The king of War - ตอนที่ 53 ฉินเฟยยอตัว

อ่านนิยาย The king of War บทที่ 53 ออนไลน์
ฉินเฟยยืนอยู่หน้าประตู ท่าทางบนบริเวณใบหน้าเบาๆเหยเกขึ้นมา
“เหลวแหลก! ก็แค่คนไร้ประโยชน์ที่ผู้ใดมองเห็นผู้ใดกันก็เกลียดคนหนึ่ง ถึงกับกล้าบอกกับฉันแบบงี้” ฉินเฟยกัดฟันด้วยความแค้น
“คนใดกัน? ” มองเห็นหยางเฉินกลับมา ฉินซีก็เอ่ยถาม
“เป็นฉินเฟย! ” หยางเฉินสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง
ได้ยินคำบอกเล่าของหยางเฉิน ฉินซีเอ่ยอย่างประหลาดใจ “เพราะอะไรเขาถึงมา? ”
“ที่ผ่านมาคุณถือคำสัญญาร่วมมือไปพบนายท่านฉิน เป็นเขาที่ไล่คุณออกไปด้วยตัวเอง ยังมีความคิดว่าไม่มีคุณ ก็สามารถร่วมมือกับซานเหอกรุ๊ปได้ ในช่วงเวลานี้คุณถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการของบริษัท แน่ๆว่าพวกเขาไม่ค่อยสบายใจว่าความร่วมมือที่ตอนแรกคุยไว้เป็นระเบียบแล้วจะยกเลิกกลางทาง ด้วยเหตุนั้นก็เลยให้ฉินเฟยมาหาคุณ” หยางเฉินเอ่ยตอบ
“เกลอซี คุณแปลงเป็นผู้จัดการของซานเหอกรุ๊ปแล้ว? ”
โจวยู่ชุ่ยๆได้ยินคำบอกเล่าของหยางเฉิน สีหน้าท่าทางยินดี ฉินยีก็ดูไปทางฉินซีอย่างยอดเยี่ยมจิตใจ
ฉินซีสีหน้าสลับซับซ้อนดูไปที่หยางเฉินรอบหนึ่ง ในทันทีต่อจากนั้นก็หันไปทางโจวยู่มักง่ายและก็ฉินยีแล้วผงกศีรษะ “วันนี้ก่อนเลิกงาน พึ่งจะตั้ง”
“เพราะเหตุไรลูกไม่รีบบอก? แม่ทำครัวเพิ่มเติมหลายชนิด สังสรรค์ให้ลูก! ” โจวยู่ชุ่ยๆยืนขึ้นหมุนไปที่ครัวอย่างตื่นเต้น
ฉินยีหัวเราะสดใสร่าเริงเอ่ยว่า “พี่ อย่างงี้ก็ดี วันพรุ่งฉันเลี้ยง เราอีกทั้งครอบครัว ออกไปทานข้าวกัน”
“ได้สิ แบบนั้นก็ไปรับประทานข้าวร่วมกันวันพรุ่งเหอะ! ” ฉินซีในใจอบอุ่น แม้กระนั้นคุณทราบดี ทั้งผองนี้เป็นหยางเฉินที่มอบให้คุณ เพียงแค่ฐานะของหยางเฉินนั้นพิเศษ เรื่องพวกนี้ยังไม่อาจจะเผยได้
คนอีกทั้งครอบครัวกำลังเสวนาอย่างสุขสบาย โทรศัพท์เคลื่อนที่ของฉินซีก็ดังขึ้นมา คุณมองเลขแวบหนึ่ง ย่นคิ้วนิดหน่อย
“รับก่อนเถิด! มองว่าเขาจะกล่าวอะไร” หยางเฉินมองออกถึงความโลเลของฉินซี
ภายหลังฉินซีรับสาย ก็ได้ยินเสียงของฉินเฟยดังออกมา “เพื่อนซี ฉันมาหาคุณมีเรื่องมีราวด่วน ก่อกวนคุณมาเปิดประตูให้หน่อยได้ไหม? ”
ฉินซีย่นคิ้ว เอ่ยเสียงเย็น “ถ้าเกิดเกิดเรื่องส่วนตัว คุยในโทรศัพท์ก็ได้ ถ้าเกิดเกิดเรื่องสาธารณะ ไปพบฉันที่บริษัท”
“คุณเปิดประตูก่อนได้ไหม? เราเสวนาเฉพาะหน้า มีเรื่องมีราวเร่งด่วนจริงๆ” เสียงของฉินเฟยฟังดูแล้วรีบร้อนมากมาย
ฉินซีตอนนี้ก็ไม่รู้จักว่าจะทำเช่นไรแล้ว ดูไปทางหยางเฉินด้วยสายตาอ้อนวอน
หยางเฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ผงกศีรษะ The king of War ต่อมาก็ก้าวออกไปเปิดประตูแล้ว
“ได้! ” ฉินซีตอบแค่เพียงคำเดียว ก็วางสายโทรศัพท์ไป
ไม่นานนัก ฉินเฟยตามหยางเฉินเข้ามาในห้อง
ฉินซีอีกทั้งครอบครัวล้วนมีสีหน้าท่าทางเย็นชา ไม่มีผู้ใดพอใจเขา
ฉินเฟยหิ้วกล่องของขวัญอยู่ในมือ ไปที่ข้างหน้าของโจวยู่มักง่ายก่อน ยิ้มแย้มเอ่ยว่า “ป้าสอง นี่เป็นเครื่องแต่งหน้าโด่งดังของจริงที่ฉันวานสหายให้นำกลับมาจากต่างแดน เพื่อจัดเตรียมให้ท่านเป็นพิเศษ ขอให้คุณรับไว้”
โจวยู่มักง่ายได้ยินเครื่องแต่งหน้ามีชื่อเสียงของจริง ก็รับกล่องของขวัญมาวางไว้ที่หน้าตัวเองอย่างไร้วิธีการยิ่ง เอ่ยถามสีหน้าท่าทางเย็นชา “ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว นายมาหาเพื่อนซีมีเรื่องมีราวอะไร? ”
ฉินเฟยมองเห็นโจวยู่มักง่ายรับกล่องของขวัญไป ในใจก็แอบยินดี รีบเอ่ยว่า “ต้นเหตุที่ฉันรีบมาหาเกลอซีขนาดนี้ มีอยู่สองเรื่อง บอกเรื่องน่าชอบใจเรื่องแรกก่อน ปู่มอบหมายมาเป็นพิเศษ ให้ฉันมาแทนเขา เชื้อเชิญพวกท่านกลับคฤหาสน์เชื้อสายฉิน ปู่ยังจัดแจงที่พักข้างหลังหนึ่งเพื่อพวกท่านไว้ภายในคฤหาสน์ด้วย ใหญ่มากยิ่งกว่าบ้านเก่าสองรุ่นหลังนี้หนึ่งเท่า ทั้งหมดทั้งปวงกวาดเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เข้าไปก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย”
โจวยู่ชุ่ยๆยินดีขึ้นมาในทันทีทันใด เอ่ยถามคำถามว่า “นายกล่าวใช่หรือ? เวลานี้กลับไปก็เข้าอยู่ได้เลยหรือ? ”
“แม่! ” ฉินซีมองดูถัดไปไม่ไหวแล้ว เอ่ยสีหน้าท่าทางเย็นชาว่า “ตอนนี่เรามีชีวิตอยู่ดีมากมาย มีที่ให้อาศัย ในเมื่อถูกไล่ออกจากเครือญาติแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ต้องกลับไป บอกเรื่องลำดับที่สองเหอะ! ”
สำหรับฉินเฟยแล้ว ฉินซีจะกลับไหมกลับเชื้อสาย ก็ล้วนไม่เกี่ยวกับเขา เรื่องลำดับที่สองถึงจะเป็นหัวข้อหลัก
เขารีบเอ่ยตอบ “เรื่องลำดับที่สอง ก็คือเรื่องความร่วมแรงร่วมใจที่ที่ผ่านมาซานเหอกรุ๊ปตกลงกับเชื้อสายฉิน จนกระทั่งขณะนี้ยังมิได้เซ็นชื่อให้เสร็จ ขณะนี้ในเมื่อคุณขึ้นรับตำแหน่งแล้ว ใช่ว่าสามารถรีบเอาคำสัญญามาดำเนินการให้เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แล้ว? ”
อย่างกับที่หยางเฉินเดาทั้งมวล ฉินเฟยมาถึงที่นี่ ก็เพื่อความร่วมแรงร่วมมือ ส่วนเรื่องที่จะให้ฉินด้านลับเข้าเครือญาติ เกรงว่าเป็นแค่เพียงความมุ่งมั่นของนายท่านฉินแค่นั้น ด้วยฐานะของฉินซีปัจจุบันนี้ เมื่อกลับเชื้อสายฉินอีกครั้ง สถานะในเครือญาติฉินก็จะเป็นเสมือนเรือที่ลอยขึ้นสูงตามน้ำ
หยางเฉินมิได้พูดจา แค่เพียงดูฉินซีจัดแจงอยู่เฉยๆไม่อย่างนั้นในช่วงเวลาที่ฉินเฟยโทรศัพท์มา เขาก็น่าจะให้ฉินซีไม่ยอมรับไปแล้ว””
ต้นสายปลายเหตุที่ต้องการเจอฉินเฟย ก็คือต้องการจะมองเห็นการเลือกของฉินซี
meenovel.com/novel/the-king-of-war/
โจวยู่มักง่ายเวลานี้ก็เลือกที่จะเงียบอย่างชาญฉลาด คุณไม่ทึ่ม รวมทั้งรู้เรื่องแนวทางไม่มีเรื่องร้อนรนไม่ถ่อไปวัดข้อนี้
ฉินซีหัวเราะเสียงเย็นกาลครั้งหนึ่ง “ความร่วมแรงร่วมใจเพราะเหตุใดถึงปราศจากความก้าวหน้าโดยตลอด บุคคลอื่นบางครั้งอาจจะไม่กระจ่าง หรือนายก็ยังไม่รู้เรื่องหรือ? ”
“เพื่อนซี เมื่อก่อนเป็นฉันที่ไม่ถูกต่อคุณ กล่าวร้ายคุณทุกๆที่ ทั้งสิ้นนี้ล้วนเป็นความไม่ถูกของฉันคนชั่วช้าคนนี้ ไม่ถูกไปและจากนั้นก็เป็นไม่ถูกไปแล้ว ฉันจะไม่ขอให้คุณยกโทษ”
ฉินเฟยขออภัยก่อน ต่อมาก็เอ่ยตอบด้วยท่าทีบริสุทธิ์ใจ “แม้กระนั้น ฉันหวังว่าคุณจะเห็นแก่ฐานะที่ทุกคนล้วนสกุลฉิน ปลดปล่อยเชื้อสายฉินไปสักหนึ่งครั้ง ถ้าหากเป็นไปไม่ได้ยกโทษฉันจริงๆก็ช่างเถอะ ฉันสามารถไปกล่าวกับปู่ได้ ว่าให้ไล่ฉันออกมาจากเชื้อสาย ฉันก็ไม่มีอะไรจะบอก ขอเพียงแต่เชื้อสายฉินสบายดี”
น้ำเสียงของฉินเฟยบริสุทธิ์ใจมากมาย คนที่ไม่รู้จักความประพฤติปฏิบัติของเขา ยังมีความคิดว่าอารมณ์ความรู้สึกของเขาสั่นไหวจริง หยางเฉินมองอยู่ข้างๆด้วยสายตาเย็นชา
ฉินซีกัดริมฝีปากแดงเบาๆดูไปที่หยางเฉินแวบตามจิตไร้สำนึก มองเห็นเขามิได้มองดูที่ตัวเอง เห็นได้ชัดว่ามอบสิทธิ์ทั้งปวงให้คุณจัดแจงประเด็นนี้
ก็เป็นตอนนี้เอง ฉินเฟยทันทีแสดงความประพฤติหนึ่งที่ทำให้คนตะลึงงันออกมา
“อาคาร! ”
ที่ทำให้ทุกคนตกอกตกใจก็คือ ฉินเฟยถึงกับขนาดยอตัวลงที่ข้างหน้าของฉินซี เขาก้มหน้าต่ำ ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ บริเวณใบหน้าเต็มไปด้วยความอับอายขายหน้าและก็เหยเก แต่ว่าในขณะที่เขาแหงนหน้าขึ้นมา บริเวณใบหน้ามีเพียงแค่การขอความช่วยเหลือ “เพื่อนซี ฉันรู้เรื่องรู้ราวไม่ถูกแล้วจริงๆขอความช่วยเหลือคุณ ให้ทางออกแก่เชื้อสายฉินสักทาง ขอแค่เพียงความร่วมแรงร่วมใจของเชื้อสายฉินและก็ซานเหอกรุ๊ปสามารถเซ็นชื่อเสร็จได้อย่างสบาย คุณคิดจะให้ฉันทำยังไง ฉันล้วนเต็มอกเต็มใจ”
“นายทำอะไรน่ะ? ”
ฉินซีอุทานเสียงหนึ่ง รีบเอ่ยขึ้น “นายรีบยืนขึ้น! ”
“ถ้าเกิดคุณไม่รับปากฉัน ฉันก็จะย่อเข่าถัดไป” ฉินเฟยสายตาเต็มไปด้วยความตั้งใจ
“นายยืนขึ้นมาก่อน มิเช่นนั้นฉันจะยกเลิกความร่วมแรงร่วมใจกับเครือญาติฉิน” ฉินซีกัดฟันบอก
ได้ยินคำบอกเล่านี้ของฉินซี บริเวณใบหน้าของฉินเฟยเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม รีบลุกขึ้นยืน เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “เพื่อนซี ความหมายของคุณเป็น ขอเพียงแต่ฉันยืนขึ้นมาแล้ว ก็จะร่วมมือกับเครือญาติฉินถัดไป? ”
“นายกลับไปบอกปู่ เชื้อสายใหญ่ก็ควรจะมีรูปแบบของเครือญาติใหญ่ อย่าได้ทำเรื่องที่เทียวไปเทียวมาโดยเด็ดขาด ในเมื่อไล่เราอีกทั้งครอบครัวออกมาจากเครือญาติแล้ว แบบนั้นวันหลัง เราก็ปราศจากความสมาคมอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
ฉินซีบริเวณใบหน้าสลับซับซ้อนมองดูไปที่ฉินเฟยแล้วเอ่ยตอบ “ยังมีอีก คราวนี้ เป็นหนสุดท้ายของฉันที่สามารถช่วยเครือญาติ ส่วนบุญคุณเลี้ยงที่เชื้อสายมีต่อฉัน ในเวลาที่เชื้อสายแย่งเอาซานเหอกรุ๊ปไปจากมือของฉันนาทีนั้น ก็ทดแทนกลับไปจนกระทั่งหมดแล้ว”
หน้าที่หลักของฉินเฟยก็เป็นได้รับความร่วมแรงร่วมมือมา ฉินซีไม่ยินยอมกลับไป สำหรับเขาแล้วกลับกลายข่าวดี เขารีบเอ่ยตอบ “คุณไว้ใจ ฉันจะเอาคำบอกเล่าของคุณ บอกกับปู่โดยไม่ตกหล่นสักคำเดียว คราวนี้ ฉันเป็นผู้แทนของเครือญาติฉิน ขอแสดงความขอบพระคุณต่อคุณจากใจจริง! ”
ฉินเฟยกล่าวไป ถึงกับยังโค้งลงต่ำไปทางฉินซีกาลครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นก็หมุนกายจากไป
ตอนที่เขาหมุนกลับชั่วครู่นั้น ผู้ใดกันแน่ก็มิได้มีความคิดเห็นว่า บนบริเวณใบหน้าของเขาเหยเกไปด้วยความโกรธเคือง
ดวงตาทั้งสองของหยางเฉินเบาๆหยีลง ตลอดระยะเวลารอคอยจนกระทั่งฉินเฟยหายไปจากในสายตาแล้ว เขาถึงได้งึมงำเสียงค่อยว่า “ยอดเยี่ยมอย่าได้ทำเรื่องที่ไม่ถูกต่อเกลอซีขึ้นมาอีก ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้เครือญาติฉินอีกทั้งเครือญาติฝังไปพร้อม! “
