ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน - ตอนที่ 18

หนิงเมิ่งเหยาสอนทักษะต่างๆ ให้กับหยางซิ่วเอ๋อร์ไปไม่น้อย แต่ผลงานของนางยังคงแข็งทื่อ และไร้ชีวิตชีวา หากท่านป้าลั่วรับซื้อชิ้นงานเหล่านั้นอย่างเต็มใจก็คงจะแปลก
ต่างจากหยางเล่อเล่อผู้มีพรสวรรค์อย่างมาก หากนางได้รับการสอนมากกว่านี้ ก็จะสามารถปักเย็บได้อย่างช่ำชองขึ้น และนั่นคือประเด็นที่ท่านป้าลั่วให้ความสำคัญ นอกจากจะเห็นแก่หน้าของหนิงเมิ่งเหยาแล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นผลดีต่อเด็กสาวเองอีกด้วย
หลังจากหยางเล่อเล่อได้ฟังคำตอบของหญิงสาวก็หัวเราะลั่น เพราะหยางซิ่วเอ๋อร์มักบอกว่างานปักผ้าของนางนั้นดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ และไม่เคยคาดคิดว่าเมื่อเหยาเหยาเห็นงานของนางแล้ว จะรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรดีเลย
จากนั้นสองสาวเพื่อนรักจึงเดินจากไป โดยไม่รู้เลยว่าหยางซิ่วเอ๋อร์นั้นกำลังนำงานปักผ้าของนางไปยังหอลั่วหยุนและตั้งใจจะอ้างชื่อหนิงเมิ่งเหยาเพื่อจะขายงานของตน
แต่นางไม่นึกไม่ฝันว่าท่านป้าลั่วจะตำหนิว่างานปักผ้าของนางนั้นช่างไร้ค่า และให้นำงานของนางไปขายที่ร้านอื่น
ท่านป้าลั่วมองดูหยางซิ่วเอ๋อร์จากไป ‘เหมือนว่าเมื่อก่อนจะเคยเห็นหญิงสาวผู้นี้มากับหนิงเมิ่งเหยา และเคยคิดว่าหนิงเมิ่งเหยาจะแนะนำให้รู้จัก แต่ก็เปล่า นอกจากนี้งานปักเย็บของนางผู้นั้นยังไม่มีอะไรดีพอจะให้รับซื้อได้เลย’
นางน่าจะเรียนรู้วิธีการปักเข็มเย็บผ้าเช่นนั้นมาจากหนิงเมิ่งเหยา แต่ทว่ามันกลับแข็งทื่อ ไม่ลื่นไหล เทียบชั้นกับของหยางเล่อเล่อไม่ได้เลย
หลังจากหยางเล่อเล่อได้รับเงินมา นางก็มีความสุขอย่างยิ่ง จึงเอ่ยชวนหนิงเมิ่งเหยาไปทานอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน
ในที่สุด ทั้งคู่ก็ตัดสินใจทานอาหารที่ร้านข้างทางร้านหนึ่งจนหมดเกลี้ยง รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว
“เหยาเหยา เจ้ามีอะไรต้องซื้อเพิ่มเติมอีกหรือไม่”
“ข้าต้องการเส้นก๋วยเตี๋ยวน่ะ พอดีว่าที่บ้านไม่มีเหลือแล้ว” หญิงสาวอยู่คนเดียวตามลำพัง ดังนั้นทุกๆ ครั้ง นางจึงซื้อของเข้าบ้านไม่มากนัก ทำให้ต้องออกมาซื้อข้าวอยู่บ่อยๆ
“ถ้าเช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”
พวกนางมายังร้านขายข้าว และซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวจำนวนเก้าจิน [1]จากนั้นจึงเลือกซื้อเนื้อหมูรวมถึงกระดูกชิ้นโต
“เจ้าซื้อกระดูกนี่มาทำไมรึ มันไม่มีเนื้อติดมาเลยนะ” หยางเล่อเล่อมองดูชิ้นกระดูกในมือของหนิงเมิ่งเหยาอย่างไม่เข้าใจ ‘เหตุใดนางจึงต้องเสียเงินกับการซื้อกระดูกนั่นด้วย ที่คนอื่นๆ ซื้อก็เพื่อจะนำไปให้สุนัขของตนก็เท่านั้น’
หญิงสาวกระซิบตอบด้วยเสียงแผ่วเบา จนหยางเล่อเล่อมองนางด้วยดวงตาเบิกกว้าง “จริงหรือนี่”
“จริงสิ ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน”
“ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะซื้อมันกลับบ้านด้วย จะได้นำไปต้มซุปกิน” นางกล่าวพลางหยิบกระดูกขนาดใหญ่มาสองชิ้นราคารวมสองอีแปะ โดยส่วนบนของกระดูกยังพอมีเนื้อติดอยู่บ้าง
หลังจากซื้อข้าวของจำเป็นเสร็จสิ้น ทั้งสองก็เตรียมตัวเดินทางกลับ และมีรถเกวียนของชายชราจอดรออยู่ตรงประตูเมือง แต่ทว่าพวกเขากลับไม่เห็นวี่แววของหยางซิ่วเอ๋อร์เลย
“พวกเราออกรถเถิด”
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หนิงเมิ่งเหยาสอนวิธีการต้มซุปกระดูกให้กับหยางเล่อเล่อ และยังให้เครื่องปรุงรสที่ซื้อมาด้วย
“มันจะรสชาติดีอย่างที่เจ้าว่าจริงหรือ” หยางเล่อเล่อเอ่ยถามอย่างด้วยความสงสัย
หญิงสาวผงกศีรษะ “น้ำซุปต้มกระดูกนั้นดีต่อเด็กๆ รวมถึงคนสูงวัยอีกด้วย หากเจ้ารู้สึกว่าแค่กระดูกอย่างเดียวยังไม่พอ ก็สามารถใส่สมุนไพรหรือหัวไชเท้าเพิ่มได้”
“ตกลง คืนนี้ข้าจะลองทำดู” เมื่อหยางเล่อเล่อฟังดังนั้น จึงเลิกสงสัย ก่อนจะหยิบสัมภาระของตนกลับบ้าน พร้อมทั้งบอกกับหนิงเมิ่งเหยาว่าวันรุ่งขึ้นจะขอมาหาเพื่อปักเย็บผ้าด้วยกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เด็กน้อยไม่รอช้า รีบเล่าเรื่องดีๆ ให้ท่านแม่ของตนฟังอย่างมีความสุข “ท่านแม่ ครั้งนี้ข้าขายกระเป๋า และผ้าเช็ดหน้าได้ถึงสองตำลึงเงินเชียวนะ”
“โห มากขนาดนั้นเชียว ก่อนหน้านี้ยังราคาสามร้อยอีแปะเท่านั้นเองนี่” นางหยางเอ่ยถามพลางมองลูกสาวอย่างไม่อยากเชื่อ
หยางเล่อเล่อบอกผู้เป็นแม่ของตนว่าหนิงเมิ่งเหยาพานางไปยังหอลั่วหยุน นางหยางฟังเช่นนั้น จึงยิ้ม และเอ่ยว่า “นั่นเพราะเมิ่งเหยาอยากจะช่วยเหลือเจ้า ดังนั้นเจ้าจงตั้งใจปักเย็บเพื่อไม่ให้นางต้องเสียหน้านะ”
“ข้ารู้น่าท่านแม่ ข้าต้องทำเช่นนั้นอยู่แล้ว” เด็กสาวผงกศีรษะอย่างขึงขัง นางรู้ดีว่าหนิงเมิ่งเหยาตั้งใจช่วยเหลือตน มิเช่นนั้นคงไม่พานางไปยังหอลั่วหยุนเป็นแน่
ส่วนหยางซิ่วเอ๋อร์นั้นกลับบ้านมาอย่างทุกข์ระทม ต่างจากหยางเล่อเล่อโดยสิ้นเชิง เมื่อนางคิดถึงเรื่องน่าอับอายที่เกิดขึ้นในหอลั่วหยุน และเมื่อนึกถึงหนิงเมิ่งเหยาที่พาหยางเล่อเล่อไปแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของร้านนั่น ความเกลียดชังก็เอ่อล้นในใจของนาง
“ซิ่วเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันเนี่ย มิใช่ว่าเจ้าเข้าเมืองกับนางหรอกหรือ” เมื่อนางหลัวเห็นสีหน้าบึ้งตึงของลูกสาวที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน จึงถามอย่างประหลาดใจ
ถ้าไม่มีใครเอ่ยกระตุ้นก็ดีอยู่หรอก แต่เมื่อมีคนพูดขึ้นมาแล้วนั้น ก็ราวกับไปสะกิดให้เปลวไฟในดวงตาของหยางซิ่วเอ๋อร์ลุกโชนขึ้น นางหันมองผู้เป็นแม่อย่างเดือดดาล
“ไม่ใช่เรื่องของท่านเสียหน่อย”
นางหลัวอึ้ง และมองดูลูกสาวที่กำลังขุ่นเคือง ‘นางเห็นลูกสาวดูทุกข์ใจจึงเอ่ยถาม นางผิดด้วยหรือ’
ติดตามต่อได้ที่ meenovel.com
[1] ประมาณ 4.5 กิโลกรัม
