหนึ่งก็คือ ชีวิตเขาราบรื่นเหลือเกิน”
“ฉลาดหลักแหลมเกินความจำเป็นก็ไม่ใช่เรื่องดี จะมีผลให้เขาจำต้องพลาดตลอดชาติ” จอมเทวดาผู้นี้ก็เห็นด้วยกับคำกล่าวแบบนี้ ก้มศีรษะและก็พูดว่า “ในตอนนั้น จินเก๋อมีความเอื้อเฟื้อรวมทั้งจิตใจของความเป็นจอมพระราชา แล้วก็มีจิตที่การบำเพ็ญบากบั่นของจอมพระราชาอย่างแท้จริง ขาดแค่เพียงตกทอดชะตาฟ้าเพียงแค่นั้น ขอเพียงแต่ได้ตกทอดชะตาฟ้าแล้ว ความเป็นจอมกษัตริย์ของเขาก็ถือว่าสมชื่อแล้ว”
“ตูม” เสียงดังกึกก้อง นาทีนี้เอง สิบสองลัคนาของจินเก๋อโดยพลันแปลงเป็นสรวงสวรรค์ แล้ว “ตูม ตูม ตูม” เสียงดังตูมตามดังต่อเนื่อง
แลเห็นฟ้าสีครามที่เกิดขึ้นจากสิบสองลัคนาทันทีกลายเป็นวังวนที่เบ้อเริ่มขึ้นมา โลกที่วังวนนี้ปรากฏบทตำราที่กระโจนขึ้นมา บทคู่มือนี้กว้างใหญ่ไพศาลมากมาย เพียงแค่ชั่วครู่เดียวก็ขยายจนถึงเต็มพื้นที่ไปทั่วทั้งโลก กล่าวได้ว่าไม่มีพื้นที่ใดไม่มีตำรานี้
บทหนังสือนี้ก็คือยอดเยี่ยมความจริงสูงสุดของจินเก๋อ ความจริงที่เขาเริ่มต้นขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับตกทอดชะตาฟ้าโอกาสนี้นั่นเอง
“ปุ…” ขณะนี้วังวนที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาการของยอดเยี่ยมความจริงสูงสุดได้ปะทะอย่างแรงกระทั่งปรากฎเป็นกระแสที่พุ่งขึ้นเขาฟ้า
“ตูม ตูม ตูม” นาทีนี้เอง บนฟ้าได้ปรากฎวังวนความจริงลักษณะเดียวกันกับยอดเยี่ยมวังวนความจริงสูงสุดกับของจินเก๋อ เสมือนเป็นวังวนความจริงของจินเก๋อที่สะท้อนขึ้นไปอยู่บนฟ้าอย่างงั้น
นี่ไม่ใช่เป็นการสะท้อน แต่ว่าเป็นเนื่องจากจินเก๋อได้นำเอาความจริงของตัวเองสลักประทับเอาไว้นั่น เพื่อปรารถนาอาศัยสิ่งนี้รับเอาชะตาฟ้าเข้ามา
“ตูม ตูม ตูม” ท่ามกลางเสียงดังตูมตามดังเป็นระลอก จากการที่วังวนความจริงของจินเก๋อหมุนไปอย่างเร็วนั้น ถึงกับลากเอาวังวนความจริงที่ลอยอยู่บนฟ้านั้นลงมาด้วย
ที่ถูกลากลงมาหาใช่มีเพียงแค่วังวนความจริงที่ถูกสลักประทับเอาไว้บนฟ้าเพียงแค่นั้น ยังมีชะตาฟ้าแต่ละสายที่ใส่อยู่ในนั้นอีกด้วย
จากการที่จินเก๋อได้ลากเอาวังวนความจริงทางสาย ก่อให้เกิดการสั่นไหวโคลงเคลงแคลงไปทั่วฟ้าดิน ทุกคนรู้สึกราวกับเก้าชั้นฟ้าสิบบริเวณล้วนแต่ถูกจินเก๋อลากเอาไปแบบนั้น