The king of War - ตอนที่ 15 คำบอกเล่าที่เชื่อมั่นมิได้

อ่านนิยาย The king of War บทที่ 15 ออนไลน์
ทันทีทันใดทุกสายตาก็ดูไปที่หยางเฉิน
“ประธานจางนะครับ ไม่ต้องไปพึงพอใจไอ้ขยะนี่ รอคอยเซ็นสัญญาเสร็จแล้วและหลังจากนั้นก็ค่อยคิดบัญชีกับมัน!”นายท่านก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่ดี ก็เลยรีบกล่าวรีบ
“ฉันยังจะเซ็นอะไรอีก!”
จางกว่างฉีกคำสัญญาเป็นสองส่วน ชี้หน้าดุด่า “ช่วงแรกยังต้องการจะไปพบมึงเพื่อคิดบัญชี ไม่คิดเลยว่ามึงจะเป็นคนของเชื้อสายฉิน วันนี้ไม่เพียงแค่จะร่วมธุรกิจกันมิได้แล้วฉันยังจะดูหมิ่นเครือญาติฉินให้พวกมึงทราบว่าผลการมามีเรื่องมีราวกับฉันมันคืออะไร”
เมื่อวานนี้ จางกว่างถูกหยางเฉินถีบไปหนึ่งหน หลังจากนั้นเขาเรียกคนมาพวกหนึ่ง ก็ถูกผู้ที่ชื่อหม่าชาวจัดแจง แม้กระทั้งตนเองก็ยังถูกทำร้ายไปด้วย กำลังคิดอยู่เลยว่าจะเอาคืนอย่างไรดี ไม่คิดเลยว่าช่องทางจะมาซะแล้ว
“อะไรนะ? เอ็งกล้ามีปัญหากับประธานจาง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”
ฉินเฟยอาการตระหนกตกใจ และรีบบอกว่า “ประธานจางขอรับ ไอ้นี้ไม่ใช่คนของเชื้อสายฉินครับ มันไม่มีอะไรเกี่ยวเนื่องกับเราสักหน่อยนะครับ”
“แม่เอ็งสิ!”
จางกว่างเหวี่ยงกำปั้นใส่หน้าฉินเฟย “เรียกปู่แล้วยังกล่าวว่าไม่มีอะไรเกี่ยวโยงอีก ต้องการจะร่วมธุรกิจกับฉัน ฝันอยู่รึยังไง อย่าแม้กระทั้งจะคิด!”
เมื่อคืนนี้ฉินซีฟังเรื่องที่โรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาลจากฉินยี รวมทั้งทราบดีว่าหยางเฉินรังควานจางกว่าง แม้กระนั้นคุณไม่คิดเลยว่าทั้งคู่คนจะมาเจอะกัน และก็ยังเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมากด้วย
นายท่านเองก็กระวนกระวาย รีบเข้าไปหา “ประธานจางนะครับ ไอ้สวะนี่ไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับเชื้อสายฉินจริงๆขอแค่เพียงคุณกล่าว ผมก็จะไล่มันออกมาจากเครือญาติในขณะนี้ เรื่องคำสัญญา ท่านได้โปรดกรุณาไตร่ตรองอีกครั้งเถิดครับผม!”
“ฉินซี มองเรื่องที่สามีขยะแสนดีของคุณทำสิ กล้ามีปัญหาแม้กระทั้งกับประธานจาง”
“เป็นตัวจัญไรของเครือญาติฉินจริงๆห้าปีกลายแทบจะทำลายเครือญาติฉิน วันนี้ก็ยังจะมาทำลายเรื่องดีๆของเครือญาติฉินอีก”
“ท่านประธาน ไล่พวกมันทั้งยังบ้านออกมาจากเครือญาติตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยเถิด!”
ทันทีทันใดเชื้อสายเครือญาติฉินที่อยู่ด้านในห้องสัมมนาก็ไล่ส่งหยางเฉินและก็ฉินซี ถึงกับขนาดต้องการจะลงไม้ลงมือด้วย
จางกว่างที่ตอนต้นโกรธมากมาย แม้กระนั้นเมื่อมีความเห็นว่าเครือญาติฉินไม่ชอบหน้าหยางเฉินขนาดนี้ ก็เลยทำให้อารมณ์โกรธนั้นน้อยลงไปเยอะแยะ
เขามองดูหยางเฉินอปิ้งมีเลศนัย แล้วหลังจากนั้นก็บอกว่า “ต้องการจะร่วมธุรกิจกับเครือญาติจางของฉันอีกก็ไม่ใช่ว่าจะมิได้ แต่ ฉันจะให้ไอ้นี่ย่อเข่าแล้วอ้อนวอนฉัน!”
คำบอกเล่าของจางกว่างออกจากปาก สายตาของหยางเฉินก็มีความเหี้ยมโหดอำมหิตที่ต้องการจะฆ่าคนแวบขึ้นมา
นายท่านได้ยินถ้าอย่างงั้นก็ไม่ลังเลเลยนิดหน่อย และจากนั้นก็กล่าวกับหยางเฉินว่า “ไอ้สวะ ยังไม่รีบย่อเข่าขอความช่วยเหลือประธานจางให้ปลดปล่อยเชื้อสายฉินอีก!”
หยางเฉินมองนายท่านด้วยสายตาเย็นชา แล้วกล่าวนิ่งๆว่า “ท่านไม่เคยทราบด้วยว่าระหว่างผมกับเขาเกิดเหตุอะไรขึ้น ก็จะให้ผมย่อเข่าขอเขาแล้ว?”
“ท่านบอกเองว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับเครือญาติฉิน The king of War เขาจะปลดปล่อยเครือญาติฉินมั้ย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม?”
“จะให้ฉันยอตัว พวกท่านไม่มีสิทธิ์นั้น!”
หยางเฉินขณะนี้ เด่น ยืนหยัดอย่างองอาจ ความมีอิทธิพลส่องแสงทั่วตัว
ฉินซีที่อยู่ใกล้ที่สุด มองเห็นหยางเฉินที่มองมีอำนาจขนาดนี้ก็แอบตกอกตกใจนิดนึง ไม่พบห้าปี เขาแปรไปจริงๆ
“ไอ้สวะ!”
นายท่านโกรธกับคำบอกเล่าของหยางเฉินจนกระทั่งสั่นเทิ้ม ครู่หนึ่งถึงดุด่าคำนี้ออกไปได้
ขณะนี้ ผู้ชายวัยกลางคนใส่สูทรองเท้าหนังรีบบุกเข้ามาในห้องที่ใช้ในการประชุม กล่าวว่า “ท่านประธานนะครับ ประธานลั่วของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมานะครับ!”
“เยี่ยนเฉินกรุ๊ป?”นายท่านได้ยินรวมทั้งสะดุ้ง
แล้วก็มองเห็นผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินมา ลั่วปิง ผู้จัดการใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจวจริงๆด้วย
“ไม่รู้ว่าประธานลั่วมาถึงที่ มิได้มีการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยม หวังว่าจะยกโทษนะครับ!”นายท่านรีบเข้าไปหาแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆคารวะ วางตัวอย่างนอบน้อมอ่อนน้อมถ่อมตน
จางกว่างเองก็สะดุ้ง ไม่คิดเลยว่าจะได้พบลั่วปิงที่เชื้อสายฉิน รีบเข้าไปยื่นมือทำความรู้จัก “ประธานลั่วครับผม สวัสดีครับผม! ผมเป็นจางกว่างที่เชื้อสายจาง บิดาของผมเป็น…..”
ลั่วปิงยิ้มเยาะน้อย “เครือญาติจาง? เป็นอย่างไร?”
เมื่อได้ยินคำนั้น ทุกคนถึงกับอึ้ง จางกว่างบริเวณใบหน้าอึ้ง สีหน้าท่าทางแสดงออกถึงความโกรธน้อย รวมทั้งระลึกถึงคำกล่าวหนึ่งที่บิดาเขาเคยบอก “เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นบริษัทในเครือของเชื้อสายอวี่เหวินคนมั่งมีลำดับที่หนึ่งของเย็นตู ซึ่งๆหน้าเชื้อสายอวี่เหวิน เชื้อสายจางของเขาก็แค่อากาศ! ห้ามไปมีปัญหากับบุคคลที่เกี่ยวกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเด็ดขาด”
ระลึกถึงนี่ จางกว่างก็อุตสาหะกดความรู้สึกโกรธของตนลง
“นายไม่ชอบใจ?”
ลั่วปิหาองจางกว่าง
meenovel.com/novel/the-king-of-war/
จางกว่างตระหนกตกใจ รีบส่ายหน้า “ประธานลั่วนะครับ ท่านกล่าวถูก ในสายตาของท่าน เชื้อสายจางก็แค่เพียงแต่อากาศ ไม่สิ เป็นมิได้แม้กระทั้งอากาศด้วย ท่านอย่าโกรธผมเลยนะครับ”
เขาเหงื่อออกตลอดตัว
แม้ว่าลั่วปิงจะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการใหญ่ของสาขาย่อย แม้กระนั้นขอแค่เพียงสามารถมีความเกี่ยวพันกับเชื้อสายอวี่เหวินได้ก็ห้ามมีปัญหาด้วยเด็ดขาด
ลั่วปิงเยาะเย้ยและไม่สนใจอะไรอีก
เขามองผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวมแว่นกรอบสีทองคำที่อยู่ข้างหลัง รีบเข้าไปหา เอาข้อตกลงออกมาฉบับหนึ่ง แล้ววางไว้ข้างหน้านายท่านฉิน
“นี่เป็น?”
นายท่านฉินมีแม้กระนั้นความข้องใจ เมื่อมองเห็นหัวข้อของข้อตกลงก็ตะลึงงัน
สายตาลั่วปิหาองมาที่หยางเฉิน แล้วต่อจากนั้นก็ดูไปนายท่านฉิน ยิ้มน้อย “ผมถูกความบริสุทธิ์ใจจากฉินซีของบริษัทท่านทำให้มีความรู้สึกถูกใจ คุณต้องการจะพบผม เฝ้าอยู่หน้าประตูถึงหนึ่งวันเต็มๆความสุจริตใจอย่างนี้ ถ้าเกิดผมยังไม่ยินยอมเซ็นสัญญา ก็น่าจะมิได้แล้วละครับ คำสัญญาฉบับนี้ผมเซ็นเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว แค่เพียงท่านประธานฉินลงชื่อ ก็จะส่งผลโดยทันที”
ตรึงใจกับความบริสุทธิ์ใจของฉินซี?
เป็นได้อย่างไรกัน?
ทุกๆคนมีสีหน้าท่าทางตะลึงงันและฉินซีเองก็ด้วยเหมือนกัน
ไม่นาน ฉินซีนึกขึ้นได้ว่าฉินยีพูดว่าจะช่วยคุณเรื่องคำสัญญา หรือ เพราะเหตุว่าฉินยี?
เชื้อสายเชื้อสายฉินที่เมื่อกี้นี้ยังพูดว่าจะเฉดหัวไล่ฉินซีออกมาจากเชื้อสาย ช่วงนี้ต่างก็ปิดปากเงียบเงียบ สายตาที่มองดูฉินซีก็แปรไป
โดยยิ่งไปกว่านั้นฉินเฟยที่ตกอกตกใจมากมาย
เขาคิดหาวิธีจะไปผูกมิตรกับพวกประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว แต่ว่าอีกข้างไม่สนใจเขาด้วย
ภารกิจของลั่วปิงสำเร็จ ไม่นานก็กลับไป
จางกว่างที่เมื่อสักครู่กล่าวว่าจะดูหมิ่นเครือญาติฉินก็แอบๆหนีออกไปแล้ว
“ฉันมีเรื่องมีราวจะประกาศ!”
สายตานายท่านฉินกวาดมองดูทุกคน
บริเวณใบหน้าทุกคนตื่นเต้น สามารถเซ็นสัญญากับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้ อนาคตของเชื้อสายฉินก็เจิดรุ่งเรืองแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีช่องทางที่จะขึ้นเป็นคนมั่งมีระดับหนึ่งของเจียงโจวก่อนปลายปีนี้ด้วย
ขณะนี้ในใจของฉินซีตื่นเต้นมากมาย สองมือกำไว้แน่น
สำหรับการสัมมนาสองวันก่อน นายท่านฉินบอกเองว่าผู้ที่สามารถเอาคำสัญญาจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาได้ ก็จะได้ตกทอดตำแหน่งท่านประธานของซานเหอกรุ๊ป วันนี้คุณได้คำสัญญามา นายท่านฉินจำเป็นที่จะต้องประกาศหัวข้อนี้แน่นอน
ผู้อื่นก็มองดูฉินซีด้วยบริเวณใบหน้าริษยา
“สมแล้วที่เป็นคนเก่งของเชื้อสายฉิน เอามาได้ถึงแม้ว่าจะคำสัญญาของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป”
“ถ้าเชื้อสายฉินสามารถขึ้นเป็นคนมั่งคั่งระดับหนึ่งของเจียงโจวได้ เพื่อนซีก็เป็นผู้ที่ออกแรงที่สุด”
“เพื่อนซีสู้ๆภายหลังจากวันนี้ฉันจะตั้งอกตั้งใจดำเนินการกับคุณแน่ๆ”
ก่อนลั่วปิงจะมา ยังจะพากันไล่ฉินซีออกมาจากเครือญาติอยู่เลย แต่ว่าปัจจุบันนี้เสมือนแปรไปเป็นคนละคน แต่ละคนทำเป็นสุจริตต่อฉินซี
ตอนนี้เองนายท่านฉินก็บอกขึ้น “ตั้งแต่วันนี้ไป ฉินเฟยเป็นท่านประธานของซานเหอกรุ๊ป ดูแลการร่วมธุรกิจทั้งผองกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ผู้อื่นช่วยเหลือเขาให้เต็มกำลัง”
ไม่มีผู้ใดมีความรู้สึกว่านายท่านฉินจะตกลงใจอย่างนี้ แม้กระทั้งตัวฉินเฟยเองก็เสมือนจะไม่คาดฝัน ภายหลังที่นิ่งค้างครู่หนึ่ง ฉินเฟยก็ตื่นเต้นดีใจ แล้วรีบยืนขึ้นกล่าวว่า “ขอบคุณมากสำหรับความเชื่อถือของปู่ครับผม ปู่พอใจได้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ๆขอรับ!”
“ดี เลิกสัมมนา!”
นายท่านฉินยืนขึ้นแล้วไม่กล่าวถึงคำมั่นสัญญาที่ออกมาจากปากเมื่อสองวันก่อนสักหน่อย
“ปู่ขา!”
ฉินซีกระวนกระวาย รีบเข้าไปถาม “ปู่ ท่านพูดว่าคนใดกันที่ได้คำสัญญาของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมา ก็จะให้ตำแหน่งท่านประธานของซานเหอกรุ๊ปกับคนนั้นไม่ใช่หรอ? แล้วเพราะเหตุใดถึงให้ฉินเฟยเป็นประธาน หนูไม่ยินยอมจ้ะ!”
