meenovel - นิยาย pdf นิยายออนไลน์ หมีโนเวล นิยายจีนแปลไทย novel นิยายวาย
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Advanced
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Prev
Next

จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2017

  1. Home
  2. จักรพรรดิบรรพกาล
  3. ตอนที่ 2017
Prev
Next

ในเวลานี้ ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัด บรรดานักศึกษาชายหญิงระดับอัจฉริยบุคคลต่างมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความงุนงง ทุกคนไม่สามารถรับได้ทันในเวลานี้

โดยเฉพาะเถาถิงที่ติดตามขึ้นมาด้วยยิ่งถึงกับอ้าปากกว้าง นาทีนี้นางถึงกับยืนเซ่อ จับต้นชนปลายไม่ถูกกับประวัติความเป็นมาของหลี่ชิเย่ ไมรู้อะไรในหลี่ชิเย่อย่างสิ้นเชิง

ชื่อเสียงด้านความงดงามของเหมยซู่เหยาดังก้องไปทั่วสถาบันศึกษาเทพเจ้า สาวงามอันดับหนึ่งของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ความสูงส่งในด้านพรสวรรค์ไล่จี้เหรินเซิ่น เส้าเหนียนหวังติดๆ เกรงว่าแม้แต่นายน้อยทะยานฟ้า และเทพบุตรซือจงเมื่อเทียบกับนางแล้วก็ยังด้อยกว่านาง

เหมยซู่เหยาถูกนักศึกษาจำนวนมากยกย่องให้เป็นเทพธิดา นางที่อยู่ในฐานะนักศึกษาเรียกว่าเทียบเคียงกับอวี่เชียนเสวียนที่เป็นอาจารย์ ยกเว้นทักษะที่สู้อวี่เชียนเสวียนไม่ได้

กล่าวได้ว่า เหมยซู่เหยาอยู่ในฐานะเหมือนดั่งเทพธิดาในสถาบันศึกษาเทพเจ้า เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาดั่งเทพธิดา เรียกได้ว่าในสถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่ทราบว่ามีนักศึกษาชายจำนวนเท่าไรที่มีความรักและชื่นชมในตัวของเหมยซู่เหยา กระทั่งเคลิบคลิ้มหลงใหลในตัวของนาง เฉกเช่นผู้เป็นอัจฉริยะบุคคลอย่างเทพบุตรซือจงก็ทุ่มเทความรักให้ตั้งแต่แรกพบ

แม้แต่นักศึกษาหญิงในสถาบันศึกษาเทพเจ้าจำนวนไม่น้อย กระทั่งเป็นนักศึกษาหญิงระดับอัจฉริยะบุคคลก็ให้ความเลื่อมใศรัทธาในตัวของเหมยซู่เหยา เคารพเลื่อมใสในตัวของนาง

เหมยซู่เหยาไม่เคยว่างเว้นจากผู้ที่ตามจีบนางในสถาบันศึกษาเทพเจ้า ต่อให้ทุกคนรู้ดีว่าเทพบุตรซือจงมีใจให้กับเหมยซู่เหยา แต่บรรดานักศึกษาชายระดับอัจฉริยะบุคคลคนอื่นๆ ยังคงทำการตามจีบเหมยซู่เหยาเช่นกัน

หากจะกล่าวถึงการสนทนาธรรมและแลกเปลี่ยนความรู้ เหมยซู่เหยายินดีสนทนาธรรมด้วยกับนักศึกษาคนใดก็ได้ แต่ถ้าในด้านของความรักระหว่างชายหญิง เหมยซู่เหยากลับมีท่าทีที่เย็นชามากเสมอมา นางเรียบเฉยอย่างยิ่งกับทุกๆ คนที่ตามจีบนาง มีความรู้สึกนิ่งดั่งน้ำในบ่อสำหรับทุกคนที่รักและชื่นชมในตัวนาง ไม่ให้ความสนใจอย่างสิ้นเชิง

อาจกล่าวได้ว่า เหมยซู่เหยาในสายตาของผู้คนจำนวนมากเสมือนดั่งเป็นเทพธิดาที่อยู่บนก้อนเมฆ ทำให้ผู้คนมองเห็นได้แต่สุดจะเอื้อมถึง ทุกคนต่างคาดเดากันว่า ต้องเป็นบุรุษเช่นใดนะจึงได้รับความโปรดปรานจากเหมยซู่เหยาได้

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของหลี่ชิเย่ในวันนี้ ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก นี่เป็นเพียงผู้ชายที่แลดูธรรมดาไม่มีสิ่งใดสะดุดตาคนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ เหมยซู่เหยากลับโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดต่อหน้าต่อตาทุกๆ คน ท่าทางความสนิทสนมหวานซึ้งเช่นนั้น ทำให้ทุกคนที่เห็นสามารถรู้สได้ทันทีว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา

ในเวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความงงงัน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชายหรือหญิง ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเทพธิดาเหมยถึงได้ให้ความโปรดปรานต่อผู้ชายที่ธรรมดาไม่มีสิ่งใดสะดุดตาตรงหน้าผู้นี้

การได้มองเห็นหลี่ชิเย่ที่สวมกอดอยู่กับเหมยซู่เหยา ในเวลานี้บรรดานักศึกษาชายจำนวนเท่าไรที่อยู่ในเหตุการณ์พลันบังเกิดความริษยาภายในใจ พวกเขาต่างจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ ฉับพลัน หลี่ชิเย่ได้กลายเป็นศัตรูทางความรักร่วมกันของพวกเขา แม้แต่เทพบุตรซือจงก็ส่งเสียงฮึเบาๆ ขึ้นมา

แม้ว่าในใจของเทพบุตรซือจงจะบังเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ กระทั่งบังเกิดเพลิงริษยาขึ้นมา เขาเคยทำดีของเหมยซู่เหยามากทีเดียว แต่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากเหมยซู่เหยาแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เวลานี้กลับปรากฏผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงโผล่ออกมากลางคัน กลับจะทำให้เหมยซู่เหยาโผเข้ากอดเสียได้ แล้วจะไม่ให้ในใจของเขารู้สึกทนรับไม่ได้ได้อย่างไร

อาศัยพรสวรรค์ของเทพบุตรซือจง อาศัยชาติกำเนิดของเขา อาศัยศักยภาพของเขา ไม่รู้ว่าเหนือกว่าผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อหน้าตาไม่ดีท่าทางที่ธรรมดาไม่มีสิ่งใดสะดุดตาตรงหน้าเท่าไร

ในเวลานี้ เถาถิงเองก็อ้าปากค้างหุบไม่ลงเป็นเวลานาน นี่คือเทพธิดาเหมยนะเนี่ย ชื่อเสียงด้านความงามขจรไกล เทพธิดาเหมายคือผู้ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าสูงส่งสุดจะเอื้อมถึง นางคือเทพธิดาที่อยู่บนก้อนเมฆ มองเห็นได้แต่เอื้อมไปไม่ถึง เวลานี้ต่อหน้าต่อตาของผู้คนทุกคน นางกลับโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ชิเย่ นี่ นี่ นี่มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ เถาถิงถูกทำให้สะเทือนหวั่นไหวไปในทันที

หลี่ชิเย่กอดกับเหมยซู่เหยาอยู่นานมาก หลี่ชิเย่ประคองนางเอาไว้และพิจารณานางอย่างละเอียด หัวเราะและทอดถอนใจออกมาว่า “แม้ว่าเจ้าจะก้าวข้ามสิ่งกีดขวางภายในใจนั้นมาได้ แต่เมฆหมอกดำยังคงอยู่ในใจ การช่วงชิงด้านสัจธรรม การถ่อมตนไม่ยอมรับตำแหน่งไม่เห็นจะเป็นคุณธรรมอะไร สมควรต่อสู้ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด ไม่จำเป็นต้องซ่อนคมเอาไว้! แม้จะต้องตายก็ไม่หวั่น สังหารสวรรค์กับมือ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!”

“เรื่องความอหังการด้านการช่วงชิงข้าเที่ยบไม่ได้กับคุณชาย” เหมยซู่เหยาแสดงท่าทีของผู้หญิงตัวน้อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา ท่วงท่าทีงดงามประทับใจของผู้คน

ปรกติแล้ว น้อยครั้งนักที่เหมยซู่เหยาจะเผยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ออกมา เวลานี้พลันที่นางยิ้มออกมา เรียกได้ว่าสวยหยาดเยิ้ม ทำให้ผู้คนต้องเคลิบเคลิ้มหลงไหล ทำให้จิตใจของผู้คนต้องสั่นไหว ทให้ชายหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์จ้องมองจนเซ่อไปเลย

“ต้องมีแน่นอน เจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร เพียงแต่ครั้งนั้นข้าทำหื้เกิดเงามืดขึ้นในใจเจ้าเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย ขาดคำ เสียงดังแว้งค์นิ้วมือของหลี่ชิเย่หนีบกฎเกณฑ์มาสายหนึ่ง

กฎเกณฑ์ดังกล่าวเล็กดั่งใยไหม ฉับพลันแทรกตัวเข้าไปในบริเวณหน้าผากของเหมยซู่เหยา ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น บริเวณหน้าผากของเหมยซู่เหยาพลันเปล่งประกายออกมา เป็นรัศมีเซียนที่เป็นวงๆ ดูเจิดจ้ายิ่งนัก พลันทำให้เหมยซู่เหยาดูเปี่ยมด้วยไอเซียน เสมือนหนึ่งเทพธิดาลงมาจากสวรรค์จริงๆ

เดิมเหมยซู่เหยาก็มีกระดูกเซียนโดยกำเนิดอยู่ที่หน้าผากชิ้นหนึ่งอยู่แล้ว เวลานี้กระดูกเซียนเปล่งประกายเซียนออกมา จึงทำให้คุณสมบัติเฉพาะตัวของนางกลับกลายเป็นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

จังหวะที่เสียงแว้งค์ดังขึ้นมานั้น กฎเกณฑ์สายนี้ของหลี่ชิเย่ไม่เพียงจุดติดกระดูกเซียนบริเวณหน้าผากของเหมยซู่เหยาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังจุดติดจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเหมยซู่เหยาอีกด้วย ทำการขับไล่เมฆหมอกทุกอย่างที่อยู่ในใจของนาง ความรู้สึกที่อบอุ่นได้ห่อหุ้มเหมยซู่เหยาเอาไว้ พริบตาเดียวกันนี้ ทำให้เหมยซู่เหยารู้สึกถึงทะเลกว้างท้องฟ้าไพศาลให้นางได้โผบิน ให้นางได้โลดเต้นไปตามอารมณ์

ในอดีต เหมยซู่เหยาก็เคยมีจิตที่ช่วงชิงความเป็นหนึ่งในหล้า เพียงแต่หลังจากพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่แล้ว หลี่ชิเย่ก็เสมือนหนึ่งเป็นแนวร่องน้ำธรรมชาติที่ทำให้นางไม่สามารถก้าวข้ามไปได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้น จึงทำให้ความฮึกเหิมที่จะช่วงชิงความเป็นหนึ่งปราศจากรสชาติ ไร้ซึ่งเป้าหมาย เนื่องจากว่าไม่ว่านางจะแข็งแกร่งมากขึ้นอีกเท่าไรก็ก้าวล้ำหลี่ชิเย่ไปไม่ได้

สุดท้าย ได้รับการโน้มน้าวจากหลี่ชิเย่ขึ้นมายังแดนสิบแล้ว เหมยซู่เหยาจึงได้ก้าวสู่เส้นทางการค้นหาสัจธรรมของตนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง มาคราวนี้นางยึดเอาตนเองเป็นเป้าหมาย ไม่ได้คิดจะไปแย่งชิงกับผู้ใด แต่พยายามล้ำหน้าตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่ว่า ในใจของนางยังคงมีเงามืดอยู่สายหนึ่ง นางจึงก้าวเดินบนเส้นทางของตนได้ไม่เต็มที่นัก หรือพูดให้ถูกต้องก็คือยังมีความพาลไม่พอ ยังมีความเชื่อมั่นในตนเองไม่พอ

แน่นอน ความพาล และความเชื่อมั่นในตนเองของนางไม่ได้ไปแข่งหรือเปรียบกับใคร แต่เปรียบเทียบกับหลี่ชิเย่ ด้วยเหตุนี้เอง นางจึงมีวิบากเต๋าของการซ่อนคมกระบี่เอาไว้ หลี่ชิเย่ กำลังจะช่วยให้นางก้าวข้ามวิบากเต๋านี้ไป

เวลานี้ แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นและสว่างไสวที่อุ่นกายอุ่นใจได้สาดส่องลงบนตัว นัยน์ตาคู่นั้นของเหมยซู่เหยาพลันสดใสสว่างไสวขึ้นมา ร่างของนางแลดูเหมือนมีสีสันที่งดงามยิ่งกว่าเดิม ฉับพลันนั่นเอง นางกลับกลายเป็นเหมือนมีพลังชีวิตยิ่งกว่าเดิมอย่างนั้น แลดูน่าตื่นเต้นยิ่งนัก เหมือนหนึ่งเป็นนกยูงตัวหนึ่งที่รำแพนออกมาอย่างเต็มที่ ช่างงดงาม และมั่นใจอะไรอย่างนั้น นาทีนี้สภาพจิตใจของเหมยซู่เหยาในครั้งครานั้นได้กลับคืนมาอีกในทันที ยังคงมั่นใจ ไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังเพิ่มความมั่นคงและไม่ยินดียินร้ายปรารถนาในลาภยศสรรเสริญที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งส่งผลให้นางกลับกลายเป็นงดงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“ขอบคุณคุณชายที่คุ้มครอง” เหมยซู่เหยาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง นาทีนี้นางรู้สึกได้ถึงเส้นทางที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มองเห็นร่างเงาของตนเองบนเส้นทางสายนี้แล้ว.

“นี่คือความพยายามของเจ้าเอง” หลี่ชิเย่นวกคลึงเส้นผมของนางเบาๆ หัวเราะและกล่าวว่า “เป็นตัวเจ้าเองที่ก้าวเดินไปข้างหน้าตลอดเวลา ถ้าหากเจ้าไม่ก้าวข้ามวิบากเต๋าของตนเองไป ใครก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ข้าแค่ช่วยจุดติดตะเกียงที่อยู่ด้านหน้าให้กับเจ้าเท่านั้นเอง ให้เจ้าได้มองเห็นตัวเอง มองเห็นทิศทาง สิ่งที่ข้าทำได้มีเพียงเท่านี้”

เหมยซู่เหยาถึงกับฉีกยิ้มออกมา เผยให้เห็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุด นาทีนี้การอยู่กับหลี่ชิเย่ช่างมีความสุขเหลือเกิน ช่างสบายอะไรอย่างนั้น เขารับรู้ความคิดที่อยู่ภายในใจตลอดกาล เขาเสมือนดั่งตระเกียงที่สว่างไสวดวงนั้น คอยชี้นำให้นางก้าวเดินไปตลอดเส้นทาง ขอเพียงมีเขาอยู่ด้วย ต่อให้เส้นทางนั้นยาวไกลเพียงใดก็ไม่รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว

เมื่อนางอยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ นางสามารถสำแดงความงดงามของตนออกมาได้อย่างเต็มที่ เป็นอีกด้านหนึ่งที่งดงามและนุ่มนวลที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่หลี่ชิเย่สามารถครอบครอง!

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองเห็นรอยยิ้มของเหมยซู่เหยาด้วยความหลงใหล ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนถึงกับมองเหม่อ ไม่เคยได้เห็นความงดงามเช่นนี้มาก่อน ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีใครได้เห็นเหมยซู่เหยายิ้มได้สุขใจถึงเพียงนี้มาก่อน

เวลานี้ การยิ้มของเหมยซู่เหยาไม่ได้เพื่ออัจฉริยะบุคคลคนหนึ่งคนใด ไม่ได้เพื่อยอดฝีมือที่ล้ำเลิศคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อเจ้าหนูที่แลดูธรรมดาตรงหน้าคนนี้นี่เอง

เทพบุตรซือจงบังเกิดเพลิงริษยาที่ลุกโชน เขาส่งเสียงเยาะเย้ยคำหนึ่ง เวลานี้เขาได้ลุกขึ้นยืน แสดงออกถึงบุคลิกที่สง่างามคล่องแคล่วว่องไว แสดงคารวะแบบจีนต่อเหมยซู่เหยา กล่าวโดยแฝงรอยยิ้มว่า “เทพธิดาเหมย ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้มีนามว่ากระไร แนะนำให้รู้จักจะได้ไหม?”

ในขณะนี้เทพบุตรซือจงเข้าใจว่าตนเองนั้นมีท่วงท่ากิริยาที่งดงามที่สุดแล้ว มิฉะนั้นแล้ว ปรกติเฉกเช่นผู้ที่ธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นเขาขี้คร้านจะมองด้วยซ้ำ

เวลานี้เหมยซู่เหยาได้คล้องแขนหลี่ชิเย่เอาไว้ ท่าทางดูสนิทสนมใกล้ชิดยิ่งนัก นางเพียงอมยิ้มมองดูหลี่ชิเย่ ความหมายของนางชัดเจนยิ่งกว่าเสียอีก

หลี่ชิเย่มองดูเทพบุตรซือจงทีหนึ่ง ยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “แค่คนที่เดินผ่านมาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปจดจำ สิ่งที่สมควรรู้ย่อมต้องได้รู้” กล่าวจบควงแขนเหมยซู่เหยาเดินจากไป

“ไปได้แล้ว ยังจะเหม่ออะไรอีก?” ขณะเดินลงจากเขา หลี่ชิเย่ยืนมือโบกไปมาอยู่หน้าเถาถิง

เถาถิงได้สติกลับมาดูท่าทางเก้อเขินยิ่งนัก เมื่อครู่นางเหม่อลอยอย่างสิ้นเชิง หลังจากได้สติกลับมานางจึงรีบวิ่งตามหลี่ชิเย่และเหมยซู่เหยาให้ทัน

“นั่น นั่น เทพธิดาเหมย ข้าชื่อเถาถิง นักศึกษาของศตาคาร” เถาถิงไม่นึกไม่ฝันเลยว่าตนเองจะมีโอกาสเดินใกล้กับเหมยซู่เหยาขนาดนี้

จะอย่างไรเสีย ช่วงห่างระหว่างศตาคารกับจวนราชันมันช่างไกลกันเหลือเกิน นักศึกษาที่สำเร็จจากจวนราชันส่วนใหญ่จะได้เป็นระดับจอมเทพ หากไม่สามารถเป็นระดับจอมเทพได้นับว่าเสียชื่อจวนราชันหมด กระทั่งมีนักศึกษาของจวนราชันหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วได้เป็นเซียนหวัง!

“สามารถได้รับความโปรดปรานจากคุณชาย ย่อมต้องมีสิ่งที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” เหมยซู่เหยากล่าวทักทายต่อเถาถิง โดยยิ้มกล่าวว่า “อนาคตของน้องถิงต้องไร้ขีดจำกัดแน่นอน”

เถาถิงเองรู้สึกเขินอยู่บ้างเมื่อถูกเหมยซู่เหยากล่าวชื่นชมเช่นนี้ ความจริงแล้วนางเองก็ไม่เข้าใจว่าหลี่ชิเย่ไปติดใจตรงส่วนไหน ต่อให้เถาถิงโง่เขลามากกว่านี้ก็สามารถรู้สึกได้ว่า นับตั้งแต่หลี่ชิเย่เจอะเจอกับนางแล้วก็คอยดูแลนางเป็นอย่างดี และใส่ใจนางตลอดมา

แน่นอนที่สุด เถาถิงย่อมไม่คิดว่าหลี่ชิเย่จะถูกใจนาง ถูกใจในความงามของนาง

สิ่งนี้แหละที่ทำให้เถาถิงไม่เข้าใจ เพราะอะไรหลี่ชิเย่จึงได้ดีกับนางถึงเพียงนี้ ไปถูกใจในจุดไหนของนางกันแน่เล่า

ขณะที่พวกของหลี่ชิเย่สามคนเพิ่งก้าวลงมาจากยอดเขา พลันถูกคนขวางทางเอาไว้ ถูกคนกลุ่มใหญ่ขวางเอาไว้ตรงนั้น

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 2017"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

YOU MAY ALSO LIKE

thdfgxv
Warlock of The Magus World
28 พฤศจิกายน 2022
hgbrtegfr
ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family
10 มีนาคม 2023
hbste
รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
11 มกราคม 2023
htrgfrd
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง
11 มีนาคม 2023
Tags:
จักรพรรดิบรรพกาล pdf, ราชันอหังการ
ads

    © 2017 Madara Inc. All rights reserved