จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1991 เหรินเซิ่นได้เป็นเซียนหวัง
จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1991
ตอนที่หลี่ชิเย่และก็เหล่ามอกำลังคุยถึงเหตุการณ์อยู่นั้น ขณะเดียวกันนั้นฟ้าดินรวมกลุ่มเข้าด้วยกัน พลังที่ไม่มีหมดถูกรวมเข้าด้วยกัน ชะตาฟ้าปรากฏ ความจริงของยอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนในทวีปเจียวเหิงโจวจำนวนนับไม่ถ้วนแผดเสียงร้องด้วยความเศร้าโศกเศร้าใจ
ตูม…ตูม…ตูม…ณ สถานที่ใดอันดับที่หนึ่งในทวีปเจียวเหิงโจว ได้ปรากฏประกายที่เจิดจ้ายิ่งทันทีทันใด พลังชะตาฟ้ารวมตัวกันอย่างเพ้อคลั่ง ท่าทางเสมือนปรารถนาสยบหมื่นดินแดนแบบนั้น
การรวมตัวของพลังในลักษณะแบบนี้ ได้สร้างความแตกตื่นให้กับยอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วน เวลานี้คู่สายโทรศัพท์ตาแต่ละคู่ต่างจ้องดูไปในทันที
ตูม…เสียงดังลั่นดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น ฟ้าดินแผดเสียงดังตูมตาม หมื่นความจริงแหบไม่แจ่มใส ตามติดด้วยอำนาจเซียนหวังที่ยิ่งใหญ่ไปทั่ว ท่ามกลางเสียงดังตูมเห็นร่างเงาที่สูงสูงเด่นปรากฎอยู่บนฟ้าของทวีปเจียวเหิงโจว
มึงร๊งค์ มึงร๊งค์ มึงร๊งค์เสียงคำรามกษัตริย์ดังขึ้นมาไม่ขาดระยะ หลักหลักเกณฑ์แต่ละข้อของเซียนหวังถูกปูลาดพิงผ่านพิภพดิน เหมือนกับได้ควบคุมพลังอำนาจเอาไว้ทั้งผองแบบนั้น นาทีนี้อำนาจเซียนหวังอบอวลไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบบริเวณ ทั้งพลานุภาพเซียนหวังนี้มองสดใหม่ยิ่งนัก ในช่วงเวลาที่กลิ่นเซียนหวังอบอวลอยู่นั้น เหมือนหนึ่งความมืดมัวทุกผ่าออกมาอย่างงั้น
“เซียนหวังคนใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว” ถึงแม้ว่าจะคนที่ไม่สามารถที่จะแลเห็นระยะห่างไกลได้ แม้กระนั้นเมื่อรับทราบถึงพลานุภาพเซียนหวังที่อบอวล ก็สามารถทราบได้ว่ามีเรื่องมีราวอะไรเกิดขึ้น
“เหรินเซิ่นก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเซียนหวัง ตกทอดชะตาฟ้าสี่สาย!” ในวันนี้เอง ข่าวสารที่สั่นสะเทือนฟ้าเหมือนดังลมพายุที่โหมกระหน่ำปัดกวาดไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบบริเวณอย่างงั้น ภายในช่วงเวลาอันสั้น ข่าวสารที่น่ากระเทือนฟ้าข่าวสารนี้ได้แพร่ขยายไปทั่วทุกมุมของทวีปเจียวเหิงโจว
ไม่เคยรู้ว่ามีผู้คนปริมาณเยอะแค่ไหนที่กระปรี้กระเปร่าดวงใจเมื่อข่าวสารนี้ถูกแพร่ไปมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนที่เป็นเชื้อสายมนุษย์ เมื่อได้ยินข่าวนี้แล้วชอบใจกระทั่งสุดที่จะเปรียบเทียบ
“เหรินเซิ่นเป็นความภาคภูมิของเชื้อสายมนุษย์” ไม่ทราบว่ามียอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนเผ่จำพวกมนุษย์ปริมาณมากแค่ไหนนับว่าเป็นศักดิ์ศรีอย่างหนึ่ง เมื่อได้ฟังข่าวสารการสืบสานชะตาฟ้าของเหรินเซิ่น โดยยิ่งไปกว่านั้นฝูงชนแบบใหม่ที่เคยเชื่อถือเหรินเซิ่นยิ่งรู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก
“เกรงว่าชาตินี้เชื้อสายมนุษย์อาจจะจำเป็นต้องควรพาเซียนหวังอย่างเหรินเซิ่นมาแบกรับเหตุการณ์โดยรวมแล้ว” แม้กระทั่งเป็นเลิศความสามารถเชื้อสายมนุษย์ที่เป็นรุ่นอาวุโส เมื่อได้ยินข่าวนี้และกระปรี้กระเปร่าจิตใจเป็นอย่างมาก ถึงกับฝากความมุ่งมาดไว้กับเหรินเซิ่นสูงมากมาย
“ตกทอดชะตาฟ้าสี่สายในคราวเดียวนะเนี่ย ความสามารถพิเศษที่สูงขนาดนี้ถือว่ายากที่จะหาได้ยากยิ่ง โชคร้าย” ระดับบรรพบุรุษเชื้อสายมนุษย์ภายหลังทราบดีว่าเหรินเซิ่นได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเซียนหวังแล้ว ถึงกับเอามือข้างหนึ่งจับมืออีกข้างหนึ่งเอาไว้ ถอนใจออกมาว่า “ถ้าเกิดเหรินเซิ่นผิดเผ่าสรวงสวรรค์ลอบจู่โจม ทำให้คลาดโอกาสตกทอดชะตาฟ้าในคราวแรกไป ไม่แน่นักเขาอาจมีจังหวะแปลงเป็นเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย”
“ถึงแม้ว่าเหรินเซิ่นมิได้เป็นเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย เขาก็ยังคงเป็นความภูมิใจของเชื้อสายมนุษย์เราเช่นเดียวกัน เป็นเนื่องจากว่าเข้าอยากกีดกันจินเก๋อก็เลยได้ตกลงใจเลือกแบบนี้ หากว่าเขาไม่ไปลอบจู่โจมจินเก๋อ ในเวลาถัดมาก็ไม่แน่ว่าเผ่าสรวงสวรรค์จะลอบจู่โจมต่อเขา ด้วยเหตุนี้ เป็นเหรินเซิ่นที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แล้วก็นี่ก็คือความภาคภูมิของเชื้อสายมนุษย์เรา” มียอดความสามารถที่เชื่อถือในตัวของเหรินเซิ่นยิ่งนัก
ข่าวสารประเด็นการตกทอดชะตาฟ้า ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเซียนหวังของเหรินเซิ่นกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ดังระเบิดในทวีปเจียวเหิงโจว เมื่อคนไม่ใช่น้อยได้ยินข่าวนี้แล้ว บางบุคคลรู้สึกเหนือความคาดหมาย แต่ว่าก็อยู่ในความคาดการณ์ของคนเราเยอะแยะ
สำหรับยอดความสามารถผู้บำเพ็ญตนเยอะมากๆของทวีปเจียวเหิงโจวแล้ว ที่เหนือความคาดหมายเป็นการเสียโอกาสตกทอดชะตาฟ้าในหนแรก และก็นับเกิดเรื่องที่เหนือความคาดการณ์จริงๆเป็น เหรินเซิ่นยังคงสามารถตกทอดชะตาฟ้าได้ถึงสี่สายในครั้งลำดับที่สอง
ในความคาดหวังของมนุษย์เยอะแยะก็คือการได้เป็นเซียนหวังของเหรินเซิ่น ในปัจจุบัน ถ้าเชื้อสายมนุษย์จะมีใครซักคนได้เป็นเซียนหวัง แบบนั้นแล้ว เหรินเซิ่นควรจะเป็นหนึ่งในปริมาณนั้นแน่ๆ
เหล่ามอแล้วก็หลี่ชิเย่ที่อยู่ในเมืองเล็กๆก็ถูกก่อกวนให้ตื่น พวกเขาลืมตาทั้งคู่ขึ้น สายตาของพวกเขาทั้งคู่ก้าวผ่านมิติและก็ตรงไปยังสถานที่ที่เหรินเซิ่นกลายเป็นเซียนหวัง เห็นวิธีการขึ้นสู่เซียนหวังของเหรินเซิ่นกับตาตัวเอง
ภายหลังเป็นเวลายาวนานมากแล้ว หลี่ชิเย่กับเหล่ามอก็เลยได้ละสายตากลับมา หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยเมยหน่อยนึงเพียงแค่นั้น หัวข้อการขึ้นสู่ตำแหน่งเซียนหวัง เสร็จเป็นจอมกษัตริย์ เรื่องอย่างงี้เขามองเห็นมามากมายก็เลยมิได้ถอนใจอะไรมากเท่าไรนัก
“ตอนนี้ไม่มียอดความสามารถคนใดกันของเผ่าสรวงสวรรค์แสดงตัวเลยคะเนี่ย” ภายหลังที่เหล่ามอละสายตากลับมาแล้วถึงกับบอกขึ้นช้าๆว่า “ดูท่าคงจะพูดจากันเป็นระเบียบแล้ว”
คราวนั้น เหรินเซิ่นได้ร่วมมือกับยอดความสามารถเชื้อสายมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนลอบจู่โจมจินเก๋อ กีดกันการสืบสานชะตาฟ้าของจินเก๋อ ทำการคราวนี้ของเหรินเซิ่น รวมทั้งพวกของจอมเทวดาท่าสิงประสบความสำเร็จ
ถัดมาวันหลัง เวลาที่เหรินเซิ่นจะตกทอดชะตาฟ้า และก็ก้าวขึ้นสู่เซียนหวัง ก็ถูกชำระแค้นโดยเผ่าสรวงสวรรค์ ถูกยอดความสามารถจำนวนนับไม่ถ้วนของเผ่าสรวงสวรรค์ และก็ระดับจอมเทวดาลอบจู่โจม
ถือว่าเหรินเซิ่นเองก็มีความแข็งแกร่งยิ่งโดยแท้ ภายใต้การลอบจู่โจมแบบนี้ยังคงเอาชีวิตรอดมาได้ ก็แค่เขาก็เสมือนตัวอย่างเช่นจินเก๋อ คลาดโอกาสสำหรับเพื่อการตกทอดชะตาฟ้าคราวแรกไป
แม้กระนั้น การกลับมาใหม่อีกทีของเหรินเซิ่น จักรพรรดิบรรพกาลการสืบสานชะตาฟ้าอีกทีเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเซียนหวัง กลายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตลอดขั้นตอนของการสืบสานชะตาฟ้า เหตุเพราะเผ่าสรวงสวรรค์ตลอดจนเผ่าอื่นๆล้วนแต่ไม่มีผู้ใดมาลอบจู่โจมเหรินเซิ่น
ประเด็นนี้เว้นแต่หรูหราเซียนหวังรอให้ความป้องกันเขาแล้ว เกรงว่ายังมีต้นเหตุอื่นๆ
“เกรงว่าชาตินี้อาจไม่อาจจะให้กำเนิดจอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายได้แล้วหละ” เหล่ามอกล่าวด้วยความถอนใจออกมา ตอนแรกนับจากอดีตสมัยเป็นต้นมา การปรากฏจอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนแค่นั้น ในขณะนั้นทั้งยังจินเก๋อและก็เหรินเซิ่นที่มีพรสวรรค์เยอะที่สุดต่างก็คลาดโอกาสการสืบสานชะตาฟ้าไปแล้วกาลครั้งหนึ่ง พวกเขาไม่มีบุญบารมีได้เป็นเจ้าของชะตาฟ้าสิบสองสายได้ชั่วนิจนิรันดร์ กล่าวได้ว่าโดยรากฐานแล้วชาตินี้ไม่น่าเป็นได้ที่จะให้กำเนิดจอมพระราชาเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายได้อีกแล้ว
“เรื่องราวบนโลกทุกเรื่องล้วนมีความน่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดทั้งปวง บางเวลาชาตินี้อาจมีการให้กำเนิดจอมพระราชาเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายขึ้นมาใหม่” หลี่ชิเย่ยิ้มจางแล้วก็กล่าวขึ้นมาช้าๆ
“ผู้ที่ท่านปรมาจารย์เอ๋ยถึงเป็นคนไหนกันซึ่งสามารถตกทอดชะตาฟ้าได้สิบสองสาย?” เหล่ามอถึงกับกล่าวด้วยความแปลกใจเมื่อได้ฟังคำร้องของหลี่ชิเย่แล้ว
เนื่องมาจากเขาทราบว่าบุคคลอย่างหลี่ชิเย่จะไม่พูดจาพร่อยๆในตอนนี้ทั้งยังจินเก๋อแล้วก็เหรินเซิ่นต่างเสียโอกาสที่กำลังจะได้เป็นจอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายกันแล้ว ระหว่างที่หลี่ชิเย่กลับพูดว่ายังได้โอกาสให้กำเนิดจอมกษัตริย์เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายได้อีก แล้วจะได้ให้เหล่ามอรู้สึกงงงวยได้ประการใดกันเล่า
การที่หลี่ชิเย่บอกคำๆนี้ออกมา ย่อมชี้ว่าในสิบสามทวีปมีบุคคลที่เขาเชื่อมั่นอยู่ ควรทราบดีว่าบนโลกนี้ ฝูงชนแบบใหม่คนไหนกันแน่ก็ตามถ้าเกิดสามารถได้รับการเชื่อถือจากผู้ยังอยู่ในฐานะการ้ายกาจแล้ว ย่อมมีความยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงแล้ว
“ในเวลานั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างยังเร็วเกินความจำเป็นที่จะเอ๋ยถึง คอยให้ถึงวันนั้นมาถึง ย่อมเฉลยคำตอบออกมาเอง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเพิกเฉย
เหล่ามอก็ผงกศีรษะเบาๆมิได้เอ่ยถามให้มากเรื่อง
meenovel.com/novel/emperors-domination/
“ท่านผู้ใหญ่ เชียนเสวียนขอเคารพ” ตอนนี้เอง ข้างนอกประตูปรากฏเสียงที่ใสกังวานดังขึ้น เสียงนี้เพราะเสนาะหูยิ่งนัก สดชื่นและก็เปี่ยมด้วยความปาฏิหาริย์ยากจะหาใดเทียม ได้ยินแล้วทำให้เกิดความรู้สึกพอใจอย่างมาก
เมื่อเหล่ามอได้ยินคำบอกเล่านี้แล้ว ได้แม้กระนั้นถอนใจออกมาเบาๆ
“บนโลกใบนี้ยังคงมีดวงตาแต่ละคู่ที่มองดูอยู่นะ ถึงแม้ว่าจะเจ้าซ่อนตัวตัวอยู่ท่ามกลางโลกิยะมนุษย์ บรรดาจอมพระราชาเซียนหวังยังคงพอใจในตัวเจ้าไม่เสื่อมคลาย” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเพิกเฉย
เหล่ามอหัวเราะเจื่อนๆตลอดชีวิตของเขาเผชิญกับจอมกษัตริย์เซียนหวังมากมายก่ายกองอย่างยิ่ง จอมกษัตริย์เซียนหวังที่อยู่ในระดับสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น กษัตริย์เทวดาต้องดกน พระราชาซื่อตี้ พระราชาเชอะตี้ฯลฯล้วนแต่เจอมาแล้วทั้งมวล
“เข้ามาได้” เหล่ามอเอ่ยขึ้นช้าๆ
เพียงแต่แป็บเดียว กลิ่นหอมหวนโชยกริ้วโกรธลอกหนึ่ง สตรีที่แก่อ่อนวัยผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามา ยามที่เพศหญิงคนนี้เข้ามา ทำให้ห้องโถงถึงกับสว่างขึ้นมา มีขึ้นคุณงามความดีที่ดีเลิศแล้วก็เด่นดำรงอยู่ในห้องตลอดกาล
สตรีที่อยู่ข้างหน้าสวยยอดเยี่ยมในหล้า นางที่ใส่ชุดสีขาวเสมือนดั่งก้าวเดินออกมาจากภาพวาด มองไม่เหมือนจริง ลอยละล่องดุจเซียน ทุกอาการการเคลื่อนไหวล้วนมีอรรถรสที่สุดยอดที่สุด แม้กระทั้งนางฟ้าที่แม่น้ำลั่วที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำก็ไม่เกินเลยไปกว่านี้
ดวงตาคู่นั้นของเพศหญิงคนนี้มองผ่องใสกระปรี้กระเปร่ายิ่งนัก ราวกับน้ำที่เปล่งประกายวับแวบ คู่ดวงตาที่ผ่องใสดังน้ำในสารทฤดู
ลีลาของหญิงที่เดินอรชรเข้ามา เกิดขึ้นความดีที่ดีเลิศและก็สูงศักดิ์ขึ้นมาในห้อง เหมือนดั่งล้อมด้วยกลิ่นเซียน มีอรรถรสของความเป็นเทวดาที่บอกผิด ดังว่าวิชานางฝึกฝนหาใช่เคล็ดลับวิชาบนโลก ก้าวผ่านความเป็นโลกิยะมนุษย์
สตรีคนนี้เลอโฉมหนึ่งไม่มีสอง ไม่ว่าจะหน้านิ่วคิ้วขมวดหรือยิ้มแย้มล้วนแต่ดึงกระตุ้นจิตใจผู้คน แม้กระนั้นผู้พบเจอกลับไม่กล้าที่จะไม่ให้ความเคารพนับถือ ได้แต่ว่ามองดูอยู่ระยะห่างไกล ไม่กล้าเข้าไปใกล้แสดงคำกริยาไม่เหมาะสมต่อนาง
สตรีคนนี้ก้าวเดินเข้ามาข้างในห้องโถง เมื่อเจอกับเหล่ามอแล้วมิได้รู้สึกเหนือความคาดหวัง แม้กระนั้น เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่นั่งเสมอด้วยเหล่ามอ กลับรู้สึกตะลึงงันหน่อยเดียว
แต่ว่านางเรียกสติกลับมาได้อย่างเร็ว ถวายคำนับอย่างสวย กล่าวด้วยท่าทางที่เคารพนับถือว่า “เชียนเสวียนได้รับการไหว้วานจากบรรพบุรุษให้มาทำความเคารพท่านผู้ใหญ่” กล่าวพลางสองมือนำเทียบเคียงชวนศักดิ์สิทธิ์ส่งให้
เทียบเคียงเชื้อเชิญศักดิ์สิทธิ์ใบนี้มองยิ่งใหญ่น่ายำเกรง กระจัดกระจายไปด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า เทียบเคียงเชื้อเชิญศักดิ์สิทธิ์นี้มาจากคนที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ
ถึงแม้ว่าสตรีคนนี้จะไม่เคยรู้หลี่ชิเย่ แต่ว่ายังคงถวายคำนับต่อหลี่ชิเย่เพื่อเป็นการแสดงความเคารพนับถือ ถึงแม้ว่าเพศหญิงคนนี้ไม่รู้หลี่ชิเย่ แต่ว่านางทราบถึงฐานะของเหล่ามอ คนที่สามารถนั่งเสมอด้วยเหล่ามอได้ ย่อมควรจะเป็นระดับดีเลิศที่สมัยจริงแท้แน่นอน
เมื่อเหล่ามอรับเปรียบเทียบเชื้อเชิญใบนี้มาแล้วมิได้เปิดออกมองในทันที เนื่องจากว่าโดยพลันที่เขาได้สัมผัสกับเทียบเคียงชักชวนศักดิ์สิทธิ์ใบนี้ เขาก็รับทราบได้ในทันทีว่ามาจากคนใด
“เราเสร็จธุระเหมาะจะไปจากได้แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มซีดๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป
เหล่ามอรีบยืนขึ้นเพื่อไปส่ง หลี่ชิเย่เพียงแต่กดมือของเขาเอาไว้เบาๆและก็เอ่ยขึ้นมาช้าๆว่า “ไม่ต้องไปส่งแล้ว คราวหน้าย่อมได้โอกาสได้เจอกันอีก” กล่าวจบลอยละล่องจากไป
ภายหลังที่หลี่ชิเย่ออกจากบ้านซื่อเหอย่วนของเหล่ามอแล้วมิได้ออกมาจากเมืองเล็กๆเมืองนี้ไป กลับเดินไปตามอารมณ์อยู่ท่ามกลางเมืองที่ไม่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่นี้
เพราะว่ายุคนี้เหล่ามอเลือกสถานที่ที่นี้เป็นสถานที่เผยตัว ย่อมควรจะมีเหตุผลของเขาอยู่แล้ว
แม้ว่าจะพูดว่าเหล่ามอหาใช่เป็นจอมกษัตริย์เซียนหวังที่อยู่ในระดับสูงสุด ปริมาณชะตาฟ้าที่เขาได้ตกทอดมานั้นห่างชั้นจากจอมพระราชาเซียนหวังมากมายก่ายกอง ถ้าว่า เขากลายเป็นหนึ่งในจอมพระราชาเซียนหวังที่สุดยอดที่สุด แม้กระทั้งจอมพระราชาเซียนหวังอย่างพระราชาซื่อตี้เมื่อเจอกับเขาแล้วยังจำเป็นต้องสรรเสริญเรียกเขาว่า “ท่านนักปราชญ์”
ตัวของเหล่ามอเองมิได้มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ แม้กระนั้นเขาเป็นความแปลกประหลาดของสิบสามทวีป ความจริงของเขามีความสมดุลกับฟ้าดิน เพราะฉะนั้น ทำให้เขาสามารถท่องไปในโลกมนุษย์โดยที่ผิดสรวงสวรรค์ลงโทษ จนกระทั่งเขาเองก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างนาน
เนื่องเพราะมูลเหตุนี้เอง บรรดาจอมกษัตริย์เซียนหวังที่อยู่ระดับสูงสุดล้วนแต่เคยมาทำความเคารพต่อเหล่ามอแล้วทั้งปวง ตัวอย่างเช่น พระราชาเทวดาควรดกน กษัตริย์ซื่อตี้ กษัตริย์เชอะตี้ล้วนแต่เคยมาเลิศทำความเคารพเขามาก่อน ต่างก็เคยขอคำชี้แนะจากเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ
จะเช่นไรเสีย มีจอมพระราชาเซียนหวังองค์ใดที่ไม่คาดหมายว่าสรวงสวรรค์ลงโทษจะไม่เกิดขึ้นกับตัวของพวกเขากันเล่า แต่ บนทางสายนี้มีเพียงแค่เหล่ามอเพียงแค่นั้นซึ่งสามารถทำให้ได้สมดุลแบบนี้ ทำให้ตัวเขากับฟ้าดินอยู่ในภาวะที่ต่างข้างต่างมิได้เทียบเสียเปรียบซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาที่คนอื่นไม่อาจจะทำเป็นในภาวะแบบนี้ แม้กระทั่งจอมกษัตริย์เซียนหวังที่กล้าแกร่งมากยิ่งกว่านี้ก็ทำไม่ได้
เหล่ามอไม่จำเป็นที่ต้องประพฤติเสมือนดังเช่นจอมพระราชาเซียนหวังอื่นๆที่จำต้องแอบตัวอยู่ในดินแดนที่การค้น หลบออกมาจากโลกของโลกิยะมนุษย์ ทั้งยังแปลงที่อยู่อาศัยอาศัยในแต่ละสมัย และก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงงานหัตถกรรมไปอีกอย่าง
ราวกับที่ช่วงนี้ที่บดและก็ทำเป็นเต้าฮวย ด้วยงานหัตถกรรมที่ปกติมากยิ่งกลับถูกเหล่ามอทำไปได้จนกระทั่งขีดสูงสุด กล่าวสำหรับเหล่ามอแล้ว แม้กระทั่งเป็นการทำเต้าฮวยที่ปกติที่สุดซึ่งก็คือทางสายหนึ่ง ควรต้องไม่ฝ่อนคลายความอุตสาหะ ก้าวเดินต่อไปให้ตลอด