[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ - ตอนที่ 34

หลังจากที่กินเหม่ยหลินเสร็จแล้ว ตัวทากหนวดหมึกก็คลานไปหาจระเข้ก้ามปูยักษ์ทันที ดูเหมือนว่ากลิ่นเลือดจะดึงดูดมันมากกว่าไป๋อี้และมาร์ติน
ไป๋อี้เห็นเช่นนี้ก็รีบออกไปทันที วูล์ฟอยู่ข้าง ๆ จระเข้ก้ามปูยักษ์ ถ้าหากมันเคลื่อนตัวเข้าไปวูล์ฟต้องตายแน่ ๆ ขณะที่ไป๋อี้กำลังวิ่งเขาก็บรรจุปืนลูกซองอีกครั้งไปด้วย แต่เขาไม่ได้ยิงแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ได้เห็นฉากเต่าฉลามต่อสู้กับตัวทากแล้ว เต่าฉลามที่มีอานุภาพมากขนาดนั้นกัดทึ้งเจ้านี่อย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังไร้ซึ่งบาดแผลใด ๆ ทิ้งไว้ใครจะจินตนาการได้ว่าผิวหนังของตัวทากหนวดหมึกตัวนี้เหนียวแค่ไหน ดังนั้นการยิงโดยตรงจะไม่มีผลกับมันอย่างแน่นอน
ดูเหมือนมันจะถูกกลิ่นเลือดดึงดูดอยู่จึงไม่ได้สนใจไป๋อี้นัก ดังนั้นไป๋อี้จึงรีบวิ่งไปข้างหลังของมัน
ไป๋อี้คว้าปืนลูกซองแล้วเสียบเข้าไปบริเวณส่วนที่เป็นหลุมยุบของมัน จากนั้นก็เหนี่ยวไกทันที เมื่อเสียงปืนดังขึ้น เขาก็ทิ้งปืนลูกซองทันทีและวิ่งหนีอย่างลนลาน เดิมทีจากที่ตัวทากไม่ได้สนใจไป๋อี้ แต่ในตอนนี้มันกลับส่งเสียงโหยหวนอย่างรุนแรง รวมถึงหนวดทั่วร่างกายของมันก็โบกสะบัดอย่างเดือดดาลและดูบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก ไป๋อี้ไม่สามารถหลบหนีได้ เขาถูกหนวดหมึกดึงเข้าที่หลังโดยตรงจากนั้นก็ลอยขึ้นไปตามแรงดูดของมัน
หลังจากกลิ้งไปบนพื้นสองตลบไป๋อี้รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะหลุดออกจากกัน ในขณะที่มาร์ตินวิ่งเข้ามาและยกนิ้วให้ไป๋อี้
“คราวนี้เป็นดอกเบญจมาศแน่ ๆ ฉันสัญญา” มาร์ตินพูด
ไป๋อี้ไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะดีไหม มาร์ติน ผู้ชายคนนี้ยังคงคิดเรื่องตลกร้ายแบบนี้อยู่อีก อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของไป๋อี้ในตอนนี้สามารถกระตุ้นตัวทากหนวดหมึกได้จริง ๆ มันทิ้งศพของจระเข้ก้ามปูยักษ์ไว้ที่นั่นทันทีและหันกลับไปไล่ล่าไป๋อี้กับมาร์ตินแทน
หนวดจำนวนนับไม่ถ้วนโบกสะบัดและม้วนตัวเข้าหาไป๋อี้และมาร์ติน
แม้ว่าร่างกายของเขาจะเจ็บจนแทบขาดกระจุย ไป๋อี้ก็รู้ดีว่าถ้าเขายอมแพ้ตอนนี้มีแต่ต้องรอความตายเท่านั้นจริง ๆ เขาปลุกใจตัวเองให้ฮึกเหิม ไป๋อี้อยากจะปีนขึ้นไปแต่ในเรื่องของศักยภาพทางร่างกายจริง ๆ แล้วไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ด้วยการเพิ่มพลังใจเท่านั้น ไป๋อี้เดินโซเซราวกับว่าพลังทั้งหมดในร่างกายเหือดหายไป ในเวลานี้หนวดที่อยู่ใกล้เขาที่สุดได้ม้วนตัวเข้ามาแล้ว
มาร์ตินผลักไป๋อี้อย่างแรงนั่นทำให้ไป๋อี้กลิ้งตัวออกไปทันที แต่ตัวมาร์ตินเองกลับถูกหนวดเส้นนี้ขดพันอย่างรุนแรงและลากจากทางด้านหลังออกไป
ไป๋อี้ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่รู้เลยว่ามาร์ตินจะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิตคนอื่นจริง ๆ
การพูดว่าจะสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ ก็ไม่อาจทำได้ การเลือกแบบทันทีทันใดนั้นเป็นการทดสอบสัญชาตญาณที่ลึกซึ้งที่สุดในจิตใจของมนุษย์
“Shit! …… แม่มันเถอะปล่อยสิ!” มาร์ตินชูมือทั้งสองข้างโบกไปมาเมื่อเขาถูกลากตัวกลับไป คำก่นด่าและเสียงกรีดร้องออกมาจากปากของเขาไม่ขาดสาย และเขาก็กำลังจะถูกจับใส่ปากอันใหญ่โตของมันที่ดูราวกับดอกเบญจมาศ
บัดซบ ……!
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของมาร์ติน ไป๋อี้ก็กัดฟันกรอด ๆ ในใจเขาราวกับว่ามีความสิ้นหวังอย่างหนักหน่วงที่ร่ำไห้โดยไม่มีเสียง เขาตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่งออกมา ทันใดนั้นกล้ามเนื้อทั่วร่างกายของไป๋อี้ก็เริ่มเต้นแรงและมีลวดลายสีที่เกิดจากการผสานรวมยีนของผีเสื้อปรากฏขึ้นบนใบหน้า มันขยายใหญ่ขึ้นถึงหนึ่งในสามของใบหน้า ในช่วงเวลาสั้น ๆ กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของไป๋อี้ก็เริ่มร้อนขึ้นอย่างรุนแรง นอกจากนี้อารมณ์ของเขาก็เกิดการปะทุขึ้น อารมณ์ที่รุนแรงในการทำลายทุกสิ่งกรีดร้องอยู่ในใจของไป๋อี้
ไป๋อี้เกลือกกลิ้งไปมาบนพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงหนวดอีกข้างที่ม้วนไปมา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและไล่ตามมาร์ตินไปทันที
เมื่อไป๋อี้พยุงร่างกายตัวเองลุกขึ้นมาเขาแทบจะล้มลงกับพื้นเมื่อเห็นมีดทำครัวตกอยู่ ไป๋อี้ฉีกผ้าพันแผลออกด้วยมือซ้ายจากนั้นก็คว้ามีดทำครัวเอาไว้ ในขณะเดียวกันมือขวาของไป๋อี้ก็จับที่เอวด้านหลังเช่นกัน
หนวดที่สะบัดไปมาพุ่งใส่ข้าง ๆ มาร์ติน ไป๋อี้ยกมือทั้งสองข้างขึ้น
มาร์ตินถูกหนวดม้วนตัวใส่จะเห็นได้ว่าท่าทีการแสดงออกของไป๋อี้ในตอนนี้นั้นน่ากลัวมาก นี่คือการแสดงออกที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถพบในยุคที่สงบสุขได้ นักแสดงในภาพยนตร์นั้นอ่อนแอมาก การต่อสู้ที่สิ้นหวังแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่นักแสดงสามารถแสดงออกมาได้แน่นอน
ผ้าพันแผลมือซ้ายของไป๋อี้ขาดวิ่น บาดแผลที่ไหล่ของเขาก็ปริแตกอีกครั้ง พร้อมเลือดที่กระเซ็นไปโดนใบหน้าของมาร์ติน
ในตอนนี้ไป๋อี้ใช้มีดทำครัวสองเล่มสับลงไปอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วมากจนมาร์ตินมองไม่เห็นแม้แต่เงาของมีดทำครัว
“มาให้ฉันหั่นซะ อ๊ากกกก!”
ไป๋อี้กัดฟันอย่างดุเดือดและเขาก็หั่นหนวดหมึกด้วยมีดทำครัวทั้งสองเล่มอย่างรวดเร็วราวกับเนื้อสับ มันสับโดนในจุดเดิมทุกครั้ง การหั่นด้วยความเร็วสูงแบบนี้แม้แต่หนังวัวก็ยังต้องเละเหมือนเนื้อ แม้ว่าผิวของตัวทากหนวดหมึกจะแข็งแกร่งและทรหดผิดปกติแต่มันก็ยังมีรอยแผล
หลังจากรอยแผลนี้ปรากฏ ไป๋อี้ก็เพิ่มความเร็วในการหั่นขึ้นและร่างกายภายในของตัวทากหนวดหมึกก็อ่อนยวบลงในที่สุด ไป๋อี้หั่นมันด้วยมีดทำครัวทั้งสองอย่างรุนแรง ส่งผลให้หนวดหนาของมันถูกเขาตัดออก ส่วนมาร์ตินยังคงอยู่ในความตกตะลึงและทรุดลงกับพื้น
“วิ่งสิ!” ไป๋อี้หันไปตะโกนอย่างบ้าระห่ำ
ด้วยเสียงตะโกนดังลั่นทำให้มาร์ตินกลับมามีสติและวิ่งตามไป๋อี้ไป
การที่ถูกไป๋อี้ตัดหนวดออกนั้น เป็นที่แน่นอนว่ามันส่งผลให้ตัวทากหนวดหมึกตัวนี้โกรธมากยิ่งขึ้น แต่ทว่ามันก็ยังไม่ถึงกับตาย มันละทิ้งจระเข้ก้ามปูยักษ์ไปโดยสิ้นเชิงและออกไล่ตามไปข้างหลังของไป๋อี้และมาร์ตินอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากการปะทะชั่วครู่ไป๋อี้ก็รู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น แม้ว่าเขาจะหนีไปแต่ขาของเขาก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น ในเวลานี้ตัวทากที่หนวดขาดไปข้างหนึ่งเริ่มโกรธมากขึ้น อีกทั้งความเร็วของร่างกายในการคืบคลานของมันเร็วขึ้นหลายเท่า
ถึงแม้โม่โม่จะไม่ค่อยเข้าใจอะไรแต่เธอก็ยังมองออกว่าพ่อของเธอตกอยู่ในอันตราย
“ชาร์ไป่ออกไปช่วยพ่อ” โม่โม่บอกกับชาร์ไป่ที่อยู่ข้าง ๆ
“โฮ่ง ๆ~!” ชาร์ไป่เห่าตอบรับสองครั้งราวกับมันต้องการจะปฏิเสธเพราะไป๋อี้ขอให้มันปกป้องโม่โม่ นี่คือภารกิจของมัน
“ชาร์ไป่ฟังคำฉัน!” โม่โม่ตัวน้อยฟึดฟัด เธอกระทืบเท้าน้อย ๆ ลงบนพื้นสองครั้งแล้วพูดเสียงดัง ชาร์ไป่มองไปที่โม่โม่ ใบหน้าเล็ก ๆ ของโม่โม่แสดงออกถึงความโกรธอย่างจริงจัง
“ฉันจะซ่อนตัวให้ดีและฉันจะไม่เป็นอะไร”
ชาร์ไป่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ ของโม่โม่หดตัวอยู่ตรงมุม จากนั้นก็มองไปด้านข้างเห็นไป๋อี้นั้นตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย มันก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันและวิ่งออกไปทันทีด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
โม่โม่เป็นนายน้อยและไป๋อี้เป็นนายใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ในจุดใดชาร์ไป่ก็ต้องปกป้องพวกเขา นี่คือทัศนคติที่เรียบง่ายและมั่นคงของชาร์ไป่จากหัวใจของมันในฐานะ “สุนัข” สามปีที่แล้วชายหนุ่มและทารกเด็กหญิงตัวน้อยได้พบกันกับชาร์ไป่ พวกเขาได้สร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นที่ไม่อาจมลายลงได้
ไป๋อี้ที่เพิ่งระเบิดอารมณ์อย่างบ้าคลั่งแต่จู่ ๆ ก็อ่อนแอลง มาร์ตินช่วยไป๋อี้หนีอย่างลนลานแต่สถานการณ์ก็คับขันมากขึ้นเรื่อย ๆ มาร์ตินถึงกับยอมแพ้เมื่อเห็นหนวดขนาดใหญ่ของมันกำลังคืบคลานม้วนตัวเข้ามา
ท้ายที่สุดแล้ววันนี้ฉันต้องตายที่นี่แน่!
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่มาร์ตินถอดใจยอมแพ้นั่นเองก็มีเงาตะคุ่ม ๆ พุ่งเข้ามา ทันใดนั้นปากอันแหลมคมของชาร์ไป่ก็กัดเข้าที่หนวดขนาดใหญ่และในเวลาเดียวกันมันก็กระแทกหนวดไปอีกด้านหนึ่ง
ชาร์ไป่ล้มลงกับพื้นและส่งเสียงร้องอย่างเดือดดาล!
“บรู๊ววว ……!”
เมื่อมาร์ตินเห็นชาร์ไป่ทำให้เขามีความหวังอันริบหรี่ขึ้นมา ว่าแต่สุนัขตัวนี้ไม่ใช่สุนัขชาร์ไป่ที่ไป๋อี้พามาด้วยตลอดหรือนี่ มาร์ตินลุกขึ้นทันทีและช่วยพยุงไป๋อี้วิ่งไปข้างหน้า แน่นอนว่าข้างหลังของเขาทั้งสองนั้นมีชาร์ไป่ที่คอยขัดขวางตัวทากหนวดหมึกอย่างดุเดือดอยู่
ร่างกายของชาร์ไป่ยังคงกระโดดและวิ่งอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หลบหลีกหนวดมันก็พยายามหาโอกาสที่จะเข้ากัดเช่นกัน อย่างไรก็ตามผิวหนังบริเวณหนวดของทากนั้นมีความเหนียวมาก อีกทั้งมีเมือกที่ลื่นไหลจนแม้แต่เต่าฉลามยังไม่สามารถกัดมันได้ ยิ่งหากเป็รชาร์ไป่ด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ มันไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ กับตัวทากหนวดหมึกนี้ได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอจะถ่วงเวลาไว้ได้สักหน่อย
มาร์ตินวิ่งเร็วเกินไป ในเวลานี้เขาเตะอะไรบางอย่างเข้าแล้วก็ล้มลงกับพื้น ไป๋อี้ซึ่งได้รับการประคับประคองจากเขาก็กลิ้งไปบนพื้นสองตลบและชนเข้ากับรถ หัวของไป๋อี้ชนโดนสิ่ง ๆ หนึ่ง เขายังรู้สึกตัวอยู่เล็กน้อยและนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น ส่วนใบหน้าคว่ำลงกับพื้น ไป๋อี้ได้กลิ่นน้ำมันเบนซิน
น้ำมันเบนซิน!
ไป๋อี้มองดูเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่อีกที่และทันใดนั้นความคิดก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขาที่ยังมีอาการมึน ๆ อยู่
“มาร์ตินเปลื้องผ้า!” ไป๋อี้พูดขึ้นมาทันควัน
“อะไรนะไป๋อี้ ในเวลาแบบนี้นายต้องการทำอะไรอีก ฉันจะบอกให้นะฉันไม่ต้องการร่วมเพศ” แม้ว่ามาร์ตินจะพูดอย่างดื้อดึงไปอย่างนั้น แต่มือของเขาก็ไม่ชักช้า คำพูดของมาร์ตินเป็นเพียงการเย้ยหยันเท่านั้นและเขาก็รู้ดีว่าไป๋อี้จะไม่ขอให้เขาทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล
ในขณะนั้นเองชาร์ไป่ก็กระเด็นลอยไปในอากาศและตกลงมา บาดแผลจากกระสุนปืนแต่เดิมก็ฉีกขาด การเคลื่อนไหวของชาร์ไป่โซซัดโซเซเล็กน้อยซึ่งเป็นช่วงที่มันเคลื่อนไหวช้าลง ทันใดนั้นมันก็ถูกดึงด้วยหนวดของสัตว์ประหลาด
เมื่อได้ยินเสียงครวญครางของชาร์ไป่ ไป๋อี้ก็หันไปดูและทันใดนั้นก็ต้องพบกับภาพที่ชาร์ไป่ถูกพันด้วยหนวดหมึก
ชาร์ไป่!
ในขณะนี้แม้แต่โม่โม่ที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมยังลุกขึ้นยืน โม่โม่อยากออกไปข้างนอกแต่เธอยังจำสิ่งที่พ่อพูดไว้ได้และต้องซ่อนตัวไว้
ไป๋อี้ยังเพิกเฉยต่อเรื่องไร้สาระของมาร์ติน พลางคว้าเสื้อผ้าแช่ในถังน้ำมันที่แตก ไป๋อี้คว้าเสื้อผ้าที่แช่ในน้ำมันเบนซินแล้วรีบวิ่งไปที่หนวดปลาหมึกทันที ในเวลานี้ชาร์ไป่กำลังจะถูกพันม้วนส่งเข้าไปในปากดอกเบญจมาศของมัน
ต้องช่วยชีวิตเขากลับมา อย่างไรก็ต้องช่วยชีวิตเขากลับมาให้ได้
ไป๋อี้รีบวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เมื่อผ่านเปลวไฟที่ยังลุกโชนอยู่เขาก็แหย่เสื้อผ้าเข้าไปจนมันลุกเป็นไฟทันที ในตอนนี้เขาดูเหมือนกับพนักงานดับเพลิงเลยทีเดียว
ไป๋อี้รีบเข้าไปพันเสื้อผ้าที่ลุกเป็นไฟรอบ ๆ หนวดที่พันรอบตัวชาร์ไป่
แน่นอนว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ ตัวทากหนวดหมึกตัวนี้ก็ดิ้นไปมา หนวดของมันก็หดกลับอย่างรวดเร็ว มันเลิกสนใจชาร์ไป่ ทำให้ชาร์ไป่ล้มลงกับพื้น ร่างกายส่วนใหญ่ของชาร์ไป่ถูกดูดเลือดไปโดยที่ดูดจากหนวดหมึก แต่ก็ยีงดีกว่าการถูกกิน ในตอนนี้ผมของไป๋อี้และมือขวาที่สัมผัสน้ำมันยังคงลุกเป็นไฟ
ดับไฟต้องดับไฟ!
ไป๋อี้ไม่อยากกลายเป็นของปิ้งย่าง เขาจึงรีบมองไปรอบ ๆ และพบกับกระบะทรายอยู่ตรงหน้าไม่ไกล โดยไม่ได้มีความลังเลใด ๆ ไป๋อี้รีบวิ่งไปที่กระบะทรายจากนั้นก็ตะครุบมันทันที เขากลิ้งไปมาอย่างแรงและหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีเปลวไฟก็ดับลง ทั้งตัวของไป๋อี้ดำปี๋จนแทบมองรูปลักษณ์เดิมไม่ออก
“น่าเสียดายจริง ๆ ฉากที่คุณติดไฟเมื่อกี้นี้หล่อมาก!” มาร์ตินวิ่งไปดูเขามองไปที่ใบหน้าที่ยุ่งเหยิงและดำปี๋ของไป๋อี้พลางส่ายหัวและบ่นออกมา
————————
