meenovel - นิยาย pdf นิยายออนไลน์ หมีโนเวล นิยายจีนแปลไทย novel นิยายวาย
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Advanced
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Prev
Next

นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 14

  1. Home
  2. นายน้อยเจ้าสำราญ
  3. ตอนที่ 14
Prev
Next

ชวูชั่งหลายออกไปเป็นเวลานานยังมิกลับมา ผู้คนที่อยู่ในห้องนั้นพากันสงสัย เมื่อถามเสี่ยวเอ้อที่เข้ามารินชาจึงได้รู้ว่าต่งชูหลานและอาจารย์ฉินอยู่ด้านนอก

“เจ้าบอกว่า ฟู่เสี่ยวกวนแต่งกวีสดให้คุณหนูต่ง อีกทั้งยังได้รับคำชมจากอาจารย์ฉินงั้นหรือ?”

ผู้ที่ถามขึ้นคือ จางเหวินฮั่นลูกชายคนที่สองของจางเหลียง

ในมือเขาถือพัด สวมใส่ชุดขาว บัดนี้ลุกยืนขึ้นและขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

ผู้มีพรสวรรค์แห่งเมืองหลินเจียงทั้งสี่คน มีจางเหวินฮั่นเป็นผู้นำ ศักราชเซวียนลี่ที่เจ็ดได้รับคัดเลือกเข้าสอบเป็นจวี่เหริน ปีนี้ในเดือนเก้าเขาจะเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อไปสอบ การเดินทางมาครั้งนี้หนึ่งเพื่อส่งต่งชูหลาน สองนั้นเพื่อที่จะเดินทางไปเมืองหลวงพร้อมกับนาง

“คุณชาย คุณชายฟู่นั้นได้รับคำชมจากอาจารย์ฉินจริง ท่านอาจารย์พูดชมถึงสามครั้งติดกัน ข้าน้อยคิดทบทวนดูก็คงจะดีจริง ๆ อีกอย่าง……อาจารย์ฉินนัดคุณชายฟู่ว่าหากมีเวลาว่างให้ไปหาที่สำนักศึกษาหลินเจียง ข้าน้อยมิได้พูดปด ท่านหัวหน้าตระกูลชวูก็อยู่ที่นั่นด้วย”

จางเหวินฮั่นกางพัดออกเบา ๆ พลางขมวดคิ้วและโบกพัดไปมาเบา ๆ “เจ้าไปได้แล้ว”

เขามิได้ร้อนใจออกไป แต่กลับนั่งลง ทำให้บรรดาผู้ที่นั่งอยู่ด้วยล้วนประหลาดใจ คุณชายฟู่แห่งเมืองหลินเจียงนั้นเขารู้จัก แต่ทั้งสองไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

อีกคนหนึ่งเป็นลูกเศรษฐี อีกคนหนึ่งคือผู้มีพรสวรรค์ พวกเขาเสมือนบุคคลที่อยู่คนละโลก คนละทางกัน

ฟู่เสี่ยวกวนคือผู้ที่จะสืบทอดตระกูลเป็นพ่อค้าที่ดินรายใหญ่ ส่วนเขาจะเข้าไปรับราชการในวัง

เมื่อเดือนก่อนที่ฟู่เสี่ยวกวนได้ก่อเรื่องไว้นั้นโด่งดังไปทั่วหลินเจียง เขาเองก็รู้ดี เมื่อได้ยินเรื่องราวนี้เขายังยิ้มและพูดว่า “พวกคางคกขึ้นวอ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ! ”

จากนั้นเรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนถูกองค์รักษ์ของต่งชูหลานทำร้าย เขาเองก็มิได้ประหลาดใจ เนื่องจากเรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนทำนั้น ต่อให้ถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต เขาเองก็มิได้ประหลาดใจ

แต่ตอนนี้ในใจเขาเกิดความข้องใจขึ้นมา

ต่งชูหลานปฏิบัติต่อฟู่เสี่ยวกวนเช่นนั้น แล้วเหตุใดพวกเขายังนั่งด้วยกันได้ อีกทั้งฟู่เสี่ยวกวนยังแต่งกวีให้แก่ต่งชูหลานด้วย

นี่จึงจะเป็นต้นตอของปัญหา

ระยะเวลาที่ต่งชูหลานอยู่ในเมืองหลินเจียงนี้ ตัวเขาเองได้พยายามอย่างมากในการอยู่เป็นเพื่อนนาง สำหรับนิสัยของนางนั้น เขาพอรู้อยู่บ้าง

นอกจากพรสวรรค์ที่น่าทึ่งของต่งชูหลานแล้วนั้น นางก็เป็นสตรีธรรมดาทั่วไปไม่ต่างจากสตรีนางอื่น มีความรู้ความสามารถ และเป็นที่หมายปองของบรรดาบุรุษผู้มีความรู้

ส่วนฟู่เสี่ยวกวนนั้นนอกจากเงิน ก็มิได้มีอะไรดี

แต่วันนี้เขากลับแต่งกวีขึ้นมา!

อีกทั้งกวีบทนี้ยังได้รับคำชมจากอาจารย์ฉิน ซึ่งหมายความว่าเป็นกวีที่ดียิ่งนัก แต่คนที่เรียนไม่เก่งเช่นฟู่เสี่ยวกวน จะสามารถแต่งกวีเช่นนี้ได้เชียวหรือ?

แน่นอนว่าไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของฟู่เสี่ยวกวนเป็นแน่

เขาคงรู้ว่าต่งชูหลานจะมาที่หอหลินเจียงเพื่อจัดงานเลี้ยง และรู้ว่านางกำลังจะออกเดินทางไปจากหลินเจียง จึงได้จัดเตรียมบทกวีไว้ให้นาง ชัดเจนว่าเขามิได้แต่งเอง

เขาใช้วิธีการเช่นนี้ต่อต่งชูหลาน ดังนั้นหมายความว่าเขามิได้ถอดใจไปจากต่งชูหลาน ชายผู้นี้……เจ้าเล่ห์เสียจริง!

เขายิ่งจะต้องเปิดโปงความจริงนี้ให้ได้ ทำให้ฟู่เสี่ยวกวนอับอายขายหน้า ทำให้ต่งชูหลานมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา และไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกต่อไป

เป็นพ่อค้าที่ดินอยู่ดี ๆไม่ชอบ อยากแกล้งเป็นคนมีความรู้!

จางเหวินฮั่นรวบรวมเหตุผล และคิดแผนการที่จะจัดการได้สำเร็จ เขากระซิบกับหลิวจิ่งหาง หนึ่งในผู้มีพรสวรรค์

……

……

“เป็นเช่นนี้ ท่านแม่ได้ก่อตั้งยวี๋ฝูจี้ หลังจากที่นางได้จากไป ธุรกิจของยวี๋ฝูจี้ก็แย่ลงเรื่อย ๆ นี่คือสิ่งที่ข้าเองไม่ต้องการที่จะเห็น ดังนั้นจึงได้คิดค้นเหล้าขึ้นมา”

ฟู่เสี่ยวกวนไม่ปล่อยโอกาสในการโฆษณาเหล้าของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทราบถึงฐานะของอาจารย์ฉิน

“เหล้าตลาดทั่วไปนั้นไม่ได้มาตรฐาน หรือพูดได้ว่าชาวบ้านรู้แค่ว่าเหล้านั้นมีกลิ่นหอม แต่ดีขนาดไหนไม่มีใครกำหนด ข้าจึงตั้งข้อกำหนดของเหล้าขึ้นมา เพื่อใช้จำแนกระดับ”

“โดยทั่วไปแล้วจะเรียกว่าปริมาณความเข้มข้น แต่พวกเราจะเรียกมันว่าดีกรี ก็คือ เช่นเหล้าที่ยวี๋ฝูจี้เคยขายและเหล้าที่ร้านรวงในเมืองขายนั้น มี 15 ดีกกรี ส่วนเหล้าเซียงเฉวียนนั้น 32 ดีกรี แต่เหล้าเทียนฉุนมีปริมาณถึง 42 ดีกรี ส่วนเหล้าที่คุณหนูต่งดื่มที่เรือนซีซานนั้น 48 ดีกรี”

“แน่นอนว่าเหล้าที่มีคุณภาพดีย่อมมีผลผลิตที่น้อยกว่า และใช้วัตถุดิบในการผลิตที่มากกว่า เช่น เหล้าเซียงเฉวียนนั้น 1 ตำลึงมีต้นทุน 40 อีแปะ ส่วนเหล้าเทียนฉุนนั้นมีต้นทุนสูงกว่าถึงเท่าตัว” ไป๋ยู่เหลียนเหลือบมองฟู่เสี่ยวกวนแวบหนึ่ง

“แพงเช่นนี้เชียวหรือ?” อาจารย์ฉินขมวดคิ้วถาม

“หึหึ แม้จะมีราคาแพง แต่ข้ามั่นใจว่าใครที่ได้ดื่มเหล้าของข้าเข้าไปแล้ว จะไม่อยากดื่มเหล้าอื่นอีกเลย แต่แน่นอนว่าเหล้าของหยู๋ฝูจี้นั้นมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป เช่น เถ้าแก่ชวูหรืออาจารย์ฉิน อีกอย่างกำลังการผลิตของพวกเรานั้นก็ต่ำมาก ทางเราจะทำการตัดสินใจในภายหลัง แต่เหล้าเซียงฉุนนั้นกำหนดให้ซื้อได้วันละ 5 ตำลึงต่อหนึ่งคน ส่วนเหล้าเทียนฉุนนั้นกำหนดวันละ 3 ตำลึง”

ต่งชูหลานเมื่อฟังจบจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “มีเหตุผลที่มิให้ผู้ซื้อ ซื้อในปริมาณมากไหม?”

“เหล้านั้นอาจมีรสดี แต่ไม่ควรดื่มมากเกินไป อีกอย่างปริมาณในการผลิตในแต่ละวันไม่มากนัก หากเถ้าแก่ชวีซื้อไปหมดแล้ว อาจารย์ฉินจะทำอย่างไร?”

อาจารย์ฉินหัวเราะขึ้น ชวีซั่งหลายไม่เห็นด้วย เขาเอ่ยว่า “หากเหล้าเทียนฉุนของเจ้านั้นมีรสดี ข้าจะซื้อมาลองชิมดูแน่ แต่หากผิดหวังละก็ ปากข้านี้คงไม่ไว้หน้าผู้ใด”

“เถ้าแก่ชวีวางใจได้ หากสู้เหล้าเซียงเทียนไม่ได้ ท่านเชิญมาทุบร้านข้าได้เลย”

คำพูดนี้ช่างหนักแน่นนัก ทำให้เถ้าแก่ชวีตกตะลึง……หรือว่าเขาจะรู้สูตรลับของเทียนเซียงงั้นหรือ?

ทันใดนั้นชวูชั่งหลายก็นึกขึ้นมาได้ว่าในห้องเทียนจื่อหมายเลขหนึ่งนั้นยังมีบุคคลอื่นรออยู่ จึงโค้งคำนับแล้วเอ่ยว่า “คุณหนูต่ง อาจารย์ฉิน พวกข้าได้จัดเตรียมงานเลี้ยงให้แก่ท่านทั้งสอง บัดนี้เป็นเวลาอันสมควรแล้ว ท่านทั้งสองจะ……”

ต่งชูหลานลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับฟู่เสี่ยวกวนว่า “อย่าลืมให้คนนำเหล้านั่นมาให้ข้าด้วย”

“แน่นอน! ในเมื่อท่านทั้งสองมีนัด ตัวข้าเองก็คงต้องไปก่อน ก่อนที่เหล้าหยู๋ฝูจี้จะส่งไปขายสู่ตลาดนั้น ข้าจะส่งไปให้ท่านอาจารย์ฉินลิ้มรสเช่นกัน”

“ตกลงตามนี้”

อาจารย์ฉินและต่งชูหลานเดินตามชวูชั่งหลายเข้าไป ต่งชูหลานมิได้เอ่ยชวนฟู่เสี่ยวกวนให้เข้าไปด้วย ไม่ทราบว่าด้วยความตั้งใจ……หรือลืมกันแน่

ไป๋ยู่เหลียนหัวเราะขึ้น “ข้าคงประเมินเจ้าต่ำเกินไป ช่างมีความสามารถในการพูดนัก”

“ข้ามิได้พูดปด ……น่าเสียได้ที่รู้จักสถานะของอาจารย์ฉินช้าไปเสียหน่อย แต่ไม่เป็นไร เขาเชิญข้าไปที่สำนักศึกษาหลินเจียงมิใช่หรือ รอให้ขวดผลิตเสร็จเรียบร้อย ข้าจะนำเหล้าไปเยี่ยมเขา……ตัวเขามีชื่อเสียงด้านวรรณกรรมมากมาย และคนในวงการวรรณกรรมนี้ หากต้องการแต่งกวีดี ๆ ก็ย่อมขาดเหล้าย้อมใจไม่ได้ บัณฑิตนั้นมีเงิน แม้จะไม่มีเงินก็สามารถหยิบยืมผู้อื่นมาซื้อจนได้”

“เพราะเหตุใดกัน?” ชุนซิ่วถามขึ้น

“เพราะบัณฑิตเป็นผู้รักหน้าตา เขาต้องรักษาหน้าตัวเอง”

เสี่ยวเอ้อนำอาหารมาวาง ทั้งสามคนกินดื่มและเจรจากันอย่างสนุกสนาน สายลมอุ่น ๆ โบกพัดมา ช่างน่ายินดีเสียจริง

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ทั้งสามคนก็กินดื่มกันเรียบร้อยและเตรียมตัวเดินทางกลับ แต่คาดไม่ถึงว่าประตูห้องเทียนจื่อหมายเลขหนึ่งจะถูกเปิดออก ชวูชั่งหลายเดินออกมาจากประตู

“คุณชายฟู่ ช้าก่อน คือเรื่องเป็นเช่นนี้ เรื่องพ่อค้าหลวงนั้นได้กำหนดเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณหนูต่งจะออกเดินทางกลับเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น ท่านจางท่านหลิ่วท่านหวงอีกทั้งตัวข้า และเจ้าของร้านค้าข้าวรายใหญ่ทั้งสาม จะเดินทางไปส่งคุณหนูต่งด้วย”

“เมื่อครู่พวกเราได้เอ่ยถึงความสามารถด้านกวีของท่าน และกวีนั้นช่างงดงามนัก เพียงแต่กวีนี้ท่านแต่งให้คุณหนูต่ง คุณหนูมิประสงค์ให้นำมาชื่นชม ความหมายของพวกข้าคือ……ขอเชิญคุณชายฟู่เข้าไปด้านใน หนึ่งเพื่อทำการเลี้ยงส่งให้แก่คุณหนูต่ง สองนั้น……ช่วยเพิ่มสีสันให้แก่พวกเรา เป็นเยี่ยงไร?”

ฟู่เสี่ยวกวนยิ้ม แล้วตอบว่า “ข้าคงไม่เข้าไปแล้ว……รบกวนท่านเถ้าแก่ชวีเข้าไปบอกแทนข้าว่า คำชวนของท่านทั้งหลายนั้นข้าซาบซึ้งในน้ำใจนัก และอวยพรให้คุณหนูต่งเดินทางปลอดภัย ตัวข้ามีธุระอื่นต้องไปจัดการ คงต้องขอตัวก่อน เมื่อเหล้าใหม่ของยวี่ฝูจี้วางขายแล้ว ข้าจะเรียนเชิญพวกท่านมาร่วมสนุกกัน”

เขาเดินออกไป ชวูชั่งหลายสะบัดแขนเสื้อ สีหน้าไม่พอใจนักแล้วหันหลังกลับไปยังห้อง จางเหวินฮั่นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็คาดเดาไว้แล้วว่าอาจจะเป็นเช่นนี้

หากฟู่เสี่ยวกวนนั้นฉลาด เขาคงไม่เข้ามาเนื่องจากบทกวีนั้นเขาได้มอบให้ต่งชูหลานเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำตามแผนจนสำเร็จ และไม่มีความจำเป็นใดที่จะเข้ามาให้ผู้อื่นเยาะเย้ย

จางจือเช่อตบบ่าชวูชั่งหลาย แล้วยิ้มว่า “เหตุใดจึงต้องอารมณ์เสียด้วยเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ ฟู่ต้ากวนคือผู้มีชื่อเสียง พวกท่านทั้งหลายในที่นี้คงเห็นตรงกัน ส่วนบุตรชายของเขานั้นก็มีชื่อเสียงในเมืองหลินเจียงเช่นกัน……เราไม่ควรเอ่ยถึงผู้อื่นลับหลัง พวกเรามาดื่มกันให้สนุก อย่าให้เสียบรรยากาศ”

หลังจากการดื่มด่ำอย่างสนุกสนาน หลิวจิ่งหางบุตรชายของหลิวยุ่นเฉิงก็เอ่ยด้วยความเมาว่า “ฟู่เสี่ยวกวนคนนี้ ผู้มีความสามารถเช่นนั้น พวกเราไม่ควรไปคบค้าพูดคุยด้วย แต่เรื่องที่เขากระทำนั้นข้าก็ได้ยินมามาก แต่ไม่เคยได้ยินว่าเขาแต่งกวีได้ พวกท่านคิดดูเถิด ว่าคุณชายที่ชื่นชอบหอนางโลม และมีตำแหน่งซิ่วไฉ อีกทั้งได้ยินว่าใช้เงินซื้อมา อยู่ดี ๆ จะแต่งกวีขึ้นมาได้อย่างไร อีกทั้งยังได้รับคำชื่นชม เป็นไปไม่ได้เลย!”

“ถ้าเช่นนั้นท่านหมายถึง……..”

“ข้าน้อยหมายถึง บทกวีที่เขามอบให้คุณหนูต่งนั้น……เขาอาจจะไหว้วานผู้อื่นประพันธ์ให้ เขาใช้วิธีนี้กับคุณหนูต่ง ช่างน่าลงโทษนัก……!”

คำพูดนี้หนักแน่น จางเหวินฮั่นโบกพัดของเขายิ้มอยู่ในใจ

อาจารย์ฉินและต่งชูหลานขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินหลิวจิ่งหางเอ่ยว่า “พวกท่านลองครุ่นคิดดูเถิด หากเขามีความสามารถจริง ๆ คงจะเข้ามาแต่งกวีให้พวกเราสักบท หนึ่งเพื่อปกป้องชื่อเสียงตน สองเพื่อให้พวกเราชื่นชม ช่างเป็นโอกาสดีนัก แต่เขากลับไม่เข้ามาด้วยเหตุใด? เนื่องจากในใจเขารู้ดี นอกจากคัดลอกกวีผู้อื่นแล้ว เขาคงทำอะไรไม่เป็น!”

ผู้อื่นเริ่มเห็นด้วยกับความเห็นของเขา

ต่งชูหลานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จึงได้หยิบกระดาษสองแผ่นออกมา

นางเอ่ยอย่างเรียบ ๆ ว่า “หากฟู่เสี่ยวกวนเป็นอย่างที่ท่านเอ่ย เชิญพวกท่านทั้งหลายชมสิ่งนี้”

นางส่งไปให้หลิวจิ่งหาง แล้วเอ่ยว่า “กวีสองบทนี้ ฟู่เสียวกวนแต่งขึ้นในวันตวนอู่ พวกท่านทั้งหลายลองดูว่าเป็นเช่นไร”

จางเหวินฮั่นขมวดคิ้ว หลิวจิ่งหางรับกระดาษไป

“บทกวีทิศใต้·ดวงจันทร์แห่งเจียงหนาน

ดวงจันทร์แห่งเจียงหนาน ทอแสงนวลมาที่ซีโหลว

เมื่อเมฆจางหาย

เผยให้เห็นเสี้ยวหยกที่แดนไกล

จากกลมเป็นเสี้ยวมิได้เปลี่ยนแปลง

……

ติดตามต่อได้ที่ meenovel.com

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 14"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

YOU MAY ALSO LIKE

eftgrf
เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม?
3 เมษายน 2023
hnghf
World of Hidden Phoenixes
23 ธันวาคม 2022
gbrg
ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ
31 ธันวาคม 2022
ythegdbf
พลิกปฐพี
2 ธันวาคม 2022
ads

    © 2017 Madara Inc. All rights reserved