ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน - ตอนที่ 4

“นี่ รอข้าก่อน” เมื่อชายคนนั้นมาถึงตรงเชิงเขาและกำลังจะเลี้ยวไปอีกทาง หนิงเมิ่งเหยาก็ร้องเรียกเขาให้หันมา
เฉียวเทียนช่างสังเกตเห็นหญิงสาวอยู่แล้ว หลังจากได้ยินเสียงเรียกจึงหยุดฝีเท้าลง ดวงตาคู่นั้นดูสงบและสุขุมขณะมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
หนิงเมิ่งเหยาถูจมูกของตนอย่างเหนียมอายหลังจากตระหนักว่าน้ำเสียงที่ตะโกนเรียกเมื่อครู่นั้นไม่สุภาพนัก
“ท่านพอจะขายไก่ฟ้าที่จับมาให้ข้าสักตัวได้หรือไม่” หญิงสาวเดินไปข้างๆ ชายหนุ่ม และเงยหน้าขึ้นมอง
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่อยู่ห่างกัน หลังจากที่เข้าไปยืนใกล้ๆ นางถึงเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายตัวสูงมากขนาดไหน หญิงสาวสูงประมาณห้าฉื่อนิดๆ แต่กลับดูเหมือนเด็กน้อยตัวเล็กเมื่อมายืนเทียบกับชายตรงหน้า
เฉียวเทียนช่างพยักหน้ารับ และยื่นไก่ฟ้าให้หญิงสาว
“เท่าไหร่หรือ” หนิงเมิ่งเหยาถามพลางรับไก่ฟ้าจากเขา
“ห้าสิบอีแปะ”
“ดีเลย ช่วยรอประเดี๋ยว” หญิงสาวเดินเข้าบ้านหลังจากพูดจบ ชั่วครู่เดียวก็กลับมาอีกครั้งพร้อมเหรียญในมือ
ชายหนุ่มจากไปหลังจากได้รับเหรียญ ปลายจมูกของเขาฟึดฟัดราวกับยังได้กลิ่นหอมของหญิงสาวอยู่ รวมถึงเหรียญในมือนั้นก็ยังมีไออุ่นจากนางเช่นกัน
หนิงเมิ่งเหยาหมุนตัวไปเก็บไก่ฟ้าที่เพิ่งซื้อมา และคิดจะทำไก่ฟ้าตุ๋นเห็ดกินในตอนบ่าย
หญิงสาวไม่มีแผนจะออกไปข้างนอก หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็กำลังจะเริ่มปักเย็บสะดึงผ้า ขณะนั้นเองหยางซิ่วเอ๋อร์ก็นำตะกร้าใส่อุปกรณ์เย็บปักถักร้อยที่เต็มไปด้วยด้าย ไม้ถักโครเชต์ และกระเป๋าเงินมา
เมื่อหนิงเมิ่งเหยาเห็นดังนั้น จึงพับแผนปักผ้าลงชั่วขณะ และลุกไปยังรั้วบ้านแทน
หญิงสาวออกมาอีกครั้งพร้อมถือจอบขนาดเล็กไว้ในมือ
หยางซิ่วเอ๋อร์เห็นจอบในมือคู่นั้นก็เดาะลิ้นแล้วตัดพ้อ “เมิ่งเหยา เหตุใดเจ้าถึงไม่ปักผ้าแล้วเล่า”
นางอุตส่าห์แบกอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของตนถ่อมาถึงที่นี่ เพื่อหวังจะขโมยทักษะความรู้จากหนิงเมิ่งเหยา แต่อีกฝ่ายกลับถือจอบและเดินไปรดน้ำทำสวนพืชผักต่างๆ แทนเสียได้
หญิงสาวเจ้าของบ้านเงยหน้าขึ้นมองแขกผู้มาเยือนแล้วหัวเราะเบาๆ “อ้อ พอดีว่าสวนผักนี้มีวัชพืชเต็มไปหมด ข้าเลยต้องกำจัดมันออกน่ะ”
หยางซิ่วเอ๋อร์นั่งบนเก้าอี้ก่อนวางตะกร้าลงด้านข้าง “นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไว้ค่อยแยกวัชพืชออกจากต้นไม้คราวหลังก็ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องหาเงินนะ”
นางไม่รู้ว่างานปักผ้าของหนิงเมิ่งเหยานั้นขายได้ราคาเท่าไหร่ แต่ก็พอรู้ว่ามันคงทำเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ข้าไม่สนใจเงินจำนวนเล็กน้อยพวกนั้นหรอก เพราะมันไม่จำเป็นเลย” หญิงสาวส่ายศีรษะปฏิเสธและไม่สนใจอะไร ก่อนจะหมุนตัวกลับมาถางวัชพืชต่อ
มือของหยางซิ่วเอ๋อร์แข็งเกร็งไปเล็กน้อย ปลายนิ้วอันหยาบกร้านซึ่งกำลังถือเข็มกับด้ายอยู่นั้นซีดเผือด สีหน้าของนางถมึงทึง
บรรยากาศเริ่มแปลกไป ในขณะที่คนหนึ่งเย็บปักถักร้อยพลางเหลือบมองไปทางสวนผักบ้างเป็นครั้งคราว ทว่าหญิงสาวอีกคนกลับไม่สนใจนางผู้นั้นเลย
หลังจากหนิงเมิ่งเหยารู้สึกถึงสายตาของหยางซิ่วเอ๋อร์อยู่พักหนึ่ง ก็เงยหน้ามองกลับอย่างไม่อาจคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายได้ “ท่านต้องการอะไรหรือ”
หยางซิ่วเอ๋อร์ผงกศีรษะอย่างกระอักกระอ่วน และก้มมองตะกร้าปักผ้าของตนด้วยดวงตาเป็นประกาย “เมิ่งเหยา เจ้าช่วยมาดูงานปักตรงนี้หน่อยเถอะ ไม่ว่าข้าจะทำเช่นไรมันก็ออกมาแย่ตลอดเลย”
นางหยิบผ้าเช็ดหน้าปักลายผกามาศสีอ่อนผืนหนึ่งขึ้นมา มันเกือบจะดูดี แต่ทว่ากลีบดอกไม้นั้นกลับเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
หนิงเมิ่งเหยาหยุดงานของตนและเดินมาข้างๆ ก่อนก้มดูผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น “ตรงจุดนี้อย่าเย็บแบบปักเรียบ แต่ให้ใช้วิธีเย็บแบบปักไขว้เป็นรูปกากบาทแทน เจ้าลองดู”
“อ้อ ได้เลย” หยางซิ่วเอ๋อร์ปรับวิธีตามคำแนะนำของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว และตระหนักได้ว่าชิ้นงานที่แก้เสร็จแล้วนี้ดูดีกว่างานชิ้นก่อนๆ ที่เคยทำอย่างยิ่ง
นางผงกศีระษะอย่างพึงพอใจ หลังจากนั้น เวลามีเรื่องไม่เข้าใจ นางก็จะเรียกหาหนิงเมิ่งเหยาไม่หยุดหย่อน จนหญิงสาวไม่เป็นอันทำงานของตน
แววตาของหนิงเมิ่งเหยาสะท้อนความหงุดหงิดเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเรียกตนอีกครั้ง นางเงยหน้าขึ้นก่อนปรายตามอง “ถ้าเจ้ายังทำตามที่ข้าบอกไม่ได้ ก็จงอย่าพยายามทำอะไรเกินตัวเลย”
ติดตามต่อได้ที่ meenovel.com
หยางซิ่วเอ๋อร์แสดงอาการไม่ชอบใจในทันที เพราะไม่คิดว่าหญิงสาวผู้งดงามจะใจร้ายไม่ยอมช่วยเหลือ ทั้งที่นางก็ทำตัวเป็นมิตรที่ดีคนหนึ่ง
หลังจากไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ หยางซิ่วเอ๋อร์ก็จ้องมองหนิงเมิ่งเหยาราวกับจะเขมือบทั้งตัว
“เมิ่งเหยา ข้าขอให้เจ้าช่วยสอนข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำไมต้องมาดุด่ากันด้วย” หยางซิ่วเอ๋อมองค้อนหนิงเมิ่งเหยาพลางบ่นพึมพำราวกับอีกฝ่ายเป็นคนผิด
