meenovel - นิยาย pdf นิยายออนไลน์ หมีโนเวล นิยายจีนแปลไทย novel นิยายวาย
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Advanced
  • HOME
  • ติดต่อโฆษณา
  • นิยาย pdf ล่าสุด
  • อ่านนิยายจีนแปลไทย
  • อ่านนิยายฟรี
  • นิยายจบแล้ว
  • อ่าน the king of war
  • อ่าน Amazing Son in Law
Prev
Next

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1249

  1. Home
  2. Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
  3. ตอนที่ 1249
Prev
Next

ดอกไม้ไฟที่งดงามยังคง ‘ระเบิดปึงปัง’ อยู่บนฟ้า

ครอบครัวหนึ่งยืนอยู่หน้าทางเข้าสนามกีฬา ชายสูงวัยที่ใส่แจ็กเก็ตสีเทามองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า

“พวกเขาอยู่ไหนกันนะ? ทำไมพวกเขายังไม่มาที่นี่ล่ะ?”

เมื่อวานเขาได้วางแผนไว้กับผู้เฒ่าลู่ ชายที่เขาเจอที่สถานีรถไฟความเร็วสูงแล้ว ว่าให้มาเจอกันที่หน้าทางเข้าสนามกีฬา แต่หลังจากมารอได้สักพักเขาก็ยังไม่เห็นผู้เฒ่าลู่อยู่ตรงไหนสักที่เลย…

“พวกเราต้องเข้าไปข้างในแล้วนะ!”

หลิวเพ่ยจงยังไม่อยากเดินไปจากตรงนี้เลย เขามองภรรยาของเขาแล้วตะโกนว่า “รอหน่อยสิ…เพื่อนผมกำลังจะมาแล้ว”

“จะรอหาพระแสงอะไรล่ะ! ”

ภรรยาของเขาหันหลังกลับแล้วเดินตรงเข้าสนามกีฬาไป

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลิวเพ่ยจงก็งงตึ๊บไม่แพ้กัน เขารีบขอให้ภรรยาของเขาเดินตามคุณแม่ของเขาที่เข้าไปก่อน แล้วเขาก็เดินไปยืนตรงหน้าพ่อของตัวเองแล้วบอกอีกฝ่ายว่า

“พ่อครับ พวกเรารอต่อไม่ได้แล้วนะ คนที่นี่เยอะมากเลย ถ้าพวกเราไม่เข้าไป พวกเราจะโดนยามที่นี่ไล่เอานะครับ”

“ใช่แล้วค่ะลุงหลิว” หญิงสาวที่ใส่ชุดออฟฟิศถอนหายใจแล้วบ่นว่า “พวกเราแค่มาดูโชว์เฉยๆ ไม่ได้หรือไงคะ? ทำไมลุงต้องบังคับให้หนูมาเดทด้วย…พวกเราไปเดทกันพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ? ”

ไม่มีที่ให้นัดบอดอะไรหรอกนะ…

คนเยอะขนาดนี้…

“เธอไม่เข้าใจหรอก!”

“หนูไม่เข้าใจตรงไหนคะ?”

หลิวเพ่ยจงลังเลแล้วถอนหายใจ

“คนที่ลุงกำลังจะแนะนำให้เธอรู้จักน่ะ…เป็นคนพิเศษนะ”

หญิงสาวในชุดออฟฟิศกลอกตาตัวเอง

“เขาเป็นพวกลูกชายไม่เอาไหนจากครอบครัวคนรวยหรือเปล่าล่ะคะ? ที่นี่ปักกิ่งนะลุง เขาจะพิเศษอะไรนักหนา? ”

“รถที่มารับพ่อแม่ของเขาเป็นรถระดับเอของรัฐบาลเลยนะ…”

“พี่คะ หนูว่าการเบี้ยวนัดใครสักคนนี่มันก็แย่นะคะ เรามารอตรงนี้กันดีกว่า! ”

ชายหนุ่มมองลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง

อะไรวะเนี่ย?

แต่…

ระดับเอเลยนะ…

ชายหนุ่มพยักหน้า

“โอเค ถ้าอย่างนั้น…รออีกหน่อยก็ได้”

ดอกไม้ไฟยังคงเปล่งประกายอยู่บนท้องฟ้า

ถึงแม้พวกเขาจะอยากรอต่ออีกสักหน่อย แต่เมื่อเห็นว่ายังมีคนเข้าสนามกีฬาอยู่เรื่อยๆ ถ้าพวกเขารอนานกว่านี้ พวกเขาคงหาที่นั่งไม่ได้แล้ว

ในอีกฟากหนึ่งนั้น ลู่โจวเพิ่งจะเดินเข้าสนามกีฬาไป

ในตอนแรกผู้เฒ่าลู่ก็รู้สึกหดหู่ที่ไม่สามารถไปเจอกับเพื่อนของเขาได้ แต่หลังจากที่เดินเข้าสนามกีฬามา ลู่ปังกั๋วก็เลิกสนใจเรื่องนั้นไปเรียบร้อย

เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา มันช่างมหัศจรรย์เกินไป

ลูกศรลอยอยู่ตรงหน้าเขามันกลืนไปกับควัน นี่มันดูเหมือนจริงเกินไปแล้ว

“พ่อ…แตะนี่ได้ไหม? ” ผู้เฒ่าหลิวพูดขึ้นขณะมองไปที่ลูกชายของเขา

ลู่โจวมองพ่อของเขาที่ทำท่าทางงุนงงแล้วก็ยิ้มออกมา

“แตะได้ตามสบายเลยครับ มันเป็นแค่ภาพโฮโลแกรมเท่านั้นแหละ แตะไปพ่อก็ไม่ทำมันพังหรอก”

เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ ทำให้นอกจากอุปกรณ์ฉายภาพเสริมบางตัวแล้ว อุปกรณ์ฉายภาพโฮโลแกรมแทบทุกตัวที่เหลือจะถูกติดตั้งอยู่บนเพดานทั้งนั้น ภาพโฮโลแกรมของทั้งสนามกีฬาถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เพดานยันพื้น เหมือนกับโคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดาน

ไม่ต้องห่วงว่าจะทำอะไรพังทั้งนั้น

พวกเขาเดินไปตามทางที่ลูกศรชี้ และก็เจอที่นั่งอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั่งลงตามที่นั่ง เจ้าหน้าที่ก็เตือนลู่ปังกั๋วให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วย

ก่อนที่โชว์จะเริ่ม เขาใช้เวลาไปกับการมองรอบๆ สนามกีฬา เขามองฝูงชนในนั้นแล้วพูดออกมาอย่างเสียดายว่า

“รังนกนี่วิเศษจริงๆ …เสียดายที่พ่อไม่เคยมาที่นี่เลย”

ฟางเหมยกลอกตาแล้วพูดว่า “จะเสียดายทำไมกัน ตอนนี้คุณก็อยู่ที่นี่แล้วนี่นา”

“มันแตกต่างจากตอนที่ได้เห็นตอนมันสร้างครั้งแรกนะ…นี่ลูก โชว์จะเริ่มตอนไหนนะ?”

ลู่โจวกำลังจะตอบคำถามลู่ปังกั๋ว แต่แสงบนเพดานก็เริ่มหรี่ลงทันที และสนามกีฬาที่เคยส่งเสียงอึกทึกจากการที่มีคนอยู่เกือบ 100,000 คน ก็ตกอยู่ในความเงียบทันทีเช่นกัน

ลู่โจวมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็ยิ้มออกมา

เขามองพ่อตัวเองแล้วบอกว่า “มันเริ่มแล้วครับ”

…

ผู้ชมทุกคนต่างนั่งลงกับที่ตัวเอง ดนตรีจากมุมสนามกีฬาได้ป้องกันเสียงรบกวนของผู้ชม

แสงค่อยๆ หรี่ลง สนามกีฬาเริ่มมืด จากนั้นทุกสิ่งก็ตกอยู่ในความมืด เหลือเพียงแสงจากหน้าจอโทรศัพท์บางคนเท่านั้น

ผู้คนเริ่มหยุดคุยกันแล้วเปลี่ยนมาเป็นกระซิบกระซาบกันเบาๆ แทน ในเสียงกระซิบกระซาบนั้นมีร่องรอยของความตื่นเต้นและความคาดหวังเจืออยู่

พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตารอโชว์นี้

และมันก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

หมอกล่องหนลอยเข้ามาในความมืด มันเป็นเหมือนกับควันหนาที่เข้าปกคลุมภายในสนามกีฬาอย่างรวดเร็ว ทำให้ความมืดในนั้นดูหนาและหดหู่มากขึ้นกว่าเดิม

ตอนนี้แม้แต่แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ก็ถูกหมอกหนาที่สังเคราะห์ขึ้นมากลืนกินไปเรียบร้อย

บางคนเริ่มเปิดไฟฉายในมือถือขึ้นมา แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ขัดอย่างรวดเร็ว ตามด้วยยึดโทรศัพท์พวกเขาไปเลย โทรศัพท์พวกนี้จะถูกส่งไปที่ห้องรักษาความปลอดภัยและจะถูกส่งคืนให้หลังจบโชว์

ความมืดนั้นไม่ได้อยู่นานนัก

ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทันใดนั้นเองจุดลำแสงหลายจุดก็ปรากฏขึ้นข้างตัวทุกคน มันเป็นอนุภาคแสงสีแดงที่เหมือนกับหิ่งห้อยเริงระบำอยู่ในความมืด เป็นเหมือนกับแสงจากดอกไม้ไฟ พวกมันเริ่มรวมตัวกันเป็นเส้นวิถี

‘หิ่งห้อย’ ปรากฏตัวขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับดวงดาวบนกาแล็กซี

ผู้คนรู้สึกมหัศจรรย์ใจไปกับภาพที่ทั้งวิเศษและดูโรแมนติกนี้ พวกเขาหยุดพูดคุยกันแล้วเริ่มมองสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวด้วยความสงสัย

เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักของผู้ใหญ่เริ่มเอื้อมมือของตัวเองออกไป พยายามจะไขว่คว้าจุดสีแดงเล็กๆ พวกนั้นมาให้ได้

คู่รักที่นั่งอยู่ข้างกันเริ่มชี้ไปที่อนุภาคแสงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าซึ่งคล้ายคลึงกับดาวตกด้วยความตื่นเต้น แล้วพวกเขาก็ใช้โอกาสนี้ในการขอพรให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันตลอดไป…

ภาพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็นเหมือนกับภาพลวงตาในม่านหมอก มันดูไม่ใช่ของจริง แต่มันก็ยังสวยงามเหลือเกิน

ทันใดนั้นเองทุกอนุภาคแสงก็ลอยไปที่จุดศูนย์กลางของสนามกีฬาและรวมตัวกันเป็นลูกบอลเพลิงสีแดง

ลูกบอลสีแดงเรืองแสงออกมาเหมือนคบเพลิง ราวกับว่ามันทำมาจากแมกมา กำแพงหมอกหนาทำให้มันดูเป็นสีแดงเข้ม ลำแสงเริ่มฉายทะลุขึ้นมาจากด้านบนของลูกบอลนั้นเหมือนกับเป็นธนูเพลิงที่ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรี

เด็กๆ เลิกเล่นกันแล้ว และพวกคู่รักก็หยุดทำตัวกะหนุงกะหนิงกัน พวกผู้ใหญ่เริ่มกลั้นหายใจ ส่วนเหล่าผู้สูงวัยก็กำหมัดแน่น ดวงตาของพวกเขามีแววรำลึกถึงอะไรบางอย่าง…

ทันใดนั้นเองเครื่องบินต่อสู้ก็บินทะลุเมฆและโฉบลงมาจากท้องฟ้า เสียงกรีดร้องดังขึ้นในสนามกีฬา จนยากที่จะแยกว่าเป็นเสียงของซาวด์เอฟเฟกต์หรือเป็นเสียงของผู้ชมกันแน่

ทุกอย่างดูเหมือนฉากในภาพยนตร์ ผู้ชมพยายามหลบกระสุน ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ล่ะก็ พวกเขาทุกคนต้องร่วงลงจากเก้าอี้แน่ๆ

แล้วนี่ก็เป็นแค่ฉากเปิด โชว์นี้ยังห่างไกลจากตอนจบนัก

สนามรบเริ่มเปลี่ยนเป็นพื้นที่ฟาร์มหลายพันไร่ แล้วก็ตามด้วยดินแดนรกร้างหลายพันไร่

ผู้ชมเห็นว่ามีคนกำลังปีนภูเขาเอเวอเรสต์ท่ามกลางหิมะอยู่ พวกเขาเห็นดินแดนน้ำแข็ง เห็นภูเขา และเห็นคนที่ถือเคียวกับจอบ ซึ่งต่อสู้เพื่อชะตาอุตสาหกรรมของประเทศ…

มนุษย์คือทรัพยากรที่มีค่าน้อยที่สุดในยุคที่มีการผลิตต่ำ

แต่ทรัพยากรอันที่ว่านี้ก็สามารถสร้างอุตสาหกรรมทั้งระบบขึ้นมาได้

มีเหตุผลเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น

เพราะมนุษย์เชื่อว่าอนาคตจะต้องดีกว่าเดิม

นั่นเป็นเพียงแรงขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวที่ทำให้พวกเขายังมุ่งหน้าไปต่อได้ในทุกๆ วัน

ย้อนกลับไปสมัยนั้น มันไม่มีของอย่างระบบอัตโนมัติหรือปัญญาประดิษฐ์เลย แต่พวกเขาก็ยังเชื่ออย่างหนักแน่นว่าสักวันหนึ่งในอนาคตพวกเขาจะสามารถกินอาหารหรือใส่ชุดอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ มนุษย์ชอบทำงานที่มีความหมายและรับรู้คุณค่าของชีวิตในสิ่งต่างๆ ที่มีคุ้มเวลากับพวกเขามากกว่าจะเสียเวลาของตัวเองไปกับการทำงานเหมือนเครื่องจักร

พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาจะไม่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบนั้นในชั่วชีวิตของตัวเอง

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเสียกำลังใจแต่อย่างใด

เพราะพวกเขากำลังมุ่งหน้าทำในสิ่งที่มีความหมายอยู่

พวกเขารู้ดีว่าถึงแม้พวกเขาจะไม่ทันได้เห็นความพยายามของเขาผลิดอกออกผลในชั่วชีวิตของตัวเอง แต่ลูกหลานของพวกเขาจะได้เห็นแน่ๆ ลูกๆ ของพวกเขาจะทำตามความฝันของพวกเขาได้

ภาพแต่ละภาพที่ผ่านไปเหมือนกับโลกที่หมุนไปเรื่อยๆ มันฉายฉากแต่ละฉากมาครู่หนึ่งให้ผู้ชมดู

เมื่อเหล่าผู้สูงอายุมองเห็นภาพความทรงจำเก่าของตัวเองอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้า เด็กๆ ที่นั่งอยู่ข้างผู้ใหญ่ ถึงแม้จะยังมีความเป็นเด็กไร้เดียงสา พวกเขาก็เริ่มกำหมัดตัวเอง และสัมผัสถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสำคัญนี้ได้

รถคันหนึ่งปรากฏขึ้น

มันขับมาจากเรือที่จอดเทียบท่า

เสียงเครื่องจักรดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของการที่ประเทศจีนเข้าสู่เวทีโลก สุดท้ายพวกเขาก็มาถึงยุคที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ในที่สุดบรรยากาศและดนตรีอันน่าหดหู่ก็จางหายไป ในขณะที่ตึกสูงนับพันเริ่มผุดขึ้นมาจากพื้นดิน

หอไข่มุกตะวันออก[1] รังนก[2] ศูนย์นิทรรศการและการประชุมระดับโลก[3]…และยังมีสตาร์ไลท์ที่ยึดครองวงโคจรขนย้ายดวงจันทร์ได้ แล้วยังมีปราสาทจันทราที่ลอยอยู่บนฟ้าอีก

ในฉากสุดท้ายของวิดีโอโฮโลแกรมนั้น นักบินอวกาศกำลังถือธงสีแดงแล้วเดินอยู่บนพื้นดินของดวงจันทร์ แล้วเขาก็ปักธงสีแดงนั้นลงไปบนพื้นผิวดวงจันทร์

จากนั้นฉากก็เปลี่ยนไป

ธงสีแดงหายไป

แต่ดินดวงจันทร์สีเทาใต้เท้าของนักบินอวกาศกลับเปลี่ยนเป็นเมืองอวกาศที่ดูเหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟ มีรถไฟแล่นไปตามรางระหว่างตึกสูงระฟ้า มีกล่องพัสดุที่ไถลไปตามอุโมงค์เหมือง

ลู่โจวสังเกตว่าพ่อของเขาแอบปาดน้ำตา

ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาทำเพียงมองไปทางอื่นอย่างเงียบๆ

เขารู้ดีว่าพ่อของเขาเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบเสียหน้า พ่อของเขาคงนอนไม่หลับแน่ๆ ถ้าลูกชายได้เห็นด้านที่อ่อนแอของเขา

“ฉันรู้สึกเหมือน…”

“เหมือนอะไรเหรอ? ”

เฉินยู่ซานไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนี้อย่างไรดี เธอสูดจมูกแล้วก็เอ่ยขึ้นมาว่า “มันวิเศษสุดๆ ไปเลย”

ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า

“จริงของเธอนั่นแหละ”

ถึงเขาจะไม่รู้ว่าควรเรียกว่าโชว์นี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ และเขาก็ยังไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นการแสดงเทคโนโลยีภาพฉายโฮโลแกรมของสตาร์สกายเทคโนโลยีให้ออกมาได้ดีหรือเปล่า…

แต่เขาก็รู้ว่าผู้ชมเข้าใจความหมายที่สอดแทรกอยู่ในโชว์นี้ได้ตรงประเด็นเป็นอย่างดี

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 1249"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

YOU MAY ALSO LIKE

srfvtfvfv
ฉีกกรอบใจ ผู้ชายเพอร์เฟ็กต์
11 มีนาคม 2023
yjgfhxb
ห้าธาตุสะท้านภพ The Avalon of Five Elements
29 พฤศจิกายน 2022
sfsehtbdf
ปรุงรสอลวนรัก
28 พฤศจิกายน 2022
mcng
ราชาบลัดเอลฟ์
26 ธันวาคม 2022
ads

    © 2017 Madara Inc. All rights reserved