คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 6

พูดถึงเรื่องนี้ หญิงชราและหลิวซื่อต่างหวาดกลัวอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้นางเด็กไป๋จื่อก็แกล้งตายไปแล้วรอบหนึ่ง ทำเอาพวกนางตกอกตกใจยกใหญ่
ขณะที่ท่านหมอลู่ดามแขนให้จ้าวซื่อ ไป๋จื่อก็คอยช่วยอยู่ข้างๆ ท่าทางคล่องแคล่วยิ่งนัก หมอลู่เห็นแล้วก็แอบประหลาดใจ เด็กสาวผู้นี้ดูมีทีท่าชำนาญนัก ไม่เหมือนเพิ่งเคยทำเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรก นี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญหรอกหรือ
เพิ่งพันแผลเสร็จ จ้าวซื่อก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ครั้นนางเหลือบเห็นบนเสื่อกกข้างๆ ว่างเปล่า ก็ไม่สนใจความเจ็บปวดบนบาดแผล รีบตะกายลุกขึ้นทันที “ลูกสาวของข้าเล่า นางไปที่ไหนแล้ว”
“ท่านแม่ ข้าอยู่นี่” นางยืนอยู่ข้างหลังจ้าวซื่อ มองเงาหลังที่ดูกระวนกระวายนั้น ในใจรู้สึกขมขื่นนัก
ในยุคปัจุบัน พ่อกับแม่ของนางแยกทางกันตั้งแต่ตอนที่นางยังเด็ก ทั้งคู่ต่างก็แต่งงานใหม่ นางกลายเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการ หลังจากนั้นนางก็เติบโตในบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสัมผัสความรู้สึกที่ได้รับการเป็นห่วงและใส่ใจจากพ่อแม่ ความรู้สึกเช่นนี้…ดีเหลือเกิน
จ้าวซื่อรีบลุกขึ้น เมื่อเห็นลูกสาวตัวเป็นๆ ยืนอยู่เบื้องหน้า นางก็ทั้งร้องไห้ ทั้งยิ้ม ใช้มือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหยิกตัวเองอย่างแรงครั้งหนึ่ง จนกระทั่งผิวหนังตรงนั้นม่วงแล้วถึงจะปล่อยมือ “เจ็บ ไม่ได้ฝันไป ข้าไม่ได้ฝัน ลูกสาวของข้ายังไม่ตาย ลูกสาวของข้ายังมีชีวิตอยู่”
นางอยากโอบบุตรสาวมาไว้ในอ้อมกอด ทว่าก็กลัวจะถูกบาดแผลบนตัวเข้า จึงทำได้เพียงคว้ามือของบุตรสาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย น้ำตาหยดลงมาไม่ขาดสาย “จื่อเอ๋อร์ แม่ไม่ดีเอง แม่ไร้ประโยชน์ แม่ปกป้องเจ้าไว้ไม่ได้ ทำให้เจ้าต้องถูกรังแก”
ไป๋จื่อส่ายหน้า พลางมองจ้าวซื่อที่กำลังเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริง นัยน์ตาของนางก็แดงขึ้นมาเช่นกัน “ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นไรแล้ว”
หญิงชราที่เห็นเหตุการณ์อยู่ข้างๆ รีบเรียกหมอลู่ “เห็นเช่นนี้ดูท่าจะไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องรักษาแผลแล้ว เจ้ากลับไปได้เลย!”
“เช่นนั้นไม่ได้!” ไหนเลยหมอลู่จะยอมปล่อยแม่เฒ่าผู้นี้ไป “รักษากระดูกหัก บวกค่าตรวจรักษาเพิ่ม แม้ข้าจะไม่ต้องการสี่ตำลึงเงินแล้ว แต่ก็ไม่อาจน้อยกว่าสองตำลึงเงินได้อีก”
“อะไรนะ?” สตรีสูงวัยร้องเสียงแหลม “คนก็ตื่นขึ้นมาแล้ว ยังต้องจ่ายสองตำลึงเงินอีก!”
“คนตื่นแล้ว ทว่าข้าก็ใช้ยาเชื่อมกระดูกและไม้ดามที่ทำขึ้นมาอย่างดีกับนาง อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งหรือสองตำลึงเงิน บวกกับค่าตรวจรักษาหนึ่งตำลึง ทั้งหมดสองตำลึงเงิน ขาดไม่ได้แม้สักแดงเดียว” หมอลู่มีสีหน้าบึ้งตึงและเย็นชา เขาทำสีหน้าราวกับว่าไม่อาจต่อรองได้แล้ว
หญิงชราเกลียดแค้นยิ่งนัก ทว่าต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ถึงแม้นางอยากกลืนคำพูดก็คงไม่ได้
เหอะ! คอยดูเถอะว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร! หญิงชราถลึงตามองจ้าวซื่อที่ซวนเซจะล้มลง พลางกัดฟัน สุดท้ายนางก็ไปหยิบเงินสะสมหลายปีที่ตนเองซ่อนไว้ในบ้าน แล้วส่งให้หมอลู่
ตอนนี้เอง จ้าวซื่อปล่อยมือของไป๋จื่อแล้ว นางเดินไปตรงหน้าของหัวหน้าหมู่บ้าน “หัวหน้าหมู่บ้านเจ้าคะ วันนี้ถือโอกาสที่ท่านอยู่ที่นี่ ข้าอยากจะแยกบ้านอย่างเป็นทางการ หวังว่าท่านจะช่วยสนับสนุนพวกข้าเจ้าค่ะ”
นี่เป็นคำพูดที่ซ่อนอยู่ในใจของนางมานานแสนนาน ในที่สุดวันนี้ก็ได้พูดออกมาแล้ว
ตั้งแต่สามีตายไป นางกับไป๋จื่อก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีเลยสักวัน
ทุกครั้งที่เห็นแม่สามีและสะใภ้ใหญ่ทุบตีต่อว่าไป๋จื่อ นางล้วนอยากแยกบ้านอยู่ ทว่าขาดแต่เพียงความกล้าเท่านั้น คำว่าแยกบ้านสองคำนี้ ในที่สุดนางก็กล้าพูดออกมาแล้ว
ติดตามต่อได้ที่ meenovel.com
วันนี้เห็นจื่อเอ๋อร์นอนไร้ลมหายใจอยู่บนเสื่อกก นางอยากนำชีวิตของตนไปแลกกับบุตรสาวใจจะขาด บัดนี้จื่อเอ๋อร์ฟื้นขึ้นมาแล้ว นางไม่อาจให้ลูกของตัวเองอยู่ในสายตาของหญิงชั่วร้ายสองคนนี้อีก ไม่เช่นนั้น ไม่ช้าก็เร็วจื่อเอ๋อร์ต้องตายด้วยน้ำมือของพวกนางอีกรอบแน่
หัวหน้าหมู่บ้านย่อมเข้าใจความรู้สึกของจ้าวซื่อ จึงตัดสินใจสนับสนุนนางให้ทำเช่นนั้นเช่นกัน หญิงชั่วช้าสองคนนี้ นับวันยิ่งไม่เชื่อฟังใคร ลูกของตัวเองเป็นของรักของหวง แต่กลับไม่เห็นลูกของผู้อื่นเป็นคนบ้าง
