meenovel - นิยาย pdf นิยายออนไลน์ หมีโนเวล นิยายจีนแปลไทย novel นิยายวาย
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Advanced
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Prev
Next

นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 769

  1. Home
  2. นายน้อยเจ้าสำราญ
  3. ตอนที่ 769
Prev
Next

ตอนที่ 769 กองทัพสวรรค์ฆาต

เยี่ยนเป่ยซีเดินทางออกจากห้องทรงพระอักษรไปแล้ว

บนใบหน้าของชายชราปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ ประดับไว้อยู่

แสงแดดที่ตกกระทบร่างส่งผลให้เขารู้สึกว่ายามนี้มันช่างอบอุ่นและรู้สึกสบายตัวมากยิ่งนัก

ฮ่องเต้มิได้แสดงความคิดเห็นที่ชัดเจน ทว่าก็ได้แสดงท่าทีออกมาแล้ว

เยี่ยงนี้ก็ดีเหลือเกิน

ข้าคงต้องถอยแล้ว เพราะหากยังมิถอย…ก็เกรงว่าจะมิทันการ !

สถานการณ์ในตอนนี้ เยี่ยนเป่ยซีมองได้ทะลุปรุโปร่งกว่าผู้ใด

การจากไปของฟู่เสี่ยวกวนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ อีกทั้งฮ่องเต้ยังมีทัศนคติที่มิดีต่อการจากไปของฟู่เสี่ยวกวน

เห็นได้ชัดจากการปล่อยตัวฉินฮุ่ยจือ !

นอกจากนี้ฝ่าบาทยังปฏิเสธการเสนอชื่อ… ชื่อหลางฝ่ายขวากรมคลังของต่งคังผิงไปแล้ว จากนั้นก็ได้โยกย้ายฉางฮวนเสนาบดีกรมจือเจ้าแห่งหางโจวกลับเข้าวังหลวง

เมื่อครึ่งปีหลังของปีที่แล้วดูเหมือนว่าภายในราชสำนักจะมีอยู่หลายตำแหน่งที่ถูกโยกย้ายและถูกปลดลง มิได้ดูผิดปกติหรือผิดสังเกตแต่อย่างใด แต่จะรอดพ้นดวงตาอันเปี่ยมประสบการณ์ของเยี่ยนเป่ยซีไปได้เยี่ยงไร

เมื่อคนเก่าหลุดออกไปแล้วก็ต้องวางตัวผู้รับช่วงต่อ

อย่างเช่นกรมการค้าที่ตอนนี้ที่มีรองหัวหน้ามาเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งก็คือหยวนซีชิงอดีตเสมียนของสำนักตรวจสอบพระราชโองการ

ส่วนกรมกลาโหมก็มีชื่อหลางคนใหม่เข้ามาแทนที่เช่นกัน ชื่อหลางที่มาใหม่ผู้นี้เคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเผิงเฉิงอู่ในกองทัพชายแดนเหนือ โดยรับตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการ

เหมือนจะธรรมดา แต่ก็มิธรรมดา

เยี่ยนเป่ยซีเชื่อว่าฟู่เสี่ยวกวนต้องมีหนทางหนีที่ปลอดภัยให้แก่ตระกูลเยี่ยนและตระกูลต่งอย่างแน่นอน ทว่าเขาก็อยู่บนเส้นทางนี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปี จึงมิสามารถปล่อยให้ชะตากรรมของผู้คนหลายร้อยคนในตระกูลเยี่ยนต้องมาตกอยู่ในมือของฟู่เสี่ยวกวน

ดังนั้นเขาจึงต้องปลีกตัวออกมา และยืนอยู่ด้านนอกกระดานหมากนี้ ต้องอยู่ในสถานที่ที่มิมีผู้ใดสนใจเพื่อหาทางออกให้แก่ตระกูลเยี่ยน

ทว่าเส้นทางล่าถอยนี้มิใช่การยอมจำนนต่อราชวงศ์หยู และมิสามารถพึ่งพาราชวงศ์อู๋ได้ทั้งหมด แต่เป็น…แคว้นฝาน !

แน่นอนว่ามิมีผู้ใดทราบว่าในขณะที่เซวี๋ยติ้งชานกำลังก่อกบฏ ผู้ที่ปล่อยให้ตระกูลเซวี๋ยและตระกูลสีหนีไปได้ก็คือเยี่ยนเป่ยซี !

……

……

หยูเวิ่นเต้าต้มชาขึ้นมา 1 กา

เขารินชาถวายฮ่องเต้หนึ่งถ้วย จากนั้นก็ทูลว่า “ยามที่ลูกอยู่ที่ภูเขาเฟิ่งหลินก็ได้ไปเยือนสำนักศึกษาซีซานอยู่หลายคราและได้เล่นหมากรุกกับอาจารย์ฉินปิ่งจงอยู่บ่อยคราด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังได้สนทนากันมากมาย หนึ่งในนั้นก็ได้เอ่ยถึงฉินฮุ่ยจือผู้นี้ด้วย…”

ฮ่องเต้ยกชาขึ้นมาจิบเบา ๆ อืม…ใช้เวลาต้มนานไปหน่อยจึงมีรสค่อนข้างขม “ฉินปิ่งจงประเมินฉินฮุ่ยจือไว้เยี่ยงไรบ้าง ? ”

หยูเวิ่นเต้าส่ายศีรษะ “อาจารย์ฉินเอ่ยว่า… ตนอยู่เบื้องหลังขอมิเอ่ยว่าถูกหรือผิดพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้วางถ้วยชาลงจากนั้นก็แย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย “ความหมายของเขาก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าเขามิได้สนใจหลานชายผู้นั้นของตน”

“ดังนั้นลูกจึงคิดว่าในเวลานี้ราชวงศ์หยูก็สงบสุขดี ยังมีว่อเฟิงเต้าที่ฟู่เสี่ยวกวนสร้างไว้เป็นแบบอย่างเพื่อให้อีก 13 มณฑลที่เหลือได้เรียนรู้ตามไปก็พอ… ต่อจากนี้ราชวงศ์หยูควรให้ความสำคัญต่อการบริหาร ความมั่นคงและการป้องกันพ่ะย่ะค่ะ

แม้ว่าอัครมหาเสนาบดีเยี่ยนจะเสนอชื่อของฉินฮุ่ยจือ แต่ลูกก็ยังคิดว่าเยี่ยนซือเต้าเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่าฉินฮุ่ยจือพ่ะย่ะค่ะ”

หยูเวิ่นเต้ามิได้ทูลว่าความภักดีที่ตระกูลเยี่ยนมีต่อราชวงศ์หยูก็เป็นที่ประจักษ์กันดี เนื่องจากคำกล่าวขานที่ว่าหนึ่งตระกูลสามชั่วโคตรเดิมทีก็เป็นเสด็จแม่ที่ตรัสขึ้นมาเองเช่นกัน

แน่นอนว่า เขายังมิทราบว่าที่ฮองเฮาซั่งเผยแพร่เรื่องหนึ่งตระกูลสามชั่วโคตรให้ทราบโดยทั่วกันก็เพื่อปรามตระกูลเยี่ยน

ฮ่องเต้หลุดพระสรวลออกมาเล็กน้อย ทรงทอดพระเนตรใบหน้าของหยูเวิ่นเต้า บุตรชายที่เรียนวรรณกรรมมิดีแต่เรียนวรยุทธ์เก่งผู้นี้ได้รับการฝึกฝนร่วมกับทหารดาบเทวะมา 1 ปี คาดว่าคงจะฝึกจนได้แววตาที่มองทะลุออกมาหนึ่งคู่

ฝ่าบาทย่อมทราบว่าเยี่ยนซือเต้านั้นเหมาะสมยิ่งกว่าฉินฮุ่ยจือ ทว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้จึงมิสามารถเลือกเยี่ยนซือเต้าให้เป็นอัครมหาเสนาบดีได้

ดังนั้นฮ่องเต้จึงมิได้ปรึกษาปัญหานี้กับหยูเวิ่นเต้า แต่กลับตรัสถามว่า

“การประชุมใหญ่ราชวงศ์ในวันพรุ่งนี้ พ่อจะแต่งตั้งเจ้าเป็นองค์รัชทายาท เดิมทีพ่อตั้งใจให้เจ้ามาลองบริหารบ้านเมืองและศึกษาวิธีการปกครอง แต่ตอนนี้พ่อมีเรื่องสำคัญอื่นจะมอบให้เจ้าไปจัดการ”

หยูเวิ่นเต้ายกมือคำนับ “ลูกน้อมรับบัญชาของเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ! ”

ฮ่องเต้เงยพระพักตร์ขึ้นมา พระขนงขมวดเล็กน้อย ดวงพักตร์ก็พลันเคร่งขรึม

“กำลังรบของทหารดาบเทวะ เจ้าน่าจะรู้ดีกว่าพ่อ”

“ตอนนี้ฟู่เสี่ยวกวนเรียกรวมทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งจำนวน 30,000 นายเพื่อให้ออกไปจากภูเขาเฟิ่งหลินและตรงไปยังด่านภูเขาเยี่ยน…”

หยูเวิ่นเต้าตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด มิใช่ ! ฟู่เสี่ยวกวนมิได้เอ่ยว่าจะให้ทหารดาบเทวะ 30,000 นายไปทำถนนที่ว่อเฟิงเต้าหรอกหรือ ?

เหตุใดจึงไปยังด่านภูเขาเยี่ยนได้กัน ?

“เมื่อปีก่อน พ่อได้สนทนากับฟู่เสี่ยวกวนหนึ่งครา เขากล่าวว่า… เขาจะใช้ทหาร 30,000 นายไปสร้างผืนปฐพีที่กว้างใหญ่ให้แก่ราชวงศ์หยู ! ”

หยูเวิ่นเต้ารู้สึกไม่ดีไปทั้งร่าง ให้ตายเถิดฟู่เสี่ยวกวน เห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการไปยึดแคว้นฮวง เจ้าหลอกข้า… !

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรสีหน้าตื่นตกใจของหยูเวิ่นเต้า จากนั้นก็ตรัสพร้อมรอยแย้มพระโอษฐ์ขึ้นมาว่า “มิเชื่อใช่หรือไม่ ? ทว่าพ่อเชื่อเขา บางทีเขาอาจจะทำได้จริง ๆ ดังนั้นพ่อจึงมอบราชโองการให้เผิงเฉิงอู่หนึ่งฉบับว่าให้ร่วมมือกับฟู่เสี่ยวกวนสู้รบกับชาวฮวง”

“ที่พ่อกล่าวกับเจ้าเยี่ยงนี้เพราะต้องการให้เจ้าเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของกองทัพว่ามีความสำคัญต่อราชอาณาจักรถึงเพียงใด ! ”

“ตั้งแต่ทหารดาบเทวะถือกำเนิดขึ้นมา การต่อสู้ระหว่างจอมโจรกงเซินจ่างที่ภูเขาผิงหลิง สงครามระหว่างทัพกบฏ 150,000 นายของสีฮวาที่ด่านชีผาน ณ ฉินหลิงเมืองเจี้ยนเหมิน สงครามระหว่างทัพกบฏ 150,000 นายของเซวี๋ยติ้งชานที่ภูเขาหมิน สงครามระหว่างจอมยุทธ์ชุดดำของฮุ่ยชินอ๋อง และสุดท้ายสงครามระหว่างลัทธิจันทราในภูเขาหมินอันลึกลับ…”

ฮ่องเต้ทอดถอนพระทัยออกมาเสียยาวเหยียด จากนั้นก็ตรัสด้วยความปลงอนิจจัง “ทุกสงครามไร้พ่ายโดยสิ้นเชิง ! กองทัพที่แข็งแกร่งเยี่ยงนี้ พ่อขอเอ่ยถามเจ้าว่า… เจ้ากลัวหรือไม่ ? ”

ดวงตาของหยูเวิ่นเต้าพลันเบิกกว้าง หลังจากนั้นก็ส่ายหน้าไปมาช้า ๆ “ลูกมิกลัว เพราะนี่คือกองทัพของราชวงศ์หยู นี่มิใช่ว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”

ฝ่าบาทกระตุกยิ้มมุมพระโอษฐ์ ทอดพระเนตรใบหน้าของหยูเวิ่นเต้าแน่นิ่ง “เจ้าคือผู้ครองผืนปฐพีในภายภาคหน้าของราชวงศ์หยู เจ้าลองใคร่ครวญดูอีกคราว่าทหารดาบเทวะนี้เป็นกองทัพของราชวงศ์หยูจริงหรือไม่ ? ”

หยูเวิ่นเต้าตกตะลึงไปชั่วครู่ เขานึกไปถึงฉากที่ภูเขาเฟิ่งหลินที่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง… ฟู่เสี่ยวกวนใช้ธงและบทเพลงกองทัพมาทำให้ทหารดาบเทวะ 30,000 นายฮึกเหิมขึ้นมา อีกทั้งยังสวามิภักดิ์ต่อฟู่เสี่ยวกวน

ดังนั้น… ท้ายที่สุดกองทัพนี้มีเพื่อฟู่เสี่ยวกวนหรือเพื่อราชวงศ์หยูกันแน่ ?

หากราชวงศ์หยูต้องการเคลื่อนพลกองทัพนี้ พวกเขาจะฟังคำสั่งจากราชสำนักหรือไม่ ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยูเวิ่นเต้าก็พลันตกตะลึงงันขึ้นมาทันใด ดังนั้นที่ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยว่าเสด็จพ่อของเขาต้องการสร้างทหารที่แข็งแกร่งเยี่ยงทหารดาบเทวะจำนวน 100,000 นาย เพื่อเตรียมป้องกันทหารดาบเทวะเยี่ยงนั้นหรือ ?

ฟู่เสี่ยวกวนรู้ดีแต่กลับมิลงมือทำอันใด… เขาเลือกที่จะจากไป เพราะมิใส่ใจต่อเรื่องนี้เยี่ยงนั้นหรือ ?

“ลูกรู้สึกว่าจิตใจอันซื่อสัตย์ที่ฟู่เสี่ยวกวนมีต่อราชวงศ์หยู… ฟ้าดินสามารถรับรู้ได้ ! ”

“ถ้าเช่นนั้นพ่อขอเอ่ยถามเจ้าสักหน่อย แล้วฟู่เสี่ยวกวนในอีกหนึ่งร้อยปีให้หลังเล่า ? ”

หนึ่งร้อยปีให้หลังเยี่ยงนั้นหรือ ?

หยูเวิ่นเต้าครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน ด้วยความสามารถของฟู่เสี่ยวกวนจะต้องก่อกำเนิดราชวงศ์อู๋ที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน ฟู่เสี่ยวกวนที่ได้ควบคุมเรือลำใหญ่เยี่ยงราชวงศ์อู๋ย่อมมิมีปัญหาอันใดเกินขึ้นเป็นแน่ ทว่าหากเปลี่ยนผู้คุมหางเสือ… ราชวงศ์หยูควรจะเผชิญหน้าเยี่ยงไรดี ?

“ฟู่เสี่ยวกวนเดินทางไปเขตเหนือโดยเขาต้องการยึดครองแคว้นฮวง แต่เจ้าควรรู้ไว้ว่าราชวงศ์อู๋ได้รวบรวมทหาร 200,000 นายไว้ที่ชายแดนระหว่างแคว้นอู๋และแคว้นอี๋ ! อู๋ต้าหลางมิใช่คนที่ชอบใช้ความคิด และโดยพื้นเพพ่อก็มั่นใจว่าเป็นแผนการของฟู่เสี่ยวกวน ! ”

หยูเวิ่นเต้าทูลถามด้วยความตื่นตกใจ “สงครามทั้งสองสถานที่มีความเชื่อมโยงเยี่ยงไรพ่ะย่ะค่ะ ? ”

“จงดูแผนที่ให้มากขึ้น เจ้าต้องเป็นเหมือนฟู่เสี่ยวกวนให้ได้คือสลักแผนที่เอาไว้ในหัว ! ”

หยูเวิ่นเต้าหน้าแดงเล็กน้อย ฝ่าบาทยังตรัสอีกว่า “ตอนนี้พ่อเชื่อว่าไป๋ยู่เหลียนถูกฟู่เสี่ยวกวนย้ายไปยังราชวงศ์อู๋แล้ว ตอนนี้เขาก็ได้ฝึกกองทัพทหารดาบเทวะที่มีจำนวนและความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นออกมา ! ”

หยูเวิ่นเต้าตกตะลึงจนอ้าปากค้าง พระพักตร์ของฮ่องเต้ก็เคร่งเครียดมากยิ่งขึ้น

“ทหารดาบเทวะ 30,000 นายไปตีแคว้นฮวง กองทัพชายแดน 200,000 นายของราชวงศ์อู๋ไปบุกแคว้นอี๋… และยังมีกองทัพลึกลับที่ยังมิมีผู้ใดทราบอยู่อีก 1 กอง ! ”

“ที่น่ากลัวที่สุดคือกองทัพนี้ พ่อกังวลเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะปรากฏตัวที่ผืนปฐพีของราชวงศ์หยูอย่างกะทันหัน ! ”

“หากมียักษ์อยู่ในมือ 100,000 ตน ผู้ใดจะสามารถหยุดราชวงศ์หยูได้ ! ”

“ดังนั้นเจ้าต้องรีบใช้ความสามารถทั้งหมดฝึกฝนกองทัพเยี่ยงนี้ขึ้นมาโดยให้มีนามว่า… กองทัพสวรรค์ฆาต ! ”

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 769"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

YOU MAY ALSO LIKE

g5rthgytg
เจ้าสาวหลงยุค
11 มีนาคม 2023
7uytrg
Red Packet Server
28 พฤศจิกายน 2022
yjhrtxdxs
The Novel’s Extra
26 ธันวาคม 2022
tgwf
Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย!
20 ธันวาคม 2022
ads

    © 2017 Madara Inc. All rights reserved