จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2679

ตอนที่ 2679 สัจธรรมพันธนาการสวรรค์
ผู้คนทั่วหล้าต่างให้ความสนใจในความเป็นความตายของนักพรตไป๋ยื่อ ทุกคนต่างตั้งตารอคอบ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่จ้องมองดูหลุมลึกขนาดยักษ์นั่นด้วยความตื่นเต้น
ในเวลานี้ กระทั่งมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนทำการอธิฐานในใจ คาดหวังว่านักพรตไป๋ยื่อจะยังคงมีชีวิตอยู่
บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวดองเป็นญาติกับนักพรตไป๋ยื่อ แต่ว่า ในเวลานี้ภายในใจของพวกเขาก็คาดหวังให้นักพรตไป๋ยื่อยังคงมีชีวิตอยู่ ขอเพียงนักพรตไป๋ยื่อยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ จะมากหรือน้อย ภายในใจของพวกเขาก็ยังคงมีความหวังอยู่นิดหนึ่ง
ช่าาาเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง มองเห็นเพียงดินและหินที่อยู่ในหุบเหวลึกแตกกระจาย ร่างเงาสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง เพียงพริบตาเดียวก็พุ่งขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าแล้ว
“ดูนั่น ยังมีชีวิตอยู่ เป็นนักพรตไป๋ยื่อ” ทุกคนมองตามไป ขณะที่ร่างเงาสายนี้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง ในเวลานี้กระทั่งมีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความดีใจ
“เป็นความจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ นักพรตไป๋ยื่อยังคงมีชีวิตอยู่” กระทั่งเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ร้องเสียงดังขึ้นมา และอดไม่ได้ที่พูดย้ำแล้วย้ำอีก
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างหายใจด้วยความรู้สึกโล่งอก อย่างน้อยที่สุดก็บอกได้ว่า นักพรตไป๋ยื่อไม่ได้ถูกคนโหดอันดับหนึ่งสังหารในกระบวนท่าเดียว จะมากหรือน้อยก็สามารถหอบหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง จะมากหรือน้อยก็ทำให้ภายในใจยังมีความคาดหวังอยู่บ้าง อย่างน้อยยังมีความหวังอยู่นิดหนึ่ง
กล่าวสำหรับแดนลัทธิราชันโดยรวมแล้ว ถ้าหากนักพรตไป๋ยื่อถูกคนโหดอันดับหนึ่งสังหารในกระบวนท่าเดียวจริงๆ ล่ะก็ มันคือผลกระทบที่รุนแรงมาก เกรงว่าจากนี้ต่อไป ทุกคนในแดนลัทธิราชันจะต้องอยู่ภายใต้เงาทมิฬของคนโหดอันดับหนึ่งจนไม่สามารถหายใจลึกๆ ได้อีกต่อไป
จังหวะที่เกิดเสียงช่าาา เศษหินปลิวว่อน นักพรตไป๋ยื่อพุ่งตัวขึ้นไปอย่างรุนแรง เพียงพริบตาเดียวก็ขึ้นไปยืนอยู่บนท้องฟ้า
ท่าทางของนักพรตไป๋ยื่อในขณะนี้ดูกระเซอะกระเซิงยิ่งนัก บนตัวมีรอยเลือดเต็มไปหมด แม้ว่าเวลานี้บริเวณทรวงอกที่ถูกกระแทกจนทะลุจะสมานไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยของบาดแผลเอาไว้ ในเวลานี้เขาไม่สามารถรักษาบุคลิกท่าทางที่เป็นเฉพาะตัวของผู้บำเพ็ญตนเฉกเช่นเมื่อครู่ได้อีกต่อไปแล้ว
ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนถึงกับหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นนักพรตไป๋ยื่อยังคงมีชีวิตอยู่ ถ้าหากนักพรตไป๋ยื่อถูกคนโหดอันดับหนึ่งสังหารในกระบวนท่าเดียวจริงๆ ล่ะก็ ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ของพวกเขาก็ต้องสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น การร่วมมือกันเพื่อสังหารหลี่ชิเย่ที่มีการวางเอาไว้เป็นอย่างดีก็คงไม่ได้ใช้แล้ว
เวลานี้เมื่อราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมองเห็นนักพรตไป๋ยื่อยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยที่สุดจะมากหรือน้อยภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ยังมองเห็นความหวัง อย่างน้อยที่สุดระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ของพวกเขายังคงมีโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์ได้
“เห็นทีข้าประเมินเจ้าต่ำไปแล้ว” หลังจากที่นักพรตไป๋ยื่อพุ่งตัวขึ้นมายืนอยู่บนท้องฟ้าแล้ว เขาไม่สามารถคงบุคลิกท่าทางที่เป็นการเฉพาะตัวของผู้บำเพ็ญตนได้อีก ถึงกับส่งเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้นมา
ในขณะนี้ นักพรตไป๋ยื่อไม่สามารถทำตัวให้ดูสง่างามไม่สะทกสะท้านได้อีกต่อไปแล้ว สมควรทราบว่า ก่อนที่เขาจะกักตนแบบหากไม่บรรลุก็จะไม่กลับออกมาอีกเลยนั้น เขาก็คือยอดฝีมือที่เกร่งที่สุด เวลานี้เขาสามารถออกจากการกักตนได้ สำเร็จชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลได้ เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรในหล้าแล้ว
ความจริงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนของแดนลัทธิราชันรู้ว่าเขาสำเร็จชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลได้แล้ว ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องขวัญหนีดีฝ่อ ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไรต้องตัวสั่นงันงก อยากจะเข้าไปประจบสอพรอเขาให้รู้แล้วรู้ตอดไป แม้แต่ตระกูลมู่ที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ยังคงต้องเคารพนอบน้อมต่อเขา
อย่างไรก็ตาม ที่นึกไม่ถึงก็คือ หลังจากที่เขาสำเร็จเป็นชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลได้แล้ว ศึกครั้งแรกก็กระเซอะกระเซิงขนาดนี้ น่าเศร้าขนาดนี้ ในฐานะที่เขาเป็นถึงชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาล ถูกหลี่ชิเย่ซัดจนกระเด็นในหนึ่งกระบวนท่า และถูกกระแทกทะลุอกในกระบวนท่าเดียว ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ คนโหดอันดับหนึ่งเป็นเพียงผู้เยาว์คนหนึ่งเท่านั้น
จุดจบที่กระเซอะกระเซิงและเศร้ารันทดเช่นนี้กล่าวสำหรับนักพรตไป๋ยื่อแล้ว มันคือความอัปยศอย่างยิ่ง กล่าวสำหรับชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลเช่นเขาแล้ว นับว่าเป็นรอยด่างที่กำจัดออกไปไม่ได้ชั่วชีวิต
ในเวลานี้ ภายในใจของนักพรตไป๋ยื่อบังเกิดเพลิงแห่งความโกรธที่โหมลุกไหม้ขึ้นมา ดวงตาทั้งสองดูน่าเกรงขาม ปณิธานการฆ่าวูบวาบ ไม่สามารถรักษาความเป็นผู้ไม่สะทกสะท้าน และบุคลิกท่าเฉพาะของผู้เป็นผู้บำเพ็ญตนอีกต่อไป
“ด้วยวิสัยทัศน์อันน้อยนิดของเจ้า ได้แต่หยุดอยู่แค่ชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาล ยังจะมีความรู้ประสบการณ์อะไรอีกสักเท่าไร? เจ้าจะต้องประเมินข้าต่ำเกินไปตลอดไป เจ้าไม่รู้หรอกว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเจ้าดำรงอยู่ในสถานะน่ากลัวเช่นใดตลอดไป” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
ท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามนักพรตไป๋ยื่อนั้นได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ อย่างน้อยในสายตาของผู้คนในโลกเป็นเช่นนี้
แต่ว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่นิ่งเงียบ เนื่องจากเวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกว่า คำพูดที่คนโหดอันดับหนึ่งพูดออกมานั้นไม่ได้เหนือความคาดคิดแม้แต่น้อย คนโหดอันดับหนึ่งมีสิทธิ์พูดเช่นนี้ได้อย่างสิ้นเชิง
นาทีนี้ แม้แต่ประเภทชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรอย่างนักพรตไป๋ยื่อ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนโหดอันดับหนึ่งในเวลานี้ ก็ดูจะไม่แตกต่างอะไรกับนาย ก นาย ข อะไร
นักพรตไป๋ยื่ออยู่ในฐานะสูงเด่นเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น เป็นผู้ที่ไม่สามารถเอื้อมถึงได้ อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว ก็เหมือนดั่งที่คนโหดอันดับหนึ่งได้พูดเอาไว้ เป็นได้แค่มดปลวกเท่านั้น
เวลานี้ ภายในใจของทุกคนรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกเหมือนว่าหัวใจของตนถูกมือขนาดยักษ์ที่ไร้รูปกำเอาไว้แน่น การที่คนโหดอันดับหนึ่งแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทำให้ไม่ว่าใครก็ตามในแดนลัทธิราชัน รู้สึกกดดัน และรู้สึกว่าหายใจไม่ออก
พริบตาเดียวนี้เอง กระทั่งมีผู้ที่รู้สึกว่า ผู้บำเพ็ญตนมีแค่คนโหดอันดับหนึ่งคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ส่วนคนอื่นๆ จะฝึกปรือหรือไม่ก็ได้ทั้งนั้น เนื่องจากคนอื่นๆ ต่อให้พยายามฝึกมากกว่านี้ เมื่อเทียบกับคนโหดอันดับหนึ่งแล้วเป็นได้แค่ฝุ่นผงเท่านั้นเอง
ในขณะนี้สีหน้าของนักพรตไป๋ยื่อออกจะปั้นยากอยู่บ้าง เวลานี้เขาไม่สามารถรักษาความเป็นผู้ไม่สะทกสะท้านเมื่อครู่ได้อีก ถูกหลี่ชิเย่เล่นงานจนกระเซอะกระเซิงเช่นนี้ในหนึ่งกระบวนท่า สิ่งนี้ทำให้เขาไม่สามารถไม่สะทกสะท้านได้อีกแล้ว นั่นคือความอัปยศของเขา เวลานี้พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำนี้ออกมา ทำให้เขารู้สึกว่ามันคือความอัปยศอดสูอย่างหนึ่ง
“เวลานี้ยังสรุปเร็วเกินไป!” นักพรตไป๋ยื่อพูดน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “โลกนี้มีวิธีการเป็นร้อย ใครจะหัวเราะเป็นคนสุดท้ายยังไม่รู้”
“อย่าว่าแต่โลกนี้มีวิธีการเป็นร้อย ต่อให้โลกนี้มีวิธีการเป็นหมื่นก็ไร้ประโยชน์” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย บิดขี้เกียจทีหนึ่งไปตามอารมณ์ และกล่าวว่า “สมควรเก็บฉากได้แล้ว กวาดล้างฟ้าดินนี้สักครั้ง ให้ข้าส่งพวกเจ้าเดินทางก็แล้วกัน”
คำพูดที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ แต่ทำให้หัวใจของทุกคนตื่นเต้น เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ เป็นการบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่จะทำการเข่นฆ่าขนานใหญ่แล้ว
เฉกเช่นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวอย่างคนโหดอันดับหนึ่ง เมื่อใดที่เขาทำการเข่นฆ่าขนานใหญ่ ย่อมหมายถึงทะเลเลือดที่ดั่งคลื่นยักษ์ ซากศพกองพะเนินดั่งภูเขา เกรงว่าใช้เวลาไม่นานเท่าไร แค่ดีดนิ้วทีหนึ่งเท่านั้นก็สามารถสังหารสิ้นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ได้ ทำให้ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ทั้งหมดหายวับไปกับตาในพริบตา
นาทีนี้ นักพรตไป๋ยื่อส่งเสียงฮึเย็นชาทีหนึ่ง เขาจ้องตากันและกันกับราชันแท้จริงมู่เจี้ยน พวกเขาทั้งสองพลันมีการเคลื่อนไหวกลายเป็นหน้าคนหลังคนสกัดหลี่ชิเย่เอาไว้
ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยืนอยู่ด้านหน้าของหลี่ชิเย่ ขณะที่นักพรตไป๋ยื่อยืนอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ พวกเขาจะโจมตีพร้อมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หวังอาศัยการร่วมมือของสองคนสยบหลี่ชิเย่เอาไว้
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว สถานการณ์ยังคงไม่เป็นผลดีสำหรับพวกเขา ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บสาหัส กำลังความสามารถของพวกเขาสองคนล้วนสู้หลี่ชิเย่ไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์ตรงหน้า เกรงว่าพวกเขาทั้งสองร่วมมือกัน แม้ว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่เป็นธาตุแท้ภายใน ผู้คนยังคงมองไม่เห็นความหวังสักเท่าไร
“จะเริ่มแล้ว” ผู้คนทั่วหล้าต่างรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมาที่ได้เห็นภาพนี้ ทุกคนต่างก็รู้ว่า การต่อสู้ที่น่าเวทนากำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว
“สถานะเสื่อมโทรมยากจะแก้ไข” บรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิอดที่จะทอดถอนใจเบาๆ เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกับนักพรตไป๋ยื่อทำการปิดกั้นหน้าหลังของคนโหดอันดับหนึ่งเอาไว้
นักพรตไป๋ยื่อนั้นไม่อาจไม่ยอมรับว่าแข็งแกร่งยิ่ง สภาพของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเวลานี้เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นสูงสุด แต่ว่า นาทีนี้แม้พวกเขาทั้งสองจะร่วมมือกัน ก็ทำให้ผู้คนมองไม่เห็นความหวังสักเท่าไร ที่สำคัญก็คือคนโหดอันดับหนึ่งน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ไม่สามารถศึกษาถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้อยู่แล้ว
“พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์ได้จริงๆ รึ?” มียอดฝีมือที่พึมพำขึ้นมา เมื่อมองเห็นศึกยิ่งใหญ่ที่อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดมาก พร้อมระเบิดขึ้นทันที
“ยาก…” เทพแท้จริงขั้นอมตะทอดถอนใจเบาๆ และกล่าวว่า “เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นนักพรตไป๋ยื่อ หรือว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยน พวกเขาล้วนแล้วแต่ได้ตีไพ่ตายออกไปแล้ว เรียกได้ว่าวิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดล้วนนำออกใช้แล้ว พวกเขาคิดจะพลิกสถานการณ์จำเป็นต้องมีวิธีการที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ฝืนลิขิตสวรร์มากกว่า มิฉะนั้นล่ะก็ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ดี นักพรตไป๋ยื่อก็ช่าง แม้แต่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ทั้งหมดก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาด้วยมือของคนโหดอันดับหนึ่ง”
“คนโหดอันดับหนึ่งลึกล้ำถึงขั้นที่ว่าไม่สามารถคาดเดา หรือศึกษาได้อีกแล้ว ตามความเห็นของข้า หากไม่มีปฐมบรรพบุรุษลงมือ สถานการณ์คงสิ้นแล้ว ไม่มีใครสามารถรั้งเอาไว้ได้อีก เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลมู่ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว”
“ก็ดี พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันทั้งสองคนก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่กล่าวไปตามอารมณ์ “หากไม่ให้โอกาสพวกเจ้าได้ร่วมมือกัน พวกเจ้าจะนอนตายตาไม่หลับ”
เวลานี้ นักพรตไป๋ยื่อกับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจ้องมองตาซึ่งกันและกัน ในขณะนี้พวกเขาทั้งสองมีท่าทีหนักแน่นจริงจังขึ้นมา พวกเขาต่างรู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง แม้พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันก็สู้คนโหดอันดับหนึ่งไม่ได้ แต่ว่า พวกเขาจำเป็นต้องสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ตายไม่เลิก
“ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร…” ในเวลานี้ นักพรตไป๋ยื่อคำรามเสียงยาว ลงมือนำไปก่อน ดาวเคราะห์ทั้งหนึ่งร้อยดวงพลันสว่างไสวขึ้น ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง เส้นสายผลึกกาลเวลาแต่ละเส้นที่ทิ้งกระจายตัวออกมา
ขณะเส้นสายผลึกกาลเวลาแต่ละเส้นที่ทิ้งกระจายตัวออกมา พลันทะลุผ่านกาลเวลา และทะลุผ่านกาลเวลาแห่งชีวิตของหลี่ชิเย่ในทันที ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ดาวเคราะห์ทั้งหนึ่งร้อยดวงหอบเอาพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับพุ่งชนเข้าหาหลี่ชิเย่
ชั่วพริบตาเดียวที่ดาวเคราะห์หนึ่งร้อยดวงพุ่งชนไปยังหลี่ชิเย่นั้น หลี่ชิเย่ยังไม่ทันลงมือ นาทีนี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ได้ลงมือแล้ว ระหว่างพวกเขาเรียกได้ว่าเข้าขากันได้ดีมาก
“สัจธรรมพันธนาการสวรรค์…” ในพริบตาเดียวนั้นเอง ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนคำรามเสียงดัง กระบองกู่ท้าวในมือกระแทกเข้าไป ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นเสียงหนึ่ง ทันใดนั้น มองเห็นกระบองกู่ท้าวปรากฏหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมจำนวนนับไม่ถ้วนถูกโปรยปรายลงมา กฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษแต่ละข้อทิ้งตัวลงมาเข้าพันธนาการเอาไว้
เสียงตึงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงลงกลอนดังขึ้น เห็นเพียงกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษกลายเป็นสุดยอดเครื่องพันธนาการทำการพันธนาการทุกสิ่งทุกอย่างของหลี่ชิเย่เอาไว้
ท่ามกลางเสียงใส่กลอนตึงที่ดังขึ้น กฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษพลันทำการพันธนาการช่องว่าง กาลเวลา สัจธรรม ลมปราณ…ของหลี่ชิเย่เอาไว้
เครื่องพันธนาการปฐมบรรพบุรุษ ในพริบตาเดียวนี้เอง มันได้พันธนาการทุกสิ่งทุกอย่างของหลี่ชิเย่เอาไว้ หวังจะไม่ให้หลี่ชิเย่สามารถกระดิกตัวได้ ยิ่งกว่านั้นก็คือไม่สามารถตอบโต้ได้
……………………………………….
