จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1994 อัจฉริยะบุคคลปรากฎ
จักรพรรดิบรรพกาล Emperor’s Domination – บทที่ 1994
ปีการศึกษาใหม่ได้เริ่มแล้ว นิสิตจำนวนมากทยอยกันกลับมายังสถาบันเรียนเทพเทวดา ทำให้โรงเรียนที่เหงาหงอยมาได้พักใหญ่กลับมาครึกครื้นอีกทีหนึ่ง
ช่วงเวลาเดียวกัน จากการมาถึงของบรรดาผู้สืบทอดของสายสำนักกษัตริย์เซียนเล็กน้อย ก็ได้สร้างความฮือฮาขึ้นได้ไม่น้อย จะยังไงเสีย ผู้สืบทอดของสายสำนักกษัตริย์เซียน หรือดินแดนเจ้าลัทธิต่างๆเป็นจำนวนมากภายหลังจากกลับมาแล้ว พวกเขาต่างฟุ่มเฟือยมอบข้าวของดีๆจำนวนหลายชิ้นให้กับเพื่อนร่วมห้องเรียน
สิ่งนี้ก็คือหนึ่งในจุดมุ่งหมายของผู้สืบทอดของสายสำนักกษัตริย์เซียน หรือประเทศเจ้าลัทธิต่างๆที่อยากได้มาศึกษาที่สถาบันศึกษาเล่าเรียนทวยเทพเทวดาที่นี้ คบค้าสมาคมเพื่อนทั่วหล้า เพื่อวางรากฐานให้กับทางก้าวเดินของตัวเองในอนาคต
เสียงแว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในช่วงเวลาที่นิสิตมากมายกำลังพากันกลับมา ขณะเดียวกันนั้น บนฟ้าของสถาบันศึกษาเล่าเรียนเทวดาโดยพลันปรากฎทางสายหนึ่งพิงผ่านมา หนุ่มน้อยผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามา
ในช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มผู้นี้ก้าวเท้าเข้ามา เปี่ยมล้นไปด้วยกลิ่นดึกดำบรรพ์ ทุกก้าวย่างเป็นไปตามประสงค์ ถึงแม้ว่าเขาจะทำไปตามอารมณ์ยิ่งนัก แต่ว่าให้ความรู้ความเข้าใจสึกถึงความใหญ่โตแก่ผู้คน ประหนึ่งว่าเขาเป็นเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่งที่กันขวางระหว่างฟ้าดิน ทำให้ไม่อาจจะก้าวผ่านไปได้
“กู่กัวกลับมาแล้ว…” ไม่รู้เรื่องว่าเสียงของคนไหนที่ร้องออกมา น้ำเสียงรู้สึกเสมือนถูกทำให้หวั่นไหว เมื่อมองเห็นหนุ่มน้อยผู้นี้แล้ว
“การกลับมาของพระราชาขวา ถือว่าจองหองทระนงตนมากมาย มองไม่เห็นคนไหนกันแน่อยู่ในสายตา รู้มาว่าเขาได้ไปเผชิญภัยยังดินแดนอาถรรพณ์มาแล้ว” นิสิตที่มีความชำนาญเข้มแข็งต่างก็ได้แม้กระนั้นยอมศิโรราบเมื่อได้มองเห็นผู้ชายผู้นี้แล้ว
“เกรงว่าเขาคงจะใกล้จะจบการศึกษาแล้วหละ เคยมีคุณครูเล่าว่า เขาอาศัยเรียนเพียงปีเดียวก็สามารถจบการศึกษาแล้ว ความสามารถพิเศษที่สุดยอดในหล้า ไม่อาจจะหาคนไหนกันแน่เสมอได้ในหล้าแล้วมัง” มีนักเล่าเรียนหญิงที่ดวงตาทั้งคู่เห็นดอกเหมยผุดขึ้นมา ถึงกับต้องใจยิ่งนัก
อาจจะกล่าวว่ากษัตริย์ขวากู่กัวเป็นคนที่มีผลกระทบของสถาบันเรียนรู้ทวยเทพ ความสะดุดตาของเขาไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงเทียมได้ ทั้งยังยังแซงล้ำหน้าเหรินเซิ่นที่เป็นรุ่นพี่รุ่นก่อนหน้าของเขา!
น้อยคนนักที่จะทราบถึงประวัติความเป็นมาของกษัตริย์ขวากู่กัว มีคนกล่าวว่าเขามาจากเขาไผ่แปลกที่ยอดเยี่ยมสำนักหกพระราชา รวมทั้งมีคนพูดว่าเขามีประวัติภูมิหลังแปรไป
สรุปก็คือ ในเทอมที่แล้วช่วงเวลาที่กู่กัวพึ่งเข้าห้องเรียนในสถาบันเล่าเรียนเทพเทวดา เขาก็ได้เข้าห้องเรียนในชั้นมหาบุรุษ อีกทั้งเป็นนิสิตเพียงผู้เดียวณ ตอนนี้เข้าห้องเรียนในชั้นมหาบุรุษของสถาบันศึกษาเล่าเรียนเทพเทวดา
สถาบันเรียนรู้ทวยเทพเทวดามีระดับชั้นเรียนห้าระดับหมายถึงมหาบุรุษ จวนกษัตริย์ หอพักศักดิ์สิทธิ์ ศตาค้างร รวมทั้งเรือนหนังสือเรียน
ช่วงเวลาที่ชั้นมหาบุรุษเป็นชั้นเรียนสูงสุดของสถาบันเล่าเรียนทวยเทพ แต่ละช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมายากจะมีคนใดกันแน่สามารถเข้าห้องเรียนได้ ในหนึ่งสมัยชั้นมหาบุรุษถ้าหากจะมีนักเรียนรู้สักคนก็ถือว่าเหมาะสมที่สุดมากมายแล้ว
ยกตัวอย่างเหรินเซิ่นในรุ่นก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นคนที่เยี่ยมยอดคนหนึ่งแล้วสิ มีพรสวรรค์ที่สุดยอด มีสายโลหิตที่ยอดเยี่ยมไม่มีผู้เปรียบเทียบเทียม แม้กระนั้น เขายังคงไม่อาจจะเข้าห้องเรียนในชั้นมหาบุรุษได้
ลือกันว่า ชั้นเรียนมหาบุรุษจะบ่มฟักเฉพาะเซียนหวังระดับสูงสุดและก็เทวดาโบราณแค่นั้น โดยเหตุนั้นชั้นเรียนมหาบุรุษก็เลยมีมาตรฐานที่ไร้มนุษยธรรมเป็นอย่างมาก คนที่สามารถเข้าชั้นเรียนในชั้นมหาบุรุษได้ การบรรลุผลในชีวิตของเขารับประกันว่าควรต้องกระเทือนหวั่นไหวในหล้าอย่างไม่ต้องสงสัย
ตัวอย่างเช่นลิ่วเต้าเหรินหวังก็เคยเล่าเรียนอยู่ที่ชั้นเรียนมหาบุรุษมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เข้าก็เลยได้สร้างผลงานที่สูงสุดเอาไว้!
หากว่าสถาบันเล่าเรียนทวยเทพไม่เคยให้การสารภาพว่าชั้นเรียนมหาบุรุษเป็นชั้นเรียนที่มีไว้เพื่อบ่มเพาะเซียนหวังระดับสูงสุดรวมทั้งเทวดาโบราณเพียงแค่นั้น แต่ว่าในใจของทุกคนต่างเห็นด้วยโดยปริยาย ถ้าเกิดสามารถเข้าชั้นเรียนในชั้นเรียนมหาบุรุษ ถึงแม้ว่าจะมิได้เป็นเทวดาโบราณ มิได้เป็นเซียนหวังที่อยู่ในระดับสูงสุด การบรรลุผลทั้งชีวิตของบุคคลผู้นั้นก็เป็นที่หวั่นไหวยิ่งนัก นิสิตที่เสร็จออกมาจากชั้นเรียนมหาบุรุษอาจจะบอกได้ว่า เซียนหวังรวมทั้งจอมเทวดาเป็นเพียงแค่ก้าวแรกเพียงเท่านั้น
เมื่อกู่กัวสมัครเข้าเรียนในสถาบันศึกษาเล่าเรียนทวยเทพเทวดา ก็ถูกจัดให้เข้าห้องเรียนในชั้นเรียนมหาบุรุษโดยทันที สร้างเป็นฮือฮาขึ้นมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ฮือฮามากมายไปกว่านั้นก็เป็น แม้กระทั้งผู้อำนวยการคนก่อนที่จะเก็บเนื้อเก็บตัวไปนานแล้วยังเข้ามาที่ชั้นเรียนมหาบุรุษเป็นคุณครูของกู่กัว เพื่อถ่ายทอดการบำเพ็ญมานะและก็วิชาความรู้ด้วยตัวเอง
กล่าวได้ว่ากู่กัวได้รับการกระทำดูแลที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก แน่ๆก็มีคนที่รู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อย เหมาะสมทราบดีว่า เหรินเซิ่นในรุ่นก่อนหน้าก็มิได้รับการกระทำดูแลแบบนี้ เหรินเซิ่นในคราวนั้นได้เข้าชั้นเรียนในชั้นจวนกษัตริย์เพียงเท่านั้น
ฉะนั้น เมื่อกู่กัวได้เข้าห้องเรียนในชั้นเรียนมหาบุรุษ จักรพรรดิบรรพกาลหลายคนก็เลยคาดคเนว่ากู่กัวต้องได้เป็นเซียนหวังที่อยู่ในระดับสูงสุด การบรรลุผลของเขาจนถึงสูงขึ้นยิ่งกว่าเหรินเซิ่นด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว เมื่อกู่กัวเรียกตัวเองว่า “กษัตริย์ขวา” นั้น หลายๆคนต่างเห็นด้วยสมญานามแบบนี้ของเขาโดยความชื่นชม
เรื่องจริงแล้ว หลายๆคนต่างคิดว่านี่เป็นกรรมวิธีที่อันธพาลยิ่ง มีเพียงแค่ไม่กี่คนเพียงแค่นั้นที่ยังไม่ทันได้เสร็จเป็นจอมกษัตริย์หรือเซียนหวังก็กระทำให้ฉายากษัตริย์ให้กับตัวเองก่อน ในเวลาที่กู่กัวเรียกตัวเองว่าพระราชาขวา ช่างเป็นความเชื่อมั่นอะไรขนาดนั้น!
แน่ๆ นิสิตบางบุคคลที่เลื่อมใสในตัวของเหรินเซิ่นมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ในใจของพวกเขาย่อมอิจฉารวมทั้งต้านทานกู่กัวอยู่แล้ว ในใจของพวกเขามีเพียงแค่เหรินเซิ่นแค่นั้นที่เป็นผู้เยี่ยมที่สุด โดยเหตุนี้ พวกเขาย่อมอดที่จะเย้ยหยันในใจ พวกเขารอคอยที่จะเยาะเย้ยกู่กัวอยู่
หากว่าวันใดวันหนึ่งกู่กัวไม่อาจจะเปลี่ยนเป็นเซียนหวังได้ แล้วก็หรือเป็นเซียนหวังสุดแท้แต่ผลงานการบรรลุผลเทียบไม่ได้กับเหรินเซิ่นหละก็ นั่นแหละจะเปลี่ยนเป็นเรื่องที่น่าขบขันเยอะที่สุด!
แน่ๆ ในสถาบันเรียนรู้ทวยเทพเทวดากู่กัวยังคงเป็นที่นิยมและก็กิตติศัพท์ที่สูงมากมาย จะเช่นไรเสียสมรรถนะของเขามองเห็นๆกันอยู่ ทั่วทั้งยังโรงเรียนอาจจะไม่มีนิสิตคนไหนกันสามารถประมือกับเขาได้ เขามีความแข็งแกร่งมากมายอย่างมาก ในโรงเรียนที่นี้คนที่สามารถมีสิทธิ์เรียนรวมทั้งวัดความสามารถกับเขาได้ก็อาจจะมีเพียงแค่ผู้เป็นคุณครูของโรงเรียนเพียงแค่นั้น ส่วนนิสิตผู้อื่นไม่มีคุณลักษณะพอเพียงอยู่แล้ว!
ภายหลังที่กู่กัวมาถึงรวมทั้งมิได้หยุดอยู่ที่ปากทางเข้าสำนัก ก้าวเท้าเข้าไปด้านในสถาบันเล่าเรียนเทพเทวดาในทันที รวมทั้งหายไปท่ามกลางยอดเขาในชั่วพริบตา
“รุ่นพี่กู่กัวจำเป็นต้องได้เป็นเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายอย่างแน่แท้” มีนักเรียนรู้สาวสวยน่าประทับใจมองร่างเงาของกู่กัวที่หายไป กล่าวด้วยความรู้สึกเหมือนหนึ่งหลงแล้วก็ปัญญาอ่อน
“ก็ไม่แน่เสมอนะ กู่กัวกำเนิดผิดเวลานะเนี่ย ในขณะนี้ช่วงเราได้ให้กำเนิดจอมกษัตริย์เซียนหวังถึงสามองค์แล้ว เขาคิดจะแปลงเป็นเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย ดูเหมือนมีแรงกดดันมากมายอย่างยิ่ง” มีนักศึกษาเล่าเรียนชายอดที่จะกล่าวด้วยความอิจฉาริษยาออกมามิได้
การมาถึงของกู่กัวสร้างความฮือฮาขึ้นมาได้ไม่น้อย มีผู้วิพากวิภาควิจารณ์ด้วยเสียงแผ่วเบากันไม่น้อย
ภายหลังที่กู่กัวมาถึงได้ไม่นาน ประตูอีกด้านหนึ่งก็มีนักศึกษาเล่าเรียนเข้ามาอีกคน รวมทั้งสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
หญิงที่สวยหยาดเยิ้มที่สุดในหล้าคนหนึ่งก้าวเดินมาช้าๆสตรีคนนี้สวยอย่างมาก ไม่ว่าก้าวเดินไปถึงไหนก็สามารถดึงดูดสายตาของคนเรา ที่ยั่วยวนใจผู้คนเยอะที่สุดไม่ใช่รูปโฉมโนมพรรณของเพศหญิงคนนี้ แม้กระนั้นเป็นคุณทรัพย์สินส่วนตัวของหญิงคนนี้ เห็นจหญิงคนนี้ที่ก้าวเดินมาครั้งละก้าวๆเสมือนดั่งเป็นนางสวรรค์ที่สวยเลิศเลอ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับจิตใจเคลิ้มคลั่งไคล้
หญิงคนนี้เช่นหลุดพ้นจากทางโลกมนุษย์ เสมือนเป็นนางฟ้า ท่าทางมีจังหวะที่บอกผิด ดังว่าเป็นนางฟ้าที่ลงมาจากสรวงสวรรค์แล้วก็หลงเข้ามาอยู่ในทางโลกมนุษย์เพียงแค่นั้น
ซู่เหยาที่เป็นรุ่นน้องมาแล้ว…นิสิตที่คอยให้การต้อนรับอยู่รอบๆหน้าประตูร้องด้วยความดีความชอบในออกมาเมื่อเห็นการมาถึงของหญิงคนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสิตชั้นจวนพระราชายิ่งดูเหมือนดีอกดีใจเป็นพิเศษ นิสิตชายรีบวิ่งเข้าไปให้การต้อนรับ
“การกลับมาของรุ่นน้องหญิง ได้เติมแต่งสีสันไม่มีขอบเขตจำกัดให้กับจวนกษัตริย์ของเรา เพื่อนพ้องนิสิตต่างรอการกลับมาของเจ้านะเนี่ย” นิสิตชายที่เข้าไปกล่าวต้อนรับหญิงคนนี้ไม่บางทีอาจซ่อนเร้นอำพรางความยินดีเอาไว้ได้
ไม่ใช่แค่เพียงแค่นิสิตชายของจวนกษัตริย์ที่ลืมตัวเสียมารยาทเพียงแค่นั้น ข้อเท็จจริงแล้วนิสิตชายผู้อื่นของจวนพระราชาก็ผูกใจรักต่อนางเหมือนกัน จ้องสตรีที่ยอดเยี่ยมในหล้าข้างหน้าดังหลงและก็ปัญญาอ่อน!
meenovel.com/novel/emperors-domination/
เหมยซู่เหยานับเป็นบุคคลผู้มีอำนาจคนหนึ่งของรุ่นนี้เช่นเดียวกัน สิ่งที่ทำให้กิตติศัพท์ของนางเลื่องลือยิ่งหาใช่แค่เพียงรูปโฉมโนมพรรณของนางเพียงแค่นั้น นางหาใช่หญิงงามจำพวกซึ่งมีแต่ความงดงามแม้กระนั้นไม่มีสมอง
ความสามารถพิเศษของเหมยซู่เหยานั้นน่าตกใจยิ่งนัก โดยพลันนางสมัครเขาเรียนที่สถาบันศึกษาเล่าเรียนเทวดาก็ถูกรับแล้วก็จัดให้เข้าไปอยู่ในชั้นเรียนจวนกษัตริย์โดยทันที เหมาะสมรู้ดีว่า มีผู้สืบทอดของสายสำนักกษัตริย์เซียนหลายชิ้นที่ได้เข้าไปเป็นนิสิตในชั้นจวนพระราชา ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบแต่ละขั้น มีเพียงแต่คนที่ผ่านการตรวจสอบเพียงแค่นั้นที่ได้เป็นนิสิตของชั้นจวนกษัตริย์ได้
ในตอนที่เหมยซู่เหยาเสมือนถูกชั้นจวนกษัตริย์แก่งแย่งตัว ย่อมสามารถประเมินได้ว่านางมีความสามารถพิเศษที่สูงส่งแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งมีผู้กล่าวว่า ความสามารถพิเศษของเหมยซู่เหยาสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเหรินเซิ่นเสียอีก
เหมยซู่เหยานั้นสงบนิ่งมากมาย และก็สงบเรียบง่าย ราวกับน้ำนิ่งในบ่อ ก้มศีรษะเบาๆแล้วก้าวเดินเข้าไปในสถาบันเรียนทวยเทพเทวดา
บรรดานิสิตของสถาบันเรียนเทพเทวดาก็คุ้นชินกับท่าทางแบบนี้ของเหมยซู่เหยาเสียแล้ว ตั้งแต่แมื่อเหมยซู่เหยาเข้ามาเล่าเรียนอยู่ในสถาบันศึกษาเล่าเรียนเทวดาแล้ว คนที่เฝ้าตามตื้อคุณนั้นมีจำนวนนับไม่ถ้วน ในปริมาณนั้นมีผู้สืบทอดของสายสำนักพระราชาเซียนที่มีชื่อรวมทั้งอำนาจยิ่งใหญ่อยู่ไม่น้อย รวมทั้งมียอดเยี่ยมอัจฉริยะบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นจวนพระราชาย่อมเป็นสถานที่ที่ไม่ขาดอัจฉริยะบุคคลอยู่แล้ว
แต่ ไม่มีผู้ใดสามารถได้รับความชอบจากเหมยซู่เหยาได้เลย นางประพฤติตัวเป็นคนที่เข้าพบแล้วก็คุ้นเคยได้ง่ายต่อทุกคน นางมิได้มีทีท่าที่โอหังอวดเก่ง แต่ ลักษณะที่คุ้นเคยแบบนี้กลับให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ห่างเหินแก่ผู้คน ดูราวกับว่าไม่ไม่คนไหนสามารถเข้าไปยังโลกของนางได้อย่างแท้จริง นางนั้นนิ่งเหมือนดั่งน้ำในบ่อ
“ไม่เคยรู้ว่าใครกันแน่ซึ่งสามารถปราบหัวใจของรุ่นพี่เหมยได้นะ” มีรุ่นน้องหญิงที่ดูร่างเงาที่สุดยอดหยาดเยิ้มโน่นแล้วใจลอย
นิสิตชายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นจวนกษัตริย์ หรือชั้นเรียนอื่นๆก็ตาม ต่างเพ่งมองมองเงาข้างหลังของเหมยซู่เหยาที่สุดยอดแล้วก็หยาดเยิ้มกระทั่งใจลอย ไม่รู้จักว่ามีอัจฉริยะบุคคลที่ดีงามยิ่งนักเคยตามตื้อเหมยซู่เหยามาก่อน กลับไม่มีผู้ใดได้รับความโปรดจากนางเลยสักคน
กอก กอก กอก…ปัจจุบันนี้ ที่ประตูอีกด้านหนึ่งมีรถม้ามาจอดเทียบท่าอยู่คันหนึ่ง รถม้าคันนี้มีลักษณะที่เรียบง่ายยิ่งนัก ทั้งยังยังลากด้วยม้าที่ปกติและก็แก่มากมายแล้ว มองดูไม่ออกว่ามีจุดไหนที่พิเศษอะไร
ในช่วงเวลานี้เพศหญิงคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถม้าคันนี้ ยามที่สตรีคนนี้ก้าวลงมา ทันทีทำให้ผู้คนถึงกับตาโตวาว
เพศหญิงที่อยู่เบื้องหน้ามิได้มีความงามดีที่สุดเป็นพิเศษ ถ้าเปรียบเทียบรูปโฉมโนมพรรณล่ะก็สู้เหมยซู่เหยามิได้ แม้กระนั้นนางกลับให้ความรู้ความเข้าใจสึกถึงสูงศักดิ์สุภาพอ่อนโยนสุขุม จิตใจที่สูงส่งสวยสดงดงามไม่ธรรมดาแล้วก็เป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายเป็นพิเศษ อดที่จะจำเป็นต้องจ้องนางอีกเป็นครั้งลำดับที่สอง
รุ่นน้องเมี่ยวฉานมาแล้ว…บรรดานิสิตของศตาค้างรที่คอยต้อนรับอยู่หน้าประตูทันทีเปิดเผยรอยยิ้มออกมาด้วยความสดใส นิสิตทั้งยังชายและก็หญิงจำนวนหลายชิ้นต่างร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ รีบวิ่งเข้าไปต้อนรับ
“ปิดภาคการศึกษาครั้งนี้น้องเมี่ยวฉานไปที่ซอกเขาลี้ลับได้อะไรมาบ้าง” จนถึงผู้เป็นนิสิตรุ่นพี่ของชั้นจวนพระราชายังแสดงความหวังดียิ่งต่อนาง
“ขอบพระคุณรุ่นพี่ ก็ได้อะไรมาเป็นจำนวนมาก” เมี่ยวฉานก้มศีรษะเบาๆสุภาพมีมารยาทสุขุม จิตใจที่สูงส่งงามไม่ธรรมดาซึมซาบเข้าไปในใจของคนเรา
“เราได้บอกกับเพื่อนพ้องๆแล้วว่า ด้วยปัญญาของรุ่นน้องจำต้องเก็บเกี่ยวได้มาไม่น้อยอยู่แล้ว รวมทั้งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ” รุ่นพี่ชั้นจวนพระราชาผู้นี้กล่าวพร้อมทั้งหัวเราะเสียงกึกก้องขึ้นมา
รุ่นพี่รวมทั้งรุ่นน้องที่รุมล้อมเมี่ยวฉานมีจำนวนมากอย่างยิ่งจริงๆ แม้กระทั้งรุ่นพี่เพศหญิงแล้วก็รุ่นน้องหญิงต่างเข้าไปรุมล้อมอยู่ข้างกายเมี่ยวฉานเยอะไปหมด
เมี่ยวฉานเป็นนิสิตหญิงที่พึ่งจะเข้าชั้นเรียนในสถาบันเรียนทวยเทพเทวดาเมื่อเทอมที่แล้วนั่นเอง ฟังว่าประวัติความเป็นมาของนางนั้นปกติมากมาย ทั้งยังนางได้จ่ายค่าเรียนเพื่อเข้าเรียนรู้ในชั้นศตาค้างรเอง
เวลาที่นางเข้าเล่าเรียนในชั้นศตาค้างรนั้น เว้นแต่นางมิได้แสดงออกถึงความสามารถพิเศษที่น่าตกใจ นางยังมิได้คบค้าสมาคมสหายไปทั่ว แต่ว่าการกระทำตัวของนางนั้นสุถลาพสุขุมด้วยเชาวน์ที่คมมองการณ์ไกล เชี่ยวชาญหัวข้อการคิดแผนวางแผน ซึ่งทำให้นางเป็นที่นิยมมากมายในโรงเรียน
จนถึงได้รับการเชิดชูจากเพื่อนพ้องนิสิตจำนวนไม่ใช่น้อยให้เป็นดาวของชั้นศตาค้างร ทำให้นางได้รับการต้อนรับในสถาบันเรียนเทวดาเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็ตาม เมี่ยวฉานยังคงมิได้แสดงความเฉียบคมของตัวเองออกมา โดยมากแล้วนางชอบแสดงออกในลักษณะไม่ให้เป็นที่พอใจอยู่ตลอดๆแต่ ไม่ว่านางจะประพฤติตนไม่ให้เด่นดังอย่างไรก็ดี ก็ไม่อาจจะปกปิดปิดบังความมีปัญญาของนางได้ ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยมีนักเรียนของศตาติดอยู่รจำนวนหลายชิ้นเวลาพบกับปัญหาแล้วต่างนิยมขอคำชี้แนะ หรือขอความคิดเห็นจากเมี่ยวฉาน
แน่ๆ ส่วนมากแล้วเมี่ยวฉานจะทำตัวไม่ให้เป็นลักษณะเด่น ไม่ได้อยากเผยอะไรจำนวนมากนัก แต่ว่านางยังคงยอดเยี่ยมในนิสิตที่ได้รับการต้อนรับสูงที่สุดของโรงเรียนที่นี้