meenovel - นิยาย pdf นิยายออนไลน์ หมีโนเวล นิยายจีนแปลไทย novel นิยายวาย
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Advanced
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Prev
Next

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท - ตอนที่ 296

  1. Home
  2. เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท
  3. ตอนที่ 296
Prev
Next

หลังจากที่เดินเข้าไปในตำหนักฉางเล่อที่ไร้เสียงผู้ใดตอบรับ ฉีหลงเต๋อก็รู้สึกแปลกใจมากและร้องตะโกนออกมาอีกครั้ง “มีใครอยู่หรือไม่! มีใครอยู่ไหม!”

หากแต่ก็ไร้เสียงตอบจากผู้ใด

สายลมหนาวพัดผ่านเล็ดลอดผ่านรอยแยกทางหน้าต่าง เปลวไฟในตะเกียงพลิ้วไหวไปมา แสงไฟที่สั่นไหวทำให้ฉีเต๋อหลงตื่นตระหนก รีบยกห่มผ้าขึ้นมาคลุมตนเอง ก่อนจะเดินออกไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับเปิดประตูลาน สายลมเย็นพัดปะทะเข้าไปใบหน้าของเขา ทำให้เขาตกใจและปิดประตูลงทันที ชายหนุ่มตะโกนออกมาอีกครั้ง “รีบมานี่! ใครก็ได้รีบมาที่นี่ที”

“…”

หากแต่ไร้เสียงผู้ใดตอบรับ แรงลมกระแทกประตูทำให้เกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ฉีเต๋อหลงตกใจและหวาดกลัวขึ้นมา เขารู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังเคาะประตูอยู่ข้างนอกประตู ชายหนุ่มพยายามควบคุมสติตนเองและสูดหายใจเข้าลึก ๆ เปิดประตูอย่ากล้า ๆ กลัว ๆ ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบ ๆ และกล่าวว่า “นั่นใครกัน! ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เสียงร้องตะโกนของเขาดังมาก จนคนรับใช้ที่อยู่ไกลจากประตูตำหนักฉางเล่อได้ยิน ดังนั้นพวกเขาจึงเดินออกห่างจากประตูตำหนักทันที

เพราะว่าพวกเขายังไม่อยากตาย

ใคร ๆ ต่างก็รับรู้ว่าที่ตำหนักฉางเล่อนั้นมีวิญญาณของพระสนมเอกคอยตามหลอกหลอนผู้คนในวังอยู่

ขันทีที่เฝ้าประตูเอ่ยกับคนใช้ว่า “โชคดีที่พวกเราออกห่างจากประตูตำหนักฉางเล่อเสียแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเราคงจะต้องหวาดกลัวเหมือนองค์ชายรอง!”

หากแต่ก็มีคนใช้เอ่ยเอาอกเอาใจองค์ชายรอง “องค์ชายรองกลัวที่ไหนกัน! เขาเป็นคนที่กล้าหาญ! และเขาก็กตัญญูมาก ตอนนี้เขากำลังเรียกหาพระสนมเอกอยู่! เขากำลังช่วยฝ่าบาทจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่!”

“…”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดแบบนี้ พวกเขาก็คิดว่านั้นก็เป็นเหตุผลที่ดี แต่พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่องค์ชายตะโกนออกมาคือเขากำลังตามหาคน ไม่ใช่ตามหาพระสนมเอก!

ฉีเต๋อหลงกระวนกระวายนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะว่าเขาไม่เจอใครแม้แต่คนเดียว แต่กลับรู้เหมือนกับว่ามีใครนอนอยู่กลับเขาตลอด แต่มันเป็นเพราะว่าเขาเหนื่อยมากเกินไปจึงหลับไปโดยลืมคิดเรื่องผีไปเลย

พอตื่นขึ้นมาฟ้าก็สว่างแล้ว และเขาก็ไม่กล้าพูดออกมาว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบ้างเมื่อคืน เพราะกลัวจะโดนเหล่าคนใช้หัวเราะเยาะ

แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉีเต๋อหลงเมื่อคืนนี้ ซูหวานหว่านสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้นางกำลังนั่งคุยเรื่องนี้กับฉีเฉิงเฟิง ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ซูหวานหว่านคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว หากแต่ใครจะไปคาดคิดว่าขันทีไห่จะมาเชิญนางเข้าไปในวังอีกครั้ง แต่ครานี้ให้แม่จ้าวติดตามเข้าไปด้วย และเขาก็ไม่พูดถึงจุดประสงค์ของการเรียกนางเข้าวังครั้งนี้ของฝ่าบาท

เมื่อฉีเฉิงเฟิงได้ยินดังนั้นก็อยากจะตามเข้าไปด้วย แต่ก็ถูกขันทีเอ่ยห้ามเอาไว้เสียก่อน

ดังนั้นสองแม่ลูกเลยออกเดินทางไปยังวังหลวงทันที และขันทีไห่ก็ได้เดินพาทั้งสองไปที่สวนหลังวัง

แสงอาทิตย์สาดส่อง หิมะที่ปกคลุมไปทุกสารทิศได้ละลายลงหมด อีกทั้งยังมีน้ำพุภายในสวนหลังวังอีกด้วย

เมื่อไปถึงซูหวานหว่านก็ว่าบรรดาคนชั้นสูงอยู่ที่นั่นด้วย หญิงสาวไม่รู้จุดประสงค์ของฝ่าบาทคืออะไร นางจึงเลือกหาที่นั่งให้กับมารดาก่อนจะนั่งลงชมดอกไม้ หากแต่ก็ได้ยินเสียงผู้อื่นกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของนาง

“นี่คงจะเป็นคุณหนูจ้าว นางก็ดูโดดเด่น อีกทั้งยังมีใบหน้าที่สดใส แน่นอนว่าจะต้องถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดีแน่”

“ใช่แล้ว! ดูก้นของนางเสีย ข้าว่านางจะให้กำเนิดบุตรชายอย่างแน่นอน! นางเหมาะสมกับลูกชายของข้ามาก”

“เหตุใดถึงพูดแบบนี้ สามารถบอกว่าเหมาะสมกับลูกชายของเจ้าเลยก็ได้งั้นหรือ? แน่นอนว่าจะต้องเหมาะสมกับลูกชายข้าสิถึงจะถูก!”

“…”

ทันใดนั้นซูหวานหว่านก็รู้สึกว่าตนกำลังจะถูกปฏิบัติราวตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยง หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ คิ้วเรียวสวยของนางค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน และกำลังสงสัยว่าฉีเฉิงนั้นเรียกนางมาเพื่อที่จะนัดดูตัวให้กับนางอย่างงั้นหรอ แต่ว่าหลังจากที่คิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งฉีเฉิงนั้นไม่น่าจะใช้วิธีแบบนี้แน่!

แล้วใครกันที่เป็นคนทำเรื่องแบบนี้กับนางได้?

หากมองดี ๆ ก็จะพบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเยื้องกรายเข้ามาอย่างเชื่องช้า นางสวมชุดกระโปรงจีบสีน้ำเงินเข้ม สวมทับด้วยคลุมขนจิ้งจอกสีขาว หากมองจากการแต่งตัวแล้ว ซูหวานหว่านติดว่านางน่าจะเป็นนางสนมคนหนึ่งภายในวัง

หากแต่ดวงตาของนางสนมคนนี้ดูคุ้นเคยอยากบอกไม่ถูก แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่านางเป็นใคร ซูหวานหว่านหยิบขนมและอาหารบนโต๊ะแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแอบโยนเข้าไปในมิติฟาร์ม เพื่อสอบถามว่าเรื่องนี้กับเหล่านกกระจอก และทำให้นางได้รู้ถึงเรื่องใหญ่บางอย่าง!

“สตรีนางนี้คือพระสนมลี่เฟย และนางก็ยังเป็นลูกสาวคนรองของแม่ทัพสวี นามว่าสวีหลี่ นางมีดวงตาที่บริสุทธิ์ จึงถูกฝ่าบาทเลือกเข้าวังเมื่อปีที่แล้ว และด้วยเพราะว่าน้ำเสียงของนางที่อ่อนหวานนุ่มนวลราวกับนก นางก็ได้ถูกประทานชื่อใหม่ว่าลี่เฟย”

เมื่อรู้ว่านางสนมลี่เป็นลูกสาวรองของแม่ทัพ ซูหวานหว่านสังหรณ์ใจว่าจะต้องมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นแน่ ๆ และนางก็คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาในวันนี้เป็นแผนการของพระสนมลี่อย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงเรื่องนี้กับนกเพื่อยืนยันอีกครั้ง นกก็ไม่รู้เรื่องนี้ มันจึงบินไปหานกที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาของนางสนมลี่เพื่อสอบถาม และบินกลับมาบอกซูหวานหว่านว่า “เมื่อวานหลังจากที่นางรู้ว่าสวีซูถูกส่งตัวกลับ พระสนมลี่ก็ร้องไห้กับฝ่าบาทและขออนุญาตฝ่าบาทจัดงานรวมตัวเหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์ในวันนี้”

หากมองดูแล้วดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ใช่คำเชิญของฮ่องเต้ที่เชิญพวกนางมา แต่เป็นพระสนมลี่ที่เชิญนางมาต่างหาก?

เมื่อถูกคนอื่นเล่นงานแบบนี้ ซูหวานหว่านก็รู้สึกไม่มีความสุขอย่างยิ่ง ยิ่งรู้ว่าตัวเองถูกคนอื่นหลอกมา สีหน้าของนางก็แปรเปลี่ยนไปทัน และนางก็บอกกับแม่ของตัวเองว่านางรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงอยากจะกลับบ้านก่อน และแม่จ้าวก็จะออกไปกับนางด้วย

หากแต่พวกนางทั้งสองคนก็ถูกคนของนางสนมลี่เข้ามาขวางทางเอาไว้ทันที “ฮูหยินจ้าว พวกเจ้าทำกิจการค้าขาย พวกเจ้าคงไม่เคยมาในงานแบบมาก่อน และคงยังไม่เคยเจอกับฮูหยินของท่านนายอำเภอ และฮูหยินคนอื่น เหตุใดพวกท่านถึงไม่กลับไปนั่งลงดี ๆ ล่ะ? มาทำความรู้จักกันเพื่อให้เกิดมิตรภาพที่ดีต่อกันมันจะเป็นอะไร”

น้ำเสียงของนางเหมือนกับเสียงนกร้องดังจิ๊บ ๆ หญิงสาวรู้สึกแสบแก้วหูมากจนไม่อยากได้ยินเสียงของนาง นางยังไม่เอ่ยโต้ตอบสิ่งใดกลับไป ฮูหยินเหล่านั้นก็ได้รับสัญญาณจากพระสนม ทำให้พวกนางพุ่งเข้ามาลากตัวทั้งสองเอาไว้

“ฮูหยินจ้าว ข้าได้ยินมาว่าคุณหนูจ้าวได้ทำเงินได้มากมายในการแข่งขันในวันก่อนใช่หรือไม่ ของที่พวกเจ้าขายคงจะมีประสิทธิภาพที่ดี”

“…”

เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ ก็ดูเหมือนซูหวานหว่านจะรู้จุดประสงค์ของเหล่าฮูหยิน เมื่อครู่ดูเหมือนพวกนางต้องการแย่งนางไปเป็นสะใภ้ แต่ในสายตาของนาง พวกนางเพียงหวังเงินจากสกุลจ้าวเท่านั้น!

แต่สำหรับนางสนมลี่นั้นคงต้องการให้นางแต่งงานออกไปกับตระกูลอื่น เพื่อที่นางจะได้ไม่มาสร้างปัญหาอะไรกับครอบครัวของตัวเอง เมื่อรู้ถึงจุดประสงค์ของนางสนมลี่ นางก็อยากที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ แต่ภายในใจนางกลับหลงตัวเองเล็กน้อยแล้วพูดว่า ‘นางนั้นถือว่าตัวเองเป็นใครกัน เป็นแค่ลูกสาวแม่ทัพคิดจะดูถูกนาง! พวกนางนั้นแหละที่จะต้องกลัวนาง!’

“คุณหนูจ้าวเจ้ายิ้มอะไรกัน มีเรื่องอะไรที่มีความสุขอย่างงั้นเหรอ บอกพวกเราได้หรือไม่” พระสนมลี่เอ่ยพูดออกมาแล้วนางเดินไปนั่งข้าง ๆ ซูหวานหว่าน บนหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มจางออกมา

“ข้ายิ้มเพราะว่าข้าได้ยินเสียงของพระสนมลี่ เสียงของพระสนมช่างไพเราะมาก คล้ายกับเสียงในตระกูลของข้า เวลาคนใช้กำลังนับเหรียญเงิน เมื่อได้ยินเสียงของพระสนมมันก็ทำให้ข้าคิดถึงเงินของตระกูลจ้าว มันมีจำนวนมหาศาลมากขนาดนั้น ทรัพย์สินของตระกูลจ้าว เฮ้อ ข้าสงสัยว่าในหนึ่งวันถ้าข้าใช้จ่ายเงินเพียงหนึ่งพันตำลึงต่อวัน ในชาตินี้ข้าคงใช้เงินในบ้านของตัวเองไม่หมดแน่ ๆ” ซูหวานหว่านกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

รอยยิ้มบนใบหน้าของนางสนมลี่ชะงักงันเล็กน้อย เพราะเมื่อครู่นางได้ดูถูกตระกูลจ้าวไปว่าทำกิจการค้าขาย ใครจะคาดคิดว่าซูหวานหว่านโอ้อวดเงินทองได้อย่างภาคภูมิใจ! อวดความรวย! ช่างไร้ยางอายจริง ๆ!

พระสนมลี่คิดว่าเหล่าฮูหยินที่มาในวันนี้จะดูถูกซูหวานหว่าน แต่ใครจะไปคาดคิดว่าพวกนางแต่ละคนจะประจบประแจงซูหวานหว่านเสียได้! ในตอนนี้ใบหน้าของนางสนมลี่เปลี่ยนสีไปทันที เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของวันนี้นางก็ยิ้มออกมาเบา ๆ พร้อกกับพูดว่า “คุณหนูจ้าวยังไม่แต่งงานใช่ไหม? ที่นี้มีเหล่าฮูหยินอยู่มากมาย และลูกชายของพวกนางก็ถึงวัยที่จะแต่งงานแล้วหากแต่พวกเขายังไม่ได้แต่งงาน เป็นการดีกว่าที่เจ้าจะเลือกวันที่จะต้องแต่งงานพร้อมกับองค์ชายสามก็ดี”

คำพูดเช่นนี้เป็นการคิดแทนนาง คิ้วและดวงตาของพระสนมลี่เต็มไปด้วยความใสซื่อและบริสุทธิ์ ไม่แสดงถึงร่องรอยความไม่พอใจ ซูหวานหว่านแอบคิดในใจของตนเองว่า ‘มันเป็นเพียงแผนการง่าย ๆ ของเหล่าสนมในวัง!’

แผนการแบบนี้นางเคยเจอมาแล้วหลายครั้งต่อหลายครั้ง นางอยากจะดูเหมือนกันว่าใครจะชนะ ใครจะแพ้ ซูหวานหว่านหัวเราะออกมาอย่างประชดประชันว่า “พระสนมลี่ ท่านไม่เคยได้ยินข่าวในวังเลยหรือไงว่าข้ากับองค์ชายสามรักกัน จงใจให้หาชายอื่นมาให้ข้าเช่นนี้ ท่านได้ปรึกษาองค์ชายสามแล้วหรือยัง?”

คิดไม่ถึงเลยว่าซูหวานหว่านจะมองแผนการของนางออก ใบหน้าของนางสนมลี่กลับมานิ่งเฉยอีกครั้ง ในขณะที่กำลังจะพูดขึ้น ก็เห็นชายรูปงามที่เดินเข้ามาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดออกมาว่า “พระสนมลี่ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงหาผู้ชายอื่นมาแต่งงานกับผู้หญิงของข้าแบบนี้?”

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 296"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

YOU MAY ALSO LIKE

hgtr
เกิดใหม่เป็นสุนัขจิ้งจอก
10 มีนาคม 2023
jythfbg
The Second Coming of Gluttony
29 ธันวาคม 2022
fdhhuikujyht
ทรราชตื้อรัก
28 พฤศจิกายน 2022
7uytrg
Red Packet Server
28 พฤศจิกายน 2022
ads

    © 2017 Madara Inc. All rights reserved